โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

บุกจับวิลล่าหรูบนเกาะสมุย ไร้ใบอนุญาต เจ้าของเผยโดนจ่ายสินบน 8 แสน

TODAY

อัพเดต 26 เม.ย. 2562 เวลา 02.27 น. • เผยแพร่ 26 เม.ย. 2562 เวลา 02.27 น. • Workpoint News
บุกจับวิลล่าหรูบนเกาะสมุย ไร้ใบอนุญาต เจ้าของเผยโดนจ่ายสินบน 8 แสน

เจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบวิลล่าหรู เปิดเป็นที่พักนักท่องเที่ยวบนเกาะสมมุย พบเจ้าของเป็นชาวเยอรมัน ไม่มีใบอนุญาตใด ๆ จึงควบคุมตัว ด้านเจ้าของบอกโดนขู่จ่ายสินบน 8 แสน แลกกับการก่อสร้างและเปิดแบบไม่มีปัญหา

วันที่ 26 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(25 เม.ย. 62) เวลา 08.00 น. พล.อ.ต. วันชัย บุญภักดี ที่ปรึกษาผอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกับ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุยฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าตรวจสอบวิลล่าหรูบนภูเขาเฉวงน้อย ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะสมุยที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ว่าถูกโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาติ มาเปิดแย่งลูกค้า เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และระบบเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ยังสงสัยว่า พื้นที่ก่อสร้างโรงแรมมีเอกสารสิทธิใดได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างถูกต้องหรือไม่

โดยกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบวิลล่าหลังหนึ่งที่เปิดเป็นโรงแรมให้เช่าเป็นรายคืน ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชัน มีชื่อว่า Best World Vision Villas Samui เป็นวิลล่าหรูเปิดเป็นโรงแรม ค่าบริการ คืนละ 6,000 บาท ภายในวิลล่ามี 6 ห้องนอน ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าพัก โดยมีนายสมิท ออลริช(MR.SCHMIDT ULRICH) อายุ 47 ปี สัญชาติเยอรมัน แสดงตัวเป็นเจ้าของ

ซึ่งขณะนั้นมีลูกค้าพักอยู่ 8 คน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารการจองห้องพัก ใบอนุญาติประกอบธุรกิจโรงแรม , ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และการแจ้งที่พักของคนต่างด้าว(แบบอ.1)  รวมถึง การแจ้งคนต่างด้าวเข้าพักภายใน 24 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่านายสมิท ไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม

นายสมิท ออลริช เจ้าของอาคาร ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อประมาณ 1ปี 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เดินทางไปประเทศเยอรมัน ผู้จัดการส่วนตัวแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารเข้ามาตรวจสอบ ถ่ายรูปวิลล่าหลังนี้ขณะกำลังก่อสร้างอยู่ พร้อมขอดูเอกสารก่อสร้าง แต่ตนเองไม่ได้ขออนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้ข่มขู่บอกให้หยุดก่อสร้างและรื้อถอนออก แต่ถ้าอยากก่อสร้างให้เสร็จและไม่ถูกดำเนินคดี ต้องจ่ายเงินแล้วเรื่องทุกอย่างจะจบ ตนเองจึงตกลงแล้วโอนเงินให้ไปในจำนวน 800,850 บาท เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 หลังจากนั้นก็ก่อสร้างจนเสร็จแล้วเปิดเป็นโรงแรมถึงทุกวันนี้

ด้านเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้นายสมิท นำหลักฐานการโอนเงินพร้อมทนายเข้าแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว แต่ในส่วนที่พบความผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายและต้องขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมให้ถูกต้องเสียก่อน จึงค่อยเปิดดำเนินการได้ และขอตรวจสอบเอกสารเอกสารหลักฐานการขออนุญาตประกอบกิจการ การขออนุญาตก่อสร้างฯมาแสดง แต่นายสมิท บอกว่าอยู่กับทนายความ และสำนักงานบัญชี เนื่องจากเป็นผู้รับดำเนินการให้ทั้งหมด  เจ้าหน้าที่ทหารจึงใช้ตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/59 เชิญตัวมาสอบถามหรือขอตรวจสอบไปยังสภาทนายความต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายสมิท ออลริช ว่าร่วมกันกระทำการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต , เป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจ (โรงแรมและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม) ที่คนไทยไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าวตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม(17),(19) และเป็นเจ้าบ้าน เจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ดูแลเคหะสถานหรือผู้จัดการโรงแรม ไม่แจ้งบุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมงตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 38 พร้อมสั่งระงับการใช้อาคารจะส่งเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครเกาะสมุยเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0