*: (=' :') :: CrystalBunny :::::::::::::::::::::
มีสาวคนไหนเป็นบ้างไหมคะ ซื้อเสื้อแบบเปิดไหล่โชว์หลังน่ารักๆ มาเยอะแยะ แต่พอจะใส่ก็นึกขึ้นได้ว่าแผ่นหลังไม่ได้น่าดูเลย รอยดำจากสิว และสิวเพิ่งขึ้นใหม่นี่เต็มไปหมด กลายเป็นว่าซื้อมาทีไรก็ใส่ให้ตัวเองดู ใส่แล้วเดินเหงาๆ อยู่ในห้องคนเดียวซะงั้น TT
มาค่ะ ! เราจะรักษาสิวที่หลังไปพร้อมๆ กัน และวันนี้เราก็ไปหาวิธีดูแลสิวและรอยดำจากคุณแม่ คุณยาย คุณพี่ คุณเพื่อนมาฝากสาวๆ กัน ไหนเราไปดูซิว่า สูตรแต่ละคนที่ให้มาจะมีอะไรกันบ้างนะ
‘ﾟ･✿.｡.:* *.:｡✿*ﾟ’ﾟ･✿.｡.:* *.:｡✿
ใช้สบู่ที่ทำจากสมุนไพรกลั่น
ขั้นตอนแรกของการดูแลผิวก็คือการทำความสะอาด ดูเป็นวิธีที่เหมือนจะไม่สำคัญแต่จริงๆ แล้วสำคัญมากเลยค่ะ สาวผิวแข็งแรงก็โชคดีไป ใช้สบู่อะไรก็ได้ แต่สำหรับสาวที่แพ้ง่ายชอบเป็นสิวที่หลังการใช้สบู่สมุนไพรกลั่นจะช่วยรักษาสิวให้หายเร็วขึ้นได้ค่ะ
โดยสบู่สมุนไพรกลั่นก็ทำมาจากสมุนไพรหลายชนิด เช่น ขิง ขมิ้น เปลือกไพ ดังนั้นสบู่พวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ( เพราะใส่ไปก็ได้แต่กลิ่นสมุนไพรอยู่ดี ) นำมาถูที่หลังเช้าเย็น ซึ่งแนะนำว่าควรถูเฉพาะผิวที่มีปัญหาเรื่องสิวเท่านั้นนะคะ เพราะเป็นสบู่ที่ค่อนข้างแรงอาจทำให้ผิวส่วนอื่นแห้งบางได้
โดยสบู่สมุนไพรกลั่นก็จะช่วยรักษาอาการอักเสบของสิว และทำให้สิวแห้งไวขึ้น รวมถึงกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้ว ส่วนสบู่ที่แนะนำก็คือ มาดามเฮง เบนเนท รอว์ร่า เมอรี่เบลล์ มีขายอยู่ใน 7-11 ค่ะ
เช็ดหลังด้วยน้ำเกลือ
จะเป็นขวดน้ำเกลือแบบสำเร็จรูปก็ดี หรือทำเองก็ได้ค่ะ วิธีง่ายๆ ก็คือนำเกลือป่นมาต้มกับน้ำอุ่นมาต้มกับน้ำ โดยใช้เกลือ 1/4 ของน้ำทั้งหมดก็พอใช้ได้แล้วค่ะ รอเย็นแล้วนำใส่ขวดทิ้งไว้ จะเอามาใช้ก็เขย่าๆ สักหน่อยเทใส่สำลีแล้วเช็ดที่แผ่นหลัง บริเวณที่เป็นสิวทุกวันตอนเช้าและเย็นหลังอาบน้ำ
น้ำเกลือจะทำหน้าที่คล้ายๆ กับโทนเนอร์ค่ะ ( คิดซะว่าเป็นโทนเนอร์ออแกนิก ) เพราะสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย โทนเนอร์ก็อาจจะแรงไปหน่อยใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งน้ำเกลือก็จะช่วยทำลายเชื้อโรคได้พอๆ กับโทนเนอร์เลยค่ะ และยังบรรเทาอาการอักเสบของสิวที่มีอาการบวมอยู่ได้ ทำให้สิวแห้งไวขึ้น ยุบเร็วขึ้น และไม่ทำให้ผิวส่วนนั้นแห้งจนเกินไป
ใช้ยาสำหรับสิวที่หลังโดยเฉพาะ
