บิ๊กตู่กำชับครม. ไปสภาวันซักฟอก รับศึกถวายสัตย์

ฝ่ายค้านสัญจรแก้รธน. คืนอำนาจให้ประชาชน วอร์รูมธรรมนัสขู่ฟ้อง

“ธรรมนัส” ลั่นการเมืองทำลายผมไม่ได้ ทีมวอร์รูมทำขึงขัง จ่อฟ้องดำเนินคดีคนขุดคุ้ยประวัติ “เจ๊หน่อย” ปัดจ้องทำลาย ยันเปิดซักฟอก “บิ๊กตู่” ไม่ทำระคายเคือง ส.ส.พท.ดี๊ด๊าใส่เกียร์ห้ารอถล่มครม.-ส.ส.รัฐบาล ขนขบวนแห่ให้กำลังใจนายกฯ “ชินวรณ์” เชื่อฝ่ายค้านอภิปรายยาก 7 พรรคฝ่ายค้านลุยอีสานปลุกแก้ รธน. “สุดารัตน์” เย้ยเป็นต้นตอ “รัฐบาลเลี้ยงลิง” แถมยังโฆษณาเกินจริงไม่ตรงปก “ช่อ” สับแรงเฮงซวยทุกมาตรา “ประชาชาติ” ขอรื้อบทเฉพาะกาลคืนอำนาจประชาชน “ธนาธร” เชื่อมีช็อป ส.ส.แก้เสียงปริ่มน้ำแน่ “หม่อมเต่า” ห่วงข่าววิ่งเต้นแต่งตั้งในแรงงาน “ระวี” โชว์ส่งงบ กมธ.ค้างท่อคืนคลัง

หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ตั้งทีมวอร์รูมกฎหมายเพื่อดำเนินการฟ้องเอาผิดผู้ที่กล่าวหาพาดพิงทำให้เกิดความเสียหายนั้น ล่าสุดทีมวอร์รูมกฎหมายเตรียมเปิดแถลงต่อสื่อมวลชนแล้ว ว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับใครบ้าง

พท.ปัดจ้องทำลาย “ผู้กองนัส”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่ จ.มหาสารคาม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ออกมาโวยหลังถูกตรวจสอบคุณสมบัติทั้งเรื่องที่มีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ประเทศออสเตรเลีย และถูกกล่าวหาในวุฒิการศึกษาปริญญาเอกปลอม จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากตัวเองเป็นด่านแรกที่จะถูกทำลาย แต่เป้าประสงค์คือต้องการล้มรัฐบาล ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการนำเสนอของสื่อมวลชนต่างประ เทศและในประเทศ ไม่ได้ออกมาจากพรรคฝ่ายค้าน มองว่าไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรือทำลายกัน แต่เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง

ยันซักฟอกไม่ทำระคายเคือง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในวันที่ 18 ก.ย. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่ทางฝ่ายรัฐบาลอาจใช้ความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญมาสกัดไม่ให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายนั้น ไม่ห่วงในเรื่องนี้ เพราะเป็นบทบาทและอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ควรสร้างอะไรที่เป็นการผิดวัตถุประสงค์ เราต้องการใช้เวทีสภาฯแก้ไขปัญหา เมื่อทำผิดแล้วแต่ไม่แก้ไขเอง จะปล่อยให้ผิดแบบนี้ต่อไปหรือ เราจำเป็นต้องใช้เวทีสภาฯแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าเรารักและเทิดทูนสถาบัน สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน พรรคเพื่อไทยรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุขสูงสุด การกระทำใดๆ ของรัฐบาลจึงต้องถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วน ยืนยันจะไม่พูดอะไรกระทบหรือให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน เพราะหน้าที่ของเราคือปกป้องพิทักษ์ไว้ และเทิดทูนซึ่งสถาบัน

