โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"บิ๊กตู่" สั่งจัดทัพใหม่ “ศอฉ.โควิด” ตั้ง 10 ศูนย์ฯรับมือทุกมิติ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 28 มี.ค. 2563 เวลา 01.33 น. • เผยแพร่ 28 มี.ค. 2563 เวลา 01.30 น. • Thansettakij

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ (28มี.ค.63) ไม่มีการเรียกประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19. ) หรือ ศบค.  ที่ทำเนียบรัฐบาลแต่อย่างใด โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งไม่ให้มีการประชุมในวันเสาร์ -อาทิตย์ เพื่อลดความแออัดของสถานที่และลดการเดินทางของศูนย์ฯให้เป็นตัวอย่างแก่ประชาชน แต่จะมีแถลงข่าวเวลา 11.00 น. โดยโฆษกศูนย์ฯผ่านทาง Facebook live และ สถานีโทรทัศน์ NBT 

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 27 มี.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2563 เรื่องการจัดโครงสร้างของ ศบค.  โดยระบุว่า 

ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 นั้นเพื่อเป็นการจัดโครงสร้างขององค์กรให้เหมาะสมแก่การปฏิบัติหน้าที่และเพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 วรรคห้า แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ประกอบด้วย ข้อ 4(3) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 5/2563 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระรากำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มี.ค. พ.ศ.2563

นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด- 19 จึงมีคำสั่งให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) มีการจัดโครงสร้างภายใน โดยมีการจัดโครงสร้างดังนี้ 

1.สำนักงานเลขาธิการ มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ที่นายกฯมอบหมายเป็นหัวหน้าสำนักงาน 2.สำนักงานประสานงานกลาง ให้เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นหัวหน้าสำนักงาน 3.ศูนย์ปฎิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นหัวศูนย์ 4.ศูนย์ปฎิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าศูนย์ 5.ศูนย์ปฎิบัติการกระจายหน้ากาก และเวชภัณฑ์สำหรับประชาชน ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าศูนย์

6.ศูนย์ปฎิบัติการควบคุมสินค้าให้ปลัดพาณิชย์เป็นหัวหน้าศูนย์  7.ศูนย์ปฎิบัติการมาตรการเดินทาง เข้า ออกประเทศ และดูแลคนไทยในต่างประเทศ ให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าศูนย์ 8.ศูนย์ปฎิบัติการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ ให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหัวหน้าศูนย์ 9.ศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้าศูนย์ และ 10.ศูนย์ปฎิบัติการด้านข้อมูล มาตรการแก้ไขปัญหาจากติดเชื้อโควิด-19 ให้ปลัดสำนักนายกรัฐนตรี เป็นหัวหน้าศูนย์

โดยทั้ง 10 ศูนย์ จะต้องรายงานให้ นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศูนย์ได้รับทราบ และ นายกฯในฐานะผอ.ศูนย์ สามารถปรับปรุงโครงสร้างได้ นอกจากนี้ ผอ.ศูนย์ยังสามมารถแต่งตั้งบุคคล เป็นคณะที่ปรึกษา ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมาย ด้านธุรกิจ และด้านอื่นๆ อีก ตามสมควร 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0