อย่างที่เข้าใจกันดีค่ะว่า ผิวหน้าของเราบางกว่าผิวที่หลัง เพราะฉะนั้นการใช้ยาแต้มสิวที่ใช้กับหน้าอาจได้ผลน้อยลง ช้าลง หรืออาจไม่ได้ผลเลย แถมยังเปลืองเงินอีกต่างหาก ดังนั้นการเลือกใช้ยาทาสิวที่หลังโดยเฉพาะ หรือจะเป็นแบบสเปรย์จะทำให้การรักษาผิวที่เป็นสิวมีประสิทธิภาพมากกว่าค่ะ
เนื่องจากแผ่นหลังของเราเป้นพื้นที่ที่มีบริเวณค่อนข้างกว้าง สาวๆ ควรเลือกใช้แบบสเปรย์จะดีกว่าค่ะ โดยสเปรย์รักษาสิวที่แนะนำก็คือ Oxy Cure, Acne Ex,Acne Air การใช้สเปรย์จะช่วยลดโอกาสที่จะแสบผิวหลังจากสิวโดนตัวยา และยังใช้ง่ายกระจายตัวได้ดีค่ะ
ใช้ใยบวบขัดผิว
เมื่อสิวแห้งควรเริ่มใช้ใยบวบขัดผิวเพื่อกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้ว รวมถึงคราบยา คราบสกปรกต่างๆ วิธีก็คือค่อยๆขัดเป็นวงกลมอย่างเบามือ ไม่ควรถูแรงๆ เพราะอาจเกิดการอักเสบและทำให้สิวเห่อขึ้นมาอีก ตอนขัดก็ควรใช้ใยบวบเปล่าๆ ขัด
ไม่ควรขัดขณะที่ถูกสบู่อยู่ค่ะ เพราะอาจทำให้ผิวบางและแพ้ง่ายกว่าเดิม หมั่นทำแบบนี้ทุกสัปดาห์โดยทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หลังขัดเสร็จก็ควรล้างน้ำเปล่าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ใยบวบก็ควรตากไว้ให้แห้งหรือทางที่ดีก็ควรตากไว้ให้โดนแดดบ้างค่ะ ป้องกันเชื้อราและการสะสมหมักหมมต่างๆ
พอกหลังด้วยผงทานาคา
ในวันหยุดหรือวันว่างสบายๆ นอกจากจะรักษาด้วยสเปรย์รักษาสิวหรือขัดผิวแล้วก็ควรมีการพอกด้วยวิธีธรรมชาติอย่างผงทานาคาผสมกับน้ำอุ่นสะอาด แล้วจึงนำมาทาที่หลังทิ้งไว้ โดยใส่น้ำแค่ 1/3 ของผงทานาคา แล้วค่อยทาบางๆ ไปที่แผ่นหลังได้เลยค่ะ
ผงทานาคาจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรก และแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ช่วยลงการอุดตันของสิว และลดผิวมันได้ดี และช่วยบรรเทาอาการผดขึ้นจากอากาศร้อนๆ ไ้ด้ด้วยนะคะ สำหรับสาวๆ ที่ผิวแห้งก็อาจใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมสักหน่อย็จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นค่ะ
‘ﾟ･✿.｡.:* *.:｡✿*ﾟ’ﾟ･✿.｡.:* *.:｡✿
วิธีที่นำมาบอกต่อกันในวันนี้ก็อาจจะต้องใช้เวลากันหน่อยถึงจะเห็นผล แต่ก็เชื่อนะคะว่าการรักษาด้วยวิธีที่บอกไว้ข้างต้น จะทำให้สิวที่หลังของสาวๆ หายเร็วขึ้น และไม่เกิดรอยดำให้ช้ำใจกันแน่นอน ต่อไปนี้เสื้อเว้าหลัง เสื้อโชว์ผิวสวยๆ ก็ไม่ต้องค้างไว้อยู่ในตู้เสื้อผ้าอีกต่อไป!
ไปกันค่ะสาวๆ ว่าแล้วก็นำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดีกว่า ถ้าอย่างนั้นสำหรับวันนี้ก็ขอตัวลาไปรักษาสิวที่หลังก่อนนะคะ บายยย >w< //
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore
