นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2563 ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบในหลักการ การปรับเพิ่มอัตราความเร็วสูงสุดของรถยนต์บนถนนทางหลวงที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป มีอัตราความสูงสุดที่ 120 กม./ชม. และการกำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับการขับรถยนต์ในช่องทางเดินรถช่องทางขวาสุด โดยใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.แล้ว
@ปีนี้ประเดิมสายเอเชีย 50 กม.
หลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะต้องหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ ต่อไป สำหรับถนนที่คาดว่าจะนำร่องก่อนภายในปีนี้ ระยะทาง 50 กม. คือ ถนนทางหลวงสายเอเชีย ช่วงบางปะอิน – ชัยนาท กม.ที่ 50 ส่วนจากชัยนาท-นครสวรรค์ กม.ที่ 150 ระยะทางประมาณ 100 กม. ซึ่งกรมทางหลวงจะต้องปรับปรุงพื้นผิวจราจรและยกเลิกจุดกลับรถบริเวณเกาะกลางที่มีทั้งหมด 30 จุดก่อน และทำการก่อสร้างจุดกลับรถแบบลอดใต้ถนนแทน ภายใต้วงเงินรวม 550 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มจริงได้ประมาณกลางปี 2564
@เคาะโครงสร้างร่วมด่วน N3-สายสีน้ำตาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังร่วมกันพิจารณาประเด็นการดำเนินงานส่วนของฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย – ลำสาลี (บึงกุ่ม) ในส่วนที่ซ้อนทับกับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 โดยให้การรภไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หารือร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในเรื่องรายละเอียดการก่อสร้างต่อไป และให้กระทรวงการคลังหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมสำหรับก่อสร้างในส่วนที่ทับซ้อนดังกล่าว วงเงิน 1,470 ล้านบาทต่อไป
