ประกันชีวิตเป็นสินค้าที่มีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่ง คือ บางครั้งก็เป็นสิ่งที่บางคนวิ่งหนีมาตลอดชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสินค้าที่หลายคนต้องการไขว่คว้ามาครอบครอง มีการพูดกันว่าจะมีคนอยู่ 5 ประเภทที่ต้องการซื้อประกันชีวิต?
1. คนที่มีความรัก
ความรักครอบครัวจึงวางแผนและทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดี คนกลุ่มนี้มักจะมีการวางแผนที่รอบคอบ คิดแม้กระทั่งหากตนเองไม่อยู่ดูแลแล้วครอบครัวจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คนกลุ่มนี้จะจัดสรรรายได้บางส่วนมาซื้อประกันชีวิตให้มี ทุนประกัน ที่มากเพียงพอกับค่าใช้จ่ายของครอบครัวให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นเพราะคำว่า ความรัก คำเดียวเท่านั้นเอง
2.คนที่รู้จักวางแผน
คนที่มีการวางแผนการเงินจะเข้าใจถึง รูรั่วทางการเงิน ที่เกิดจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ซึ่งมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะเป็นเงินก้อนใหญ่แค่ไหน แต่ถ้ามันเกิดก็ต้องรักษา ถ้ารักษาก็ต้องใช้เงิน แล้วจะใช้เงินจากไหน? คนกลุ่มนี้จึงใช้ ประกันสุขภาพ มาเป็นเครื่องมืออุดรูรั่วทางการเงิน ทำให้แผนการเงินและกระแสเงินสดของครอบครัวได้รับผลกระทบไม่มากมายนัก
3.คนที่ใส่ใจเรื่องเงินทอง
การวางแผนการเงินเกือบทุกประเภทต้องการเครื่องมือที่เรียกว่า ประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันทรัพย์สิน มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนแทบทั้งสิ้น ใครที่เข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนตาม Financial Planning Pyramid จะรู้ว่าการใช้ประกันชีวิตจะอยู่ในลำดับแรกของการวางแผน หากแผนการเงินของใครไม่มีการใช้ประกันเลย นั่นหมายถึงแผนการเงินนั้นยังไม่ครบถ้วนและอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้
4. คนที่กำลังเจ็บป่วย
หลายคนที่ต้องการมีประกันสุขภาพ มักเป็นคนที่เพิ่งตรวจพบความผิดปกติของร่างกาย เช่น ความดัน เบาหวาน หรือแม้กระทั่งเพิ่งตรวจพบเนื้อร้าย ซึ่งจะมีค่ารักษาที่แพงมาก ต่อให้มีการเพิ่มเบี้ยประกันมากกว่าปกติก็ยอม จากเหตุผลที่ยังไม่เคยซื้อประกันเพราะคิดว่า ก็ตอนนั้นมันยังไม่เป็นอะไร
5. คนที่ใกล้หยุดหายใจ
ถ้ารู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตและยังมีอีกหลายคนที่จะต้องพึ่งพารายได้ของเรา ค่าใช้จ่ายก็ยังอยู่ ลูกก็ยังต้องเรียน พ่อแม่ก็ยังต้องเลี้ยงดู ฯลฯ เราต้อง
เตรียมเงินไว้ให้พวกเขาเท่าไหร่? หรือจะปล่อยไปตามยถากรรม? ประกันชีวิตเป็นการเตรียมเงินก้อนใหญ่ที่ง่ายที่สุดเพื่อให้คนที่ยังอยู่ได้ใช้ชีวิตต่อไป
