โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

บุรีรัมย์​ฝนตกหนักครั้งแรกรอบปี น้ำท่วมถนนหลายสายอ่วมทั้งเมือง

สยามรัฐ

อัพเดต 25 ส.ค. 2562 เวลา 01.40 น. • เผยแพร่ 24 ส.ค. 2562 เวลา 23.58 น. • สยามรัฐออนไลน์
บุรีรัมย์​ฝนตกหนักครั้งแรกรอบปี น้ำท่วมถนนหลายสายอ่วมทั้งเมือง

บุรีรัมย์ฝนตกหนักสุดครั้งแรกในรอบปีนานกว่า 5 ชม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนหน้าสนามฟุตบอลช้างอารีน่า และถนนอีกหลายสายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์สูงกว่า 50 ซม. รถเล็กสัญจรไปมาด้วยความลำบาก ขณะรถยนต์ - จยย.หลายคันตกร่องที่กำลังขุดเจาะทำเกาะกลางถนนเพราะถูกน้ำท่วมและไม่มีสัญญาณไฟแจ้งเตือน

วันนี้(25 ส.ค.62) ที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้เกิดฝนตกหนักครั้งแรกในรอบปี ต่อเนื่องนานกว่า 5 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนสายบุรีรัมย์ – ประโคนชัย บริเวณหน้าสนามฟุตบอลช้างอารีน่า ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ความสูงตั้งแต่ 30 - 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวเกือบ 2 กิโลเมตร นอกจากนี้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เช่น ถนนสายแสนสุข ถนนข้างโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร ก็ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 30 – 50 เซนติเมตรเช่นกัน ส่งผลให้รถเก๋ง และรถจักรยานยนต์ สัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก บางคันเครื่องดับจอดเสียกลางถนน ทั้งนี้เวลาที่รถขับผ่านไปมาบริเวณถนนที่น้ำท่วม น้ำก็ไหลทะลักเข้าบ้านเรือนและร้านค้าที่อยู่ติดริมถนนด้วย

นอกจากนี้​ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังส่งผลให้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์หลายคัน เกิดอุบัติเหตุตกร่องกลางถนนลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ที่ได้ทำการขุดเจาะไว้เพื่อก่อสร้างเกาะกลางถนนได้รับความเสียหายด้วย เนื่องจากไม่มีสัญลักษณ์บ่งบอก และไม่มีสัญญาณไฟแจ้งเตือน ประกอบกับฝนที่ตกหนักได้ท่วมร่องที่ขุดเจาะไว้ทำเกาะกลางถนน ทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาไม่รู้ว่ามีการขุดเจาะถนนเพื่อทำการก่อสร้าง

นายเอกลักษณ์ สารสุข หนึ่งในเจ้าของรถยนต์กระบะที่เกิดอุบัติเหตุตกร่องกลางถนน บอกว่า ตนขับรถมาจากตัวเมืองบุรีรัมย์ จะกลับบ้านที่ อ.ประโคนชัย พอมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงที่ฝนตกหนักพอดีก็มองไม่เห็นร่องกลางถนนที่มีการขุดเจาะไว้เพื่อทำเกาะกลาง เนื่องจากถูกน้ำท่วม ประกอบกับจุดเกิดเหตุไม่มีป้ายหรือสัญลักษณ์บ่งบอกให้ชัดเจน และไม่มีสัญญาณไฟแจ้งเตือน ทำให้รถยนต์ รถเก๋ง และ จยย.ที่ขับผ่านถนนสายดังกล่าวตกร่องกลางถนนเสียหายไปหลายคัน โดยเฉพาะรถของตนเองก็มีพลเมืองดีมาช่วยเอาขึ้นใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กรณีดังกล่าวก็อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาดูแลทำสัญลักษณ์ หรือสัญญาณไฟแจ้งเตือนให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เพราะหากขับมาเร็วอาจถึงขั้นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0