ทีมวอร์รูม “ธรรมนัส” ฮึ่มจ่อฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตั้งทีมวอร์รูมฝ่ายกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้เสียหายจากเรื่องคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. สื่อมวลชนได้รับหนังสือเชิญจากนายภูผา ลิกค์ ผู้ช่วย รมช.เกษตรฯ โดยในหนังสือระบุว่าวันที่ 16 ก.ย. เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ พล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณ ทีมกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส จะแถลงข่าวที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารทีพีแอนด์ที วิภาวดีรังสิต โดยได้รับการเปิดเผยเบื้องต้นว่า เป็นการแถลงเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ จากประเด็นคุณสมบัติและวุฒิการศึกษา ว่าเข้าข่ายดำเนินคดีในข้อกฎหมายใดบ้าง และแถลงว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับใครบ้าง แต่ ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย เนื่องจากติดราชการที่ จ.พะเยา จากเดิมที่ได้ระบุในหนังสือเชิญสื่อว่าจะมาร่วมแถลงข่าวด้วย

ลั่นการเมืองทำลายผมไม่ได้

เวลา 08.00 น. ที่ จ.พะเยาร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมกิจกรรมนำจิตอาสา “รวมพลังปลูกป่า ฟื้นฟูต้นน้ำยมปีที่ 4” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา ในปี 2562 ณ พื้นที่ห้วยดงดำ ต.นาปรัง อ.ปง จ.พะเยา ปลูกต้นยางนา 300 ไร่ มีกลุ่มผู้นำท้องถิ่น และประชาชนกว่า 500 คน มาชูป้ายข้อความให้กำลังใจและนำดอกไม้มามอบให้ จากนั้นเดินทางไปยังบ้านตำ๊ม่อน ต.บ้านตำ๊ อ.เมืองพะเยา ร่วมโครงการจิตอาสา 13 การสร้างป่าและเกษตรกรรมยั่งยืน ในเขตปฏิรูปที่ดินเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมแจกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรจำนวน 100 ราย ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวเป็นภาษาเหนือว่า มาเห็นและได้รับกำลังใจอย่างอบอุ่นจากหลายกลุ่ม ต้องขอบคุณกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้อง ไม่ต้องห่วงการเมืองก็คือการเมือง ไม่มีสิ่งไหนมาทำลายอุดมการณ์ที่ตนตั้งใจทำความดีให้บ้านเมืองได้ เพื่อรักษาเสาหลักของบ้านเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประเทศชาติต้องอยู่ต่อไป

ทีมกฎหมายขอยกเลิกกะทันหัน

ต่อมาช่วงค่ำพล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณ ทีมวอร์รูมกฎหมาย ร.อ.ธรรมนัส ได้มีหนังสือแจ้งสื่อมวลชนว่าจากที่ ร.อ.ธรรมนัส มอบหมายให้ทีมกฎหมายเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส ในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และมอบอำนาจให้ทีมกฎหมายดำเนินคดีกับบุคคล หรือนิติบุคคลในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทางคณะทำงานฝ่ายกฎหมายขอยกเลิกการแถลงข่าววันที่ 16 ก.ย. เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส ติดภารกิจ ขณะที่เอกสารที่จะใช้ในการแถลงข่าวจะแจกจ่ายให้สื่อมวลชนต่อไป

ย้อน “บิ๊กตู่” ตอบสังคมโลกอย่างไร

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่าในฐานะประธานอาเซียนจะตอบสังคมโลกอย่างไรกับกรณีข่าวของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ได้กระจายไปทั่วโลกโดยสื่อหลักต่างประเทศคิดว่าสื่อหลักระดับโลกคงต้องมั่นใจในข้อมูลจึงกล้าเสนอข่าว เพราะถ้าลงข่าวผิดจะถูกฟ้องร้องได้ ไม่ใช่เป็นสื่ออวตารลงมั่วๆเหมือนที่ถูกกล่าวหา ไม่อยากให้นานาชาติคิดว่าไทยกลายเป็น “บานาน่ารีพับลิก” ไปแล้ว ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้ขนานนามประเทศที่ไม่มีหลักการ ไม่มีความมั่นคงทางการเมือง มีการปฏิวัติกันตามใจชอบ ไม่รักษาภาพพจน์ เศรษฐกิจย่ำแย่ เอื้อประโยชน์เฉพาะชนชั้นสูงและชนชั้นปกครอง ทั้งนี้ หากรัฐบาลต้องการยืนยันข้อมูลของคดีที่แท้จริง สามารถร้องขอจากศาลออสเตรเลียได้โดยตรง

