นายขัติยา ไกรกาญจน์ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้สำรวจข้อมูลจากผู้ประกอบการ 1.5 พันกิจการ เพื่อประเมินศักยภาพผู้ประกอบการภาคการผลิต การค้า และบริการ พบว่า ในภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 2.0 มีสัดส่วน 61% และอยู่ในระดับ 1.0 จำนวน 9% รวมแล้วอยู่ในระดับ 1.0-2.0 มีสัดส่วนสูงถึง 70% ส่วนอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 3.0 มีสัดส่วน 28% และในระดับ 4.0 มีเพียง 2% ส่วนภาคการค้าและบริการ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 1.0 สูงถึง 48% ในระดับ 2.0 มีสัดส่วน 45% และอยู่ในระดับ 3.0 เพียง 7%
“จากผลการสำรวจครั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการอยู่ในระดับ 1.0-2.0 สูงกว่า 70% จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายของรัฐบาลในการยกระดับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ให้ไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งตามแผนการของรัฐบาลมีเป้าหมายภายใน 20 ปี จะยกประดับประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้นตามแผนภายในปี 2558 ธุรกิจส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 2.0 ปี 2563 จะต้องยกระดับธุรกิจไทยส่วนใหญ่ไปสู่ระดับ 3.0 ในปี 2568 จะไปสู่ระดับ 4.0 ในปี 2573 ยกระดับภาคการเกษตรไปสู่สมาร์ทฟาร์มมิ่ง ก้าวเข้าสู่เกษตร 4.0 และในปี 2578 ประเทศไทยจะเข้าสู่ระดับ 4.0 ทั้งประเทศอย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ การที่จะไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลควรจะตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่ประกอบด้วยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เนื่องจากการยกระดับประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 จะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง จึงต้องมีคณะกรรมการระดับชาติกำหนดนโยบาย เพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานไปในทิศทางเดียวกัน จึงจะทำให้ไปสู่จุดหมายตามที่ตั้งเป้าไว้ ในส่วนของ ส.อ.ท. จะลงไปให้ความรู้กับสมาชิกทุกๆด้าน เพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ขณะที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ก็จะนำข้อมูลนี้ ไปวางแผนพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ตรงจุด
