เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่บริเวณสวนรักษ์ธรรมชาติ (วงเวียนหลักสี่) ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจติดตามความคืบหน้างานติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีมหาธาตุและการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายใต้แนวคิดสวนสาธารณะลดฝุ่นละออง (PM2.5) โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลเชื่อมั่นในตัวของตน ว่าตนไม่ต้องการเงินแม้แต่บาทเดียว หลายคนบอกตนปล่อยปละละเลย มีการทุจริต ถามว่าตนมีคดีหรือไม่ ยังไม่มี แต่คดีในฐานะเป็นนายกฯ 300 กว่าคดี แต่สู้ได้ ไม่มีปัญหา สามารถชี้แจงได้ก็จบ คดีในฐานะเป็นนายกฯ ต้องรับผิดชอบทุกอัน แต่ในเรื่องของนโยบายถ้าผิดก็ต้องรับผิดชอบ แล้วก็ไม่หนีด้วย หนีไม่ได้อยู่แล้ว
"ผมเกิดที่นี่ผมตายที่นี่ แผ่นดินไทยผมรักษามา 40 ปี วันนี้พวกผมเข้ามาเพื่ออะไรก็เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินที่ให้ผมเกิด ผมก็จะตายในแผ่นดินผืนนี้ ผมจะทำร้ายเขาทำไม ผมเสี่ยงชีวิตปกป้องชายแดนมากี่ปี รบทัพจับศึกก็ผ่านมาพอสมควร ฉะนั้นผมต้องรักแผ่นดินผืนนี้ทิ้งไปไม่ได้ และผมก็ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลังไม่ได้"นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหลายอย่างถ้าจ้องจะติกันอย่างเดียวมันง่าย เอามารวมๆกันก็กลายเป็นว่านายกฯ ใช้ไม่ได้ ทั้งที่ตนเป็นคนใช้ได้
"ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขอให้รอฟังว่าท่านจะเชื่อเขาหรือเชื่อผม ผมทำด้วยใจ เจ็บตัวบ้างอะไรบ้างผมทนได้ ขอให้ทุกคนได้เข้าใจผมและทีมงานทุกคน ถ้าพูดกันไปไม่มีหลักฐานไม่มีเหตุผลก็อย่าไปเชื่อกันมาก ตอนนี้เฟกนิวส์มันก็เยอะ"นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายกฯได้กล่าวท่อนหนึ่งบทกวนิพนธ์ของนภาลัย ฤกษ์ชนะ(สุวรรณธาดา)ท่อนที่ว่า“อันศึกนอกศึกในนั้นไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับพล.อ.ประยุทธ์ อารมณ์ดีเมื่อเห็นความก้าวหน้าโครงการและเมื่อเจอกลุ่มผู้สื่อข่าวได้ฮัมเป็นเพลง”ซาโยนาระกู๊ดบาย”พร้อมโบกมือส่งยิ้มให้ผู้สื่อข่าว.