วันที่ 5 มิ.ย. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม.พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ รอง ผกก., พ.ต.ต.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมกำลังนำหมายค้นของศาลจังหวัดกาญจนบุรี เข้าตรวจค้นและจับกุม นายทักษิณ มีความเจริญ อายุ 53 ปี ที่บ้านเลขที่ 199/9 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายและสถานที่ผลิตสมุนไพร ผลการตรวจค้นพบปืนลูกโม่ 2 กระบอก และปืนยาวอีก 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอีก 12 นัด
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
สำหรับจับกุมดังกล่าว ทางตำรวจ ปคม.ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี ที่ขอให้ช่วยเหลือแรงงานสัญชาติเมียนมา ซึ่งถูกนายจ้างใช้อาวุธปืนบีบบังคับใช้แรงงาน ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย และยังค้างค่าจ้างมานานหลายเดือนแล้ว พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ จึงส่งชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ จนพบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง จึงนำกำลังเข้าช่วยเหลือดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบตัว นายวี อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา กำลังทำงานผลิตสมุนไพร สอบสวนทราบว่า เข้ามาทำงานกับ นายทักษิณ ได้ปีกว่าแล้ว ในแต่ละวันต้องทำงานนานถึง 15-16 ชม. ตั้งแต่ 06.00-22.00 น. ไม่มีวันหยุด ส่วนค่าจ้างเดือนละ 9,300 บาท แต่ได้รับค่าจ้างเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น จากนั้นก็ไม่ได้รับอีกเลย เมื่อทวงถาม กลับโดน นายทักษิณ ข่มขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับ และแสดงอาการโกรธเคืองใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ จนเกิดความกลัว เพราะเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายด้วย
ส่วน นายทักษิณ ให้การรับสารภาพอ้างว่า ค้างค่าจ้าง นายวี จริง แต่ค้างเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น และก็ไม่เคยข่มขู่ทำร้ายร่างกายตามที่นายวี กล่าวอ้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น จากนั้นจึงควบคุมตัวส่ง สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงานตามกฎหมายต่อไป