ครม.ยกคณะรับศึกซักฟอกแน่

ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 18 ก.ย. นายกฯไปแน่และได้กำชับในที่ประชุม ครม.ให้รัฐมนตรีทุกคนไปร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพราะถือเป็นการอภิปราย ครม.ทั้งคณะใน 2 ประเด็น คือการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยไม่แจ้งที่มาในการใช้จ่ายงบประมาณ ได้แจ้งไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ ฯลฯ ให้จัดเตรียมข้อมูลเพื่อรองรับการตอบชี้แจงฝ่ายค้านไว้ด้วย ส่วนนายกฯจะตอบคำถามด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้คนอื่นตอบแทน คงมีการหารือกันในที่ประชุม ครม. วันที่ 17 ก.ย. เชื่อการตอบคำถามจะไม่มีปัญหา เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลชี้แจงได้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล ประเด็นการอภิปรายก็จำกัดอยู่ในกรอบ ไม่มีอะไรหลากหลาย เมื่อรัฐบาลชี้แจงได้ทุกอย่างก็น่าจะจบ

วิป รบ.ชี้ฝ่ายค้านอภิปรายยาก

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลนัดประชุมเตรียมความพร้อมก่อนการอภิปรายทั่วไปจะเริ่ม โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนต้องอยู่ร่วมกันเป็นกำลังใจให้นายกฯ ต้องรับผิดชอบองค์ประชุมให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยันไม่มีการตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ เพราะเป็นการอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นเรื่องที่ผู้อภิปรายต้องอภิปรายในสิ่งที่ได้ยื่นไว้ ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยระบุว่าไม่อยู่ในเงื่อนไขที่ตรวจสอบได้นั้น เชื่อว่าจะทำให้ฝ่ายค้านอภิปรายยากขึ้น ดังนั้นจึงอยู่ที่เทคนิคในการนำเสนอ คิดว่าประชาชนจับตามองอยู่ จึงอยากเห็นการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรที่ฝ่ายใดจะเล่นเกมการเมืองมากกว่านี้

พท.จ้องใส่เกียร์ห้าถล่ม “ลุงตู่”

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านเตรียมความพร้อมในการอภิปรายมากว่า 2 สัปดาห์ จะเน้นใช้ข้อกฎหมายและคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้รัฐสภาเป็นผู้พิจารณา โดยชี้ให้เห็นถึงการปฏิบัติดังกล่าวของนายกฯที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกรณีดังกล่าวอาจเป็นบรรทัดฐานที่มิชอบในอนาคตของการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ หรือหน่วยงานสำคัญที่ต้องเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อไป ประชาชนจะได้ทราบว่าผลของการที่นายกฯไม่ปฏิบัติให้ครบถ้วน จะเกิดผลต่อการบริหารประเทศอย่างไร และจะได้ยินนายกฯตอบคำถามว่าสรุปแล้วตั้งใจหรือไม่ตั้งใจลืม หรือว่าหลง

“เรืองไกร” ชง ป.ป.ช.สอบศาล รธน.

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า วันที่ 16 ก.ย. เวลา 10.00 น. จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกรณีไม่รับคำร้องตรวจสอบการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไว้วินิจฉัย โดยศาลรัฐธรรมนูญอ้างว่า การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติไปแล้วจึงไม่รับคำร้องนั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกรณีใกล้เคียงกัน ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมติรับคำร้องการกระทำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ไว้ตรวจสอบตามความผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 49 เช่นเดียวกัน จึงมีเหตุควรสงสัยว่าเป็นการเลือกปฏิบัติแบบสองมาตรฐานหรือไม่ เพราะทั้งสองกรณีเป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 เหมือนกัน แต่กลับให้เหตุผลการรับและไม่รับคำร้อง โดยมีมาตรฐานแตกต่างกัน จึงจะขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ และตรวจสอบว่าเป็นการกระทำที่ชอบหรือไม่

ฝ่ายค้านเดินสายอีสานปลุกแก้ รธน.

วันเดียวกันที่ตลาดเกษตรมหาสารคาม อ.เมืองมหาสารคาม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจัดกิจกรรมฝ่ายค้านเพื่อประชาชนสัญจร ครั้งที่ 2 จัดเสวนา “รัฐธรรมนูญนี้เพื่อใคร? รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อคนไทยทุกคน” มีตัวแทน 7 พรรคฝ่ายค้านร่วมเสวนา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพราะต้องการให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่ง รัฐธรรมนูญนี้ทำลายความเชื่อมั่นและความหวังของประเทศ ตั้งแต่การเลือกตั้งที่มีสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพิสดารปัดเศษให้พรรคเล็ก การให้ ส.ว.เลือกนายกฯแทนประชาชน เขียนกติกาบิดเบี้ยวให้ตัวเองกลับมาเป็นรัฐบาลต่อ ใช้ทั้งเงินและอำนาจทุกรูปแบบ แต่ทำได้แค่เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ มีพรรคร่วมรัฐบาลเกือบ 20 พรรค ไร้เสถียรภาพ จึงเห็นการต่อรองตั้งแต่ยังไม่ตั้งรัฐบาล เป็นเพียงการเมืองแบบรัฐบาลเลี้ยงลิง ต้องหากล้วยมาป้อนให้ลิงอิ่ม วันนี้รัฐบาลออกนโยบายอะไรมาก็ไม่มีใครกล้ามาลงทุน เพราะนานาชาติไม่มีความเชื่อมั่น ประชาชนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย จำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นานาชาติ

ประชดพรรคไร้เส้นทำอะไรก็ผิด

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้โฆษณาเกินจริง ไม่ตรงปก ต้องแจ้ง สคบ. โฆษณาเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ปราบได้ไม่จริง ต้องเรียกว่ารัฐธรรมนูญส่งเสริมการโกง โกงตั้งแต่การเลือกตั้ง แต่ตรวจสอบลงโทษฝั่งตัวเองไม่ได้เลย เช่น กรณีนาฬิกายืมเพื่อนที่ทำลายความรู้สึกประชาชน “ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลคงโดนฟ้องเพราะเราไม่มีเส้น ของเขาทำผิดแค่ไหนก็ไม่รับพิจารณา แต่ถ้าเป็นเราคุกโลด อย่างนี้ต้องแก้ไหม ส่วนตัวดีใจที่สภาผู้แทนราษฎรจะศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ส่งเสียงถึงทุกพรรคการเมืองในสภา อย่าสร้างรัฐธรรมนูญของพรรคใดพรรคหนึ่ง ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญดีไซน์เพื่อพวกเรา จะต้องเป็นรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน”

“ช่อ” สับแรงเฮงซวยทุกมาตรา

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญนี้เฮงซวยทุกมาตรา กระบวนการไม่ชอบธรรม ไม่มีประชาชนร่วมร่าง ต้องร่างใหม่ทั้งฉบับโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม การใช้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องทำ แม้จะลงมติในรัฐสภา และต้องจูงใจ ส.ว.ให้ความเห็นชอบ ดังนั้น เมื่อร่างใหม่ต้องเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญทีละมาตรา ทุกพรรคแสดงออกในที่ประชุมสภาแล้วให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคอนาคตใหม่เสนอแก้ไขอำนาจ ส.ว.ที่ยกมือโหวตนายกฯ และมาตรา 279 ที่ให้อำนาจประกาศคำสั่ง คสช. ถูกต้องตั้งแต่ชาติที่แล้วไปถึงชาติหน้า ทำให้รัฐธรรมนูญไม่มีความหมาย ดังนั้นการแก้ไขรายมาตรากำลังดำเนินการอยู่ โดยทำทันที หากจูงใจให้ทุกพรรคเห็นด้วยได้ ก็สามารถจูงใจ ส.ว.ได้ ต่อไปก็เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นแล้วส่งเสริมให้มี ส.ส.ร. ระยะสั้นแก้เป็นรายมาตรา และระยะยาวให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

รื้อบทเฉพาะกาลคืนอำนาจ ปชช.

