เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร และคนในรัฐบาลไปจัดซื้อและกำหนดสเปกกล้องซีซีทีวีที่จะไปติดตั้งในท้องถิ่นว่า "มันไม่ได้ ต้องทำตามขั้นตอน ทำตามกฎหมายอยู่แล้ว เป็นการวิ่งเต้นกันไปเอง คนอยากทำอยากได้อะไรก็พูดกันไปเรื่อย แต่จริงๆ แล้วต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและทีโออาร์ที่หน่วยงานเขาเป็นคนทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาแล้วจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่เขาตรวจสอบ ซึ่งเขากำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นใครไปอ้างแบบนี้ เมื่อถามว่า มีการเอาชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยไปแอบอ้างด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็อ้างไปเรื่อย
ขณะที่ วันเดียวกัน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น นำโดย นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมภิบาล ยื่นหนังสือถึง นายกฯและรมว.กลาโหมขอให้ตรวจสอบอ้างชื่อพล.อ.ประวิตรเพื่อล็อกสเปกติดตั้งกล้องซีซีทีวีทั่วประเทศ โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกฯ เป็นผู้รับหนังสือ
ทั้งนี้ กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนฯ ขอให้ตรวจสอบบุคคลที่แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร หลังจากทางกลุ่มฯ ได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายผู้ประกอบการติดตั้งกล้อง CCTV หลายรายว่า ได้มีกลุ่มบุคคลไปแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ ไปหาผลประโยชน์โดยการวิ่งเต้นล็อกสเปกงานติดตั้งกล้อง CCTV ภายใต้นโยบายสมาร์ทซิตี้ของรัฐบาล โดยเอาบริษัทของตัวเองและนอมินี ให้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาตามหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผลของการล็อกสเปกเพื่อให้พวกตัวเองชนะการประมูลและติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ได้คุณภาพไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ อีกทั้งยังมีการแอบอ้างชื่อบุคคลสำคัญของบ้านเมืองเพื่อ ให้ผู้หนึ่งผู้ใดที่เกี่ยวข้อง สำคัญผิดและเกรงใจ จะดำเนินการตามความต้องการของกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวคือ “กลุ่มเสี่ยก.” เป็นผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้ง CCTV และเป็นเจ้าของบริษัท ติดตั้งกล้อง CCTV โดยอ้าง เป็นผู้ประสานงานของผู้ใหญ่รัฐบาลได้
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า มีการอ้างว่าจะเข้าไปวางสเปคล่วงหน้าให้กับหน่วยงานที่จะจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ได้รับสเปค CCTV ของตัวเอง และทำให้บริษัทในกลุ่มของตนเองและนอมินีได้งานเป็นคู่สัญญาในหลายโครงการทั่วประเทศ อีกครั้ง ยังมีพฤติการณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ประกอบการติดตั้ง CCTV ที่สุจริตและบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นคนของผู้ใหญ่ในรัฐบาล
