โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ปปช.รื้อจีทูจีข้าวล็อต 2 สาวถึง"แม้ว-เจ๊แดง"สะเทือนยกครัว !?

Manager Online

อัพเดต 20 ม.ค. 2562 เวลา 19.08 น. • เผยแพร่ 20 ม.ค. 2562 เวลา 19.08 น. • MGR Online

เมืองไทย 360 องศา

หากรายงานข่าวที่ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ที่รายงานโดย"สำนักข่าวอิศรา"ระบุว่า ปปช.ได้ลงมติเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้วให้ไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ นายทักษิณ แกนนำพรรคเพื่อไทย โดยขยายข้อมูลมาจาก พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์

หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เจ้าหน้าที่ ปปช.ได้เข้าไปไต่สวน นายบุญทรง ถึงในเรือนจำ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีระบายข้าวและมันสำปะหลังแบบจีทูจี(รัฐต่อรัฐ)

หากรายงานข่าวนี้เป็นจริงก็ต้องถือว่าสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นครั้งใหญ่แน่ โดยเฉพาะกับครอบครัวของ นายทักษิณ ชินวัตร

สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร รายงานข่าวระบุว่า ในชั้นไต่สวนของ ปปช.ในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรกมีเอกชนบางรายให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนว่าเคยบินไปพบกับนักการเมืองใหญ่ในดูไบเพื่อเจรจาซื้อขายข้าวโดยนักการเมืองใหญ่รายนี้บอกว่าให้มาซื้อกับ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร(เสี่ยเปี๋ยง จำเลยคดีข้าวจีทูจีล็อตแรกที่เวลานี้รับโทษอยู่ในเรือนจำ)ได้โดยตรง

ส่วน นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รับรู้กันว่าเป็นแกนนำกลุ่มวังบัวบานในพรรเพื่อไทย และในทางการเมืองมองว่าเธอเป็นเสมือนเจ้านายของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์

ตามรายงานข่าวระบุเพียงแค่นี้ แต่อย่างไรก็ดีสามารถปะติดปะต่อและหาจุดเชื่อมโยงกันได้ เพื่อพิจารณาถึงสาเหตุความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบันและต่อเนื่องไปถึงอนาคตอีกด้วย

หากพิจารณาจากจุดเริ่มต้นที่ทำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวบางอย่าง ก็น่าจะพอเริ่มจับใจความได้ตั้งแต่การย้ายพรรคของ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยมาซบพรรคพลังประชารัฐ ลงสมัคร ส.ส.ในเขตพื้นที่เดิมของพ่อที่จังหวัดเชียงใหม่ และที่น่าสนใจก็คือคำพูดบางตอนของ นายเดชณัฐวิทย์ ระหว่างที่มีการเปิดตัวกับพรรคใหม่ เช่น

"อย่างที่ทุกคนทราบ และเห็นในข่าวได้ถูกโจมตีเสียๆ หายๆ จากฝั่งทนายของอดีตนายกฯ ซึ่งตนมองว่า บทบาททางการเมืองของพ่อผมได้จบไปตั้งแต่วันที่ศาลตัดสินจำคุก ตลอดระยะเวลาที่ท่านติดคุก ไม่เคยมีข่าวว่าท่านออกมาเลย พอมาถึงเวลาที่ท่านเจ็บป่วยและได้รับการรักษา ก็ดันไปเอาข่าวท่านไปเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ นานา ซึ่งส่งผลกระทบต่อท่านที่ต้องรับการรักษาตัว ถึงขั้นมีการพูดว่ามีการดีลวงในหรือเปล่า ทำให้คนอื่นที่ได้รับข่าวไม่อยากมาช่วย และเป็นการมองว่าป่วยจริงหรือไม่ เพราะเอาไปผูกกับเรื่องการเมืองไปหมด"

