โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ประท้วง “จอร์จ ฟลอยด์” ยังดุเดือด ผู้ชุมนุมถูกจับแล้วกว่า 9,000 ชีวิต

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 03 มิ.ย. 2563 เวลา 14.08 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 14.08 น.
FEDA0A0A-35C4-4684-BB33-5A0CB45C21CD

สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานในวันนี้ (3 มิ.ย. 2020) ต่อสถานการณ์การชุมนุมกรณีการเสียชีวิตของ “จอร์จ ฟลอยด์” ซึ่งปัจจุบันได้ลุกลามไปทั่วโลก ที่สหรัฐพบว่าชาวอเมริกันจำนวนหลายหมื่นชีวิตยังคงออกมาประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน โดยเหตุการณ์ได้บานปลายจนเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ของทางการในหลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาซึ่งปัจจุบันมีผู้ประท้วงถูกจับกุมแล้วกว่า 9,000 ราย

รายงานระบุว่าที่เมือง “พอร์ตแลนด์” ได้เกิดการการปะทะกันขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่ง “เจมี่ เรสช์” หัวหน้าตำรวจเมืองพอร์ตแลนด์ ระบุว่า “กลุ่มผู้ประท้วงได้พยายามฝ่าแนวของเจ้าหน้าที่เพื่อบุกเข้ามายังสำนักงานตำรวจและเรือนจำ” โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหลายร้อยคนได้ขว้างประทัดและขวดแก้วใส่แนวของเจ้าหน้าที่ซึ่งตอบโต้ผู้ชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตาและระเบิดแสง

ขณะที่เมือง “นิวยอร์ก” ผู้ชุมนุมหลายพันคนได้ออกมาประท้วงตามบริเวณต่าง ๆ ของเมืองและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ในบางพื้นที่ ซึ่งในกรณีดังกล่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเกิดการจับกุมผู้ประท้วงกว่า 200 ราย ในข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิวส์ นอกจากนี้ยังพบว่าเกิดการบุกเข้าปล้นร้านค้าต่าง ๆ บริเวณพื้นที่แมนฮัตตันและยูเนี่ยนสแควร์

ในส่วนของเมือง “ฮุสตัน” ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของ “จอร์จ ฟลอยด์” ชาวเมืองกว่า 60,000 ได้ออกมาเดินขบวนเพื่อรำลึกถึงตัวเขา รายงานยังระบุอีกว่ายังมีการเดินขบวนขนาดใหญ่กันในอีกหลายพื้นที่ เช่น ลอสแอนเจลิส ฟิลาเดลเฟีย แอตแลนตา และเดนเวอร์ ซีแอตเทิล และวอชิงตัน ดีซี เป็นต้น

นอกจากนี้เหตุการณ์ได้ลุกลามไปทั่วโลก โดยการประท้วงได้ขยายตัวไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศ

โดยล่าสุดวันนี้ (3 มิ.ย. 2020) ทางกลุ่มต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและกลุ่ม Black Lives Matter ที่ประเทศอังกฤษ ได้เตรียมจัดการเดินขบวนที่ใจกลางเมืองลอนดอน รวมถึงรณรงค์แคมเปญการร่วมกันคุกเข่าทั่วประเทศเพื่อประท้วงกรณีการเสียชีวิตของ “จอร์จ ฟลอยด์”

ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวกับรัฐสภาของอังกฤษว่า ตนเข้าใจถึงความรู้สึกเสียใจและความโกรธแค้นที่เกิดขึ้น โดยตนสนับสนุนสิทธิการชุมนุมอย่างสันติและการปฏิบัติตามแนวทางการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0