นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 25 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่16-17 ตุลาคม 2561 ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี ว่า นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 25 มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี (นาย Charles Abel) เป็นประธาน พร้อมกับผู้แทนระดับสูงจากสมาชิกเอเปค 20 เขตเศรษฐกิจ (ยกเว้นสาธารณรัฐเปรู) และผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ กลุ่มธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย เป็นต้น เข้าร่วมการประชุมนี้ด้วย โดยแนวคิดหลักของการประชุมเอเปคประจำปี 2561 คือ การสร้างโอกาสอย่างครอบคลุม เพื่อเปิดรับอนาคตทางดิจิทัล โดยมีการหารือที่สำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคนับแต่เดือนตุลาคม 2560 เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็ง แต่ในช่วงระยะ6 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ อาทิ ความเปราะบางทางการเงิน ระดับหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น ความตึงเครียดทางการค้าและการเมือง ความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความไม่เท่าเทียมและปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเปคยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก คาดว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปคในปี 2561จะขยายตัว 3.7 – 4.1% จากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.5% จากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศเป็นสำคัญโดยที่ประชุมสนับสนุนให้สมาชิกเอเปคดำเนินนโยบายการเงิน การคลัง และการปฏิรูปเชิงโครงสร้างในการรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตอย่างทั่วถึงและมีส่วนร่วมเพื่อที่จะยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะปานกลาง
2. ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือหลายประเด็น อาทิ การเร่งรัดการลงทุนและระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพมีความสำคัญต่อการยกระดับการผลิต ส่งเสริมการเชื่อมโยง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างงาน และเสริมสร้างการเติบโตอย่างมีส่วนร่วมและทั่วถึง ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเปคเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนงบประมาณเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ประมาณการว่า ในระหว่างปี 2563 – 2568 ภูมิภาคเอเปคมีความต้องการเงินทุนเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉลี่ย เป็นจำนวนถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ช่องว่างด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่นี้สามารถจัดการได้ด้วยการเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยการกระจายเงินลงทุนผ่านแหล่งเงินทุนระยะยาว ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน รวมทั้งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อดึงดูดการลงทุน สนับสนุนการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถสร้างผลตอบแทน และพัฒนาโครงสร้างทางการเงินเพื่อที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุนสถาบันในระยะยาว และยังหารือการสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน การเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตอย่างมีส่วนร่วมและทั่วถึง ซึ่งจะช่วยยกระดับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของประชาชนและภาคธุรกิจ และสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดีของประชาชน นอกจากนี้ ที่ประชุมสนับสนุนให้สมาชิกเอเปคให้ความรู้ทางการเงินและส่งเสริมการใช้นวัตกรรมด้านการเงินเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง
นายลวรณกล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีได้ริเริ่มให้มีการจัดทำแนวทางพัฒนาศักยภาพ ของสมาชิกเอเปคในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การเร่งรัดการลงทุนและการระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน และการผลักดันความร่วมมือด้านภาษีและความโปร่งใสโดยจะรวบรวมกรณีศึกษา และแนวปฏิบัติที่ดี ของสมาชิกเอเปคในการดำเนินงานด้านต่างๆ รวมถึงจัดสัมมนาเชิงนโยบายเพื่อให้สมาชิกเอเปคได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ระหว่างกันด้วย
3.ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคได้มีการหารือถึงกลยุทธ์ทางการคลังในยุคดิจิทัล โดยปัจจุบันสมาชิกเอเปคให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล การสนับสนุนให้ภาครัฐจ่ายเงินให้แก่ประชาชนโดยตรงผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ การส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงิน และ ที่ประชุมได้หารือถึงกลยุทธ์ทางการคลังเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในภูมิภาค อาทิ ความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้อายุ โดยสนับสนุนให้ดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสทางการคลังผ่านการจัดทำกลยุทธ์ทางการคลังระยะปานกลาง และการรักษาระดับหนี้สาธารณะภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลัง สำหรับการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งต่อไปคือ ครั้งที่ 26 จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2562 ณ สาธารณรัฐชิลี