"โดยระหว่างที่ผมออกมาได้ปรึกษากับคุณพ่อว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิตการเมือง ซึ่งจุดประสงค์ของตนและครอบครัว คือ รักษาการป่วยของพ่อให้หายดี การที่คุณพ่อเป็นอยู่ทุกวันนี้ คงไม่ต้องตอบก็คงทราบว่าเป็นเพราะอะไร ทุกวันนี้พอเราต้องการความช่วยเหลือ ดันมาขี่ซ้ำ ผมก็ถามพ่อว่าเราจะเอาอย่างไรกันดี ถ้าอยู่มันโหดร้ายให้ผมทำการเมืองไหม พ่อให้ที่เหลือจากนี้เป็นการตัดสินใจของผมล้วนๆ ท่านบอกว่าชีวิตการเมืองของท่านจบไปแล้ว ต่อไปให้เป็นเรื่องของลูกตัดสินใจเอง"

นั่นเป็นคำพูดของ ลูกชาย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนออกมาแบบระบายความอัดอั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นในทำนองว่า"ไม่ได้รับการเหลียวแล"มิหนำซ้ำยัง"ถูกขี่ซ้ำ"เสียอีก เมื่อไปขอความช่วยเหลือ และมีการระแวงและมีคำพูดโจมตีจากฝ่ายของทนายอดีตนายกฯ ซึ่งน่าจะเป็นทนายความคนหนึ่งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ

อีกด้านหนึ่งเมื่อพิจารณาจากท่าทีแบบนี้ของลูกชาย นายบุญทรง มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ที่ผ่านมาน่าจะ"มีการคายข้อมูล"บางอย่างออกมาแล้วหรือไม่ จากคำพูดที่มีการพูดกันก่อนหน้านี้ว่า"กูพูดไม่ได้"นั้น แต่ตอนนี้อาจเป็น"กูพูดแล้ว"ก็ได้

ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากการโพสต์ข้อความลงในสื่อโซเชียลฯของ นายทักษิณ ชินวัตรก่อนหน้านี้หากยังจำกันได้ที่เขาใช้คำว่า "ยุติธรรมแบบป้อมๆ" มีเจตนาพุ่งเป้าดิสเครดิตสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)โดยยกเอาเรื่องกรณี"นาฬิกาเพื่อน"ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณหรือ"บิ๊กป้อม"มาถล่ม หลังจากที่มีการจุดพลุเรื่องข้อเสนอให้เจรจากับ นายทักษิณ โดยอ้างถึงความปรองดองในชาติ ซึ่งบิ๊กป้อม ได้บอกปัดอย่างสิ้นเชิงและให้กลับมาสู้คดีในศาลตามกระบวนการยุติธรรม

แน่นอนว่า เป้าหมายที่ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องการสื่อให้เห็นถึงกระบวนการที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเน้นย้ำไปที่ ปปช.และพล.อ.ประวิตร โดยไม่พูดถึงว่าคดีของเขานั้นเวลานี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว กลายเป็นจำเลย แล้ว โดยหวังว่าการมุ่งโจมตีไปที่"จุดอ่อน"ของรัฐบาลก็คือบิ๊กป้อมนั่นเอง ซึ่งก็อาจจะได้ผลอยู่บ้าง

แต่ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากรายงานข่าวข้างต้นที่ระบุว่า ปปช.เริ่มการไต่สวนคดีระบายข้าวจีทูจีล็อต 2 มาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มันก็น่าหวาดเสียว และเมื่อนำมาปะติดปะต่อกันมันก็เห็นถึงร่องรอยความเคลื่อนไหวต่างๆได้ชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องการเก็บตัวหรือการหายตัวไปของ "เจ๊แดง"นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ไปเป็นเวลานานแล้ว ตอกย้ำกับคำพูดปริศนาของ ลูกชายนายบุญทรง ในเรื่องความระแวงและ"ถูกขี่ซ้ำ" จนมาถึง"ยุติธรรมแบบป้อมๆ"ที่มุ่งโจมตีปปช.

มันก็น่าจะถึงบางอ้อว่าทำไม นายทักษิณ ชินวัตร ถึงได้นั่งไม่ติด ต้องโผล่ออกมาทุกวันจันทร์ในรายการ"กู๊ดมันเดย์" แม้ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาแบบไหน แต่มันน่าจะสะเทือนยกครัวกันก็คราวนี้แหละ !!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0