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้สืบทอดอำนาจรัฐประหาร ทำให้คนที่ประชาชนไม่ได้เลือกได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงต้องมาร่วมจัดทำรัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน อาจแก้บทเฉพาะกาลที่ให้อำนาจอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ที่คนกลุ่มหนึ่งและนายทุน มีอำนาจเหนือคนส่วนใหญ่ ของประเทศ เรียกว่าระบอบเผด็จการมีการอุปถัมภ์พวกพ้อง ให้อำนาจกลับมาสู่ประชาชน 5 ปีผ่านมามีเพียงนักธุรกิจ 10-15 ครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ประชาชนไม่สามารถพึ่งตนเองได้ ต้องยอมรับว่าการปกครองระบอบเผด็จการไม่สามารถแก้ปัญหาชาติได้ แต่ระบอบประชาธิปไตยจะสามารถหาทางออกให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขได้

ห่วงบางพรรคออกลูกงอแง

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ถึงแม้ในสมัยประชุมหน้าสภาผู้แทนราษฎรจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ ก็อย่าได้ไว้ใจ นี่เป็นแค่ยกแรก ต้องดูว่าจะมีบางพรรคเบี้ยวหรือไม่ และการแก้รัฐธรรมนูญต้องอาศัย ส.ว.ยกมือไม่น้อยกว่า 84 คน รวมกับเสียงจาก ส.ส.ทุกพรรคจึงจะพอ ดังนั้นเราต้องให้ประชาชนช่วยกันกดดัน ถ้าให้สภาแก้ไขอย่างเดียวคงไม่ได้แน่นอน การจะแก้ให้สำเร็จประชาชนต้องช่วย ชาวบ้านต้องลงชื่อ 50,000 คน เสนอรัฐธรรมนูญฉบับชาวบ้าน ประชาชนต้องไม่กลัวการแก้รัฐธรรมนูญ ยืนยันเปิดการประชุมสภาสมัยหน้าเมื่อใดจะพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที

“เทพไท” ย้ำต้องปลดล็อกแรก

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อยากจะให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงเป้าหมายและความสำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าสิ่งอื่นใด และความเป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเป็นการแก้ไขตามแนวทางข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์ คือแก้ไขมาตรา 256 ก่อน จะทำให้ลดแรงเสียดทานได้ เพราะไม่มีผลกระทบต่อฝ่ายใดเลย แม้แต่ในส่วนของ ส.ว.ก็ไม่ได้ลิดรอนสิทธิใดๆทั้งสิ้น แต่การแก้รัฐธรรมนูญทุกมาตราต้องใช้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ในวาระแรก คือต้องมีเสียงจาก ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ว.ที่มีอยู่ ถ้าไม่ได้ก็ตกม้าตายตั้งแต่ด่านแรก เมื่อเราสามารถแก้ไขมาตรา 256 ได้ก่อน ก็เปรียบเสมือนการปลดล็อก สะเดาะกุญแจดอกแรกได้สำเร็จแล้ว เป็นเรื่องง่ายสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราอื่นๆให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ตามที่ทุกฝ่ายต้องการ แม้ว่าการแก้มาตรา 256 เป็นการแก้ไขหมวด 15 ซึ่งรัฐธรรมนูญบังคับให้ต้องทำประชามติ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับการแก้ไขมาตรานี้แต่ประการใด

