โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"บุญเกื้อ" ร้อง ตร.สอบเงิน 7.2 ล้าน โครงการ เมย์เดย์ "คณะก้าวหน้า"

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 05 ก.ค. 2563 เวลา 09.27 น. • เผยแพร่ 05 ก.ค. 2563 เวลา 09.30 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย บุก สน.โคกคราม ลงบันทึกประจำวัน พร้อมมอบหลักฐาน ขอตร.ตรวจสอบโครงการ เมย์เดย์ เมย์เดย์ ปมเงินบริจาคช่วยโควิด 7.2 ล้าน ของคณะก้าวหน้า ยัน ตนก็เป็นผู้เสียหาย เหตุบริจาคให้ 1 สตางค์

วันที่ 5 ก.ค. ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม เพื่อขอลงบันทึกประจำวัน พร้อมมอบหลักฐานเป็นรายชื่อผู้บริจาค และจำนวนเงินของผู้บริจาค ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรณีเงินบริจาคโครงการ เมย์เดย์ เมย์เดย์ 7.2 ล้านบาท ของคณะก้าวหน้า ที่เปิดรับบริจาคช่วยเหลือประชาชนช่วง "โควิด-19" ที่มีข้อพิรุธ และความไม่โปร่งใส

ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ เปิดเผยว่า วันนี้นำหลักฐานเป็นบัญชีรายชื่อ และสเตทเมนต์ ของผู้บริจาคในโครงการ เมย์เดย์ เมย์เดย์ ของคณะก้าวหน้า ซึ่งตนติดตามโครงการนี้มาโดยตลอด โดยโครงการนี้เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตนก็เป็นประชาชนธรรมดา และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมบริจาค โดยตนบริจาคไป 1 สตางค์ ที่บริจาคแค่นี้เพราะเห็นว่าได้ยอดเยอะแล้ว ถึงจะเป็นเงินไม่มาก ก็น่าจะมีสิทธิ์ตรวจสอบความโปร่งใส ที่มีกระแสข่าวว่า ตนรับงานมาจากใครหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าตนมาทำหน้าที่ของประชาชน ไม่มีใครสามารถมาสั่งให้ตนทำอะไรได้ สำหรับโครงการนี้ตนตั้งข้อสังเกตหลายอย่าง เช่น การเปิดรับบริจาคไม่ควรจะใช้บัญชีส่วนตัวของ คุณ "ช่อ" พรรณิการ์ การรับบริจาคขนาดนี้น่าจะเปิดบัญชีในรูปแบบขององค์กร ที่จะต้องมีคนร่วมเปิดบัญชีร่วมกัน 3-4 คน รวมถึงเพิ่งมีการประกาศรายชื่อผู้ร่วมบริจาค ทั้งๆ ที่แถลงข่าวปิดโครงการไปนานแล้ว เป็นต้น และหาก น.ส.พรรณิการ์ จะนำสเตทเมนต์มาชี้แจง น่าจะเชิญนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม มาดูด้วยก็น่าจะมีความชัดเจน และน่าจะจบด้วยดี อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้กังวลว่าจะถูกดำเนินคดีกลับ ซึ่งได้เตรียมโฉนดที่ดินไว้หากถูกฟ้องร้องขึ้นมา

เบื้องต้น ตำรวจรับเอกสารไว้ตรวจสอบ และเชิญตัวนางสาวพรรณิการ์ รวมถึงคณะทำงานของโครงการ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมนำหลักฐานต่างๆ มาตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นไปตามที่ผู้ยื่นเรื่องตรวจสอบอ้างว่าผู้ถูกร้องยินดีที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนพร้อมกันกับผู้ร้อง ก็ยินดี ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วไม่พบข้อพิรุจในส่วนนี้ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ และถ้าหากพบข้อพิรุจส่วนใดก็ต้องรอให้ผู้ร้องมาแจ้งความดำเนินคดี ในภายหลังอีกครั้ง.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0