เอเอฟพี - บริติช สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ ต้องเข้าสู่ภาวะล้มละลายในวันพุธ(22พ.ค.) หลังรัฐบาลเผยว่าความพยายามเจรจาครั้งสุดท้ายกับเหล่าเจ้าของ ล้มเหลวไม่ได้รับคำรับประกันความช่วยเหลือทางการเงินเต็มจำนวน
ถ้อยแถลงระบุว่าศาลสูงในลอนดอนออกคำสั่งให้บริติช สตีล ลิมิเต็ด เข้าสู่การบังคับชำระบัญชี "บริติช สตีล ลิมิเต็ด ต้องเลิกกิจการตามคำสั่งของศาลสูงในวันพุธ นั่นหมายความว่าทรัพย์สินต่างๆของบริษัทจะถูกขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้"
เกรก คลาร์ก รัฐมนตรีฝ่ายกิจการด้านธุรกิจ ระบุว่า "รัฐบาลทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับบริติช สตีล, เกรย์บูล แคปิตอล เจ้าของบริษัทและเหล่าเจ้าหน้าที่ เพื่อสำรวจทางเลือกต่างๆที่เป็นไปได้เพื่อรับประกันทางออกแก่บรติช สตีล เราแสดงถึงความตั้งใจที่หาทางแก้ปัญหา และเมื่อเร็วๆนี้ก็เคยมอบเงินช่วยเหลือแก่ทางบริษัทไปแล้ว"
คลาร์ก อ้างถึงการเจรจาระหว่างบริษัทเกรย์บูล แคปิตอล ซึ่งถือหุ้นในบริติช สตีล และรัฐบาลอังกฤษ เกี่ยวกับการขอเงินกู้ 30 ล้านปอนด์เพื่อฟื้นฟูกิจการบริษัท แต่ประสบความล้มเหลว
อย่างไรก็ดี ในระหว่างนี้ ทางบริษัทยังคงดำเนินการซื้อขายผลิตภัณฑ์เหล็ก และจะยังคงจัดส่งสินค้าให้แก่เหล่าลูกค้าตามปกติ
สตีฟ เทอร์เนอร์ ผู้ช่วยเลขานุการใหญ่ สหภาพแรงงาน Unite Union ระบุว่าในขณะที่รัฐบาลตัดสินใจไม่เข้าควบคุมกลุ่มบริษัทเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่รัฐเป็นเจ้าของ แต่ให้สัญญาว่าจะยังจ่ายค่าจ้างพนักงานต่อไป ในความหวังว่าจะยังคงหาผู้ซื้อมาสานต่อกิจการได้
บริติช สตีลประสบปัญหาทางการเงิน หลังจากที่คำสั่งซื้อจากยุโรปลดน้อยลง อันเนื่องจากความไม่แน่นอนจากปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งการอ่อนค่าของเงินปอนด์, การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ผลิตภัณฑ์เหล็กราคาถูกจากจีนก็ได้แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดของทางบริษัท
ทิม โรช เลขานุการสหภาพแรงงาน GMB ให้คำจำกัดความการล้มละลายของผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤษ ว่าเป็นข่าวเศร้าสำหรับแรงงานหลายพันคนในอังกฤษ
ประมาณการว่าพนักงานของบริติช สตีล ราว 5,000 คนมีความเสี่ยงตกงาน เช่นเดียวกับอีก 20,000 คนในห่วงโซ่อุปทานของทางบริษัท