“ธนาธร” ลุยนครปฐมแต่หัววัน

วันเดียวกันเวลา 08.00 น. ที่ตลาดสด หน้าโรงพยาบาลสามพราน (วัดไร่ขิง) จ.นครปฐม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำคณะลงพื้นที่พบประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งคอยเฝ้าติดตามสังเกตการณ์ตลอดทั้งวัน นายธนาธรกล่าวว่า วันนี้เรามาเพื่อแจ้งให้ทราบว่านางจุมพิตา จันทรขจร ส.ส.นครปฐม ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะเกิดอุบัติเหติรุนแรงจนต้องรับการผ่าตัดสมอง ขณะนี้อยู่ระหว่างทำกายภาพบำบัด ต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกระยะ จึงขอลาออกเพื่อเปิดให้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง ตลอด 2-3 เดือนหลังได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. นางจุมพิตายังไม่เคยได้รับเงินเดือน พรรคอนาคตใหม่ขอกล่าวคำขอโทษพี่น้องชาวสามพราน ที่ทำให้ขาด ส.ส.แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เราอยู่ในช่วงที่ ส.ส. 1 คน สามารถส่งผลกระทบต่อประเทศได้ ดังนั้น 1 เสียงของชาวสามพรานจึงมีค่าว่าจะเลือก ส.ส.เข้าไปเปลี่ยนดุลการเมือง ทำให้ฝ่ายค้านมีเสียงเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในสถานะเสียงปริ่มน้ำ รัฐบาลกับฝ่ายค้านมีเสียงต่างกันเพียง 7 เสียง นับว่าเป็นรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจเกิดอุบัติเหตุในสภาฯได้ตลอดเวลา

โหวต “ไพรัฎโชติ” ลงซ่อมแทนเมีย

ต่อมาที่วัดนครชื่นชุ่ม นายธนาธรให้สัมภาษณ์หลังการประชุมขอฉันทามติรับรองผู้สมัคร ส.ส.ที่จะลงเลือกตั้งซ่อมว่า หลังการหยั่งเสียงของสมาชิกปรากฏว่านายไพรัฎโชติ จันทรขจร สามีนางจุมพิตา ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง จากนี้จะนำคะแนนไปให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเลือก อีกครั้ง วันนี้พรรคอนาคตใหม่แสดงให้เห็นว่าเราทำให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมทางการเมือง ให้เสียงประชาชนมีส่วนในการตัดสินใจมากที่สุด เรามั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องเขต 5 นครปฐมอีกครั้ง โดยเราจะลงพื้นที่ทุกตำบลพบกับประชาชน และอยากจะฝากถึงชาวนครปฐมให้มาร่วมเปลี่ยนการเมืองใหม่ ที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่แสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจทำงานจริงจัง เราไม่มีผลประโยชน์ที่ได้จากการตั้งพรรค หมดยุคของการเมืองที่มีอิทธิพลและการซื้อเสียงแล้ว

เชื่อมีซื้อตัว ส.ส.แก้ปริ่มน้ำอีก

เมื่อถามถึงปัญหาเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล นายธนาธรตอบว่า ที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่เสียสิทธิ์ในการใช้เสียงของการเป็น ส.ส.ไป 2 คน คือตนและนางจุมพิตา ขนาดขาดเสียงของเราไปสองคนเสียงรัฐบาลยังปริ่มน้ำขนาดนี้ ถ้าฝ่ายค้านได้กลับมาอีก 2 เสียง จะปริ่มหนักกว่านี้ การปิดสมัยประชุมเหมือนระฆังหมดยกที่ช่วยชีวิตรัฐบาลไว้ เชื่อว่าช่วงระหว่างปิดสมัยประชุมจนถึงก่อนเปิดสมัยประชุม ฝ่ายรัฐบาลจะมีการล่อซื้อ ส.ส. เพื่ออุดรูรั่วเสียงปริ่มน้ำแน่นอน หาก ส.ส.ของพรรคคนใดจะย้ายข้าง เราไม่สามารถบังคับได้ เพราะเราไม่มีอำนาจเงินซื้อ ส.ส.ให้อยู่กับเรา แต่เชื่อว่า ส.ส.ของพรรคจะเดินตามอุดมการณ์ที่ให้ไว้กับประชาชน

ซัดจอมแถแก้ต่างไม่เคยผิด

นายธนาธรกล่าวว่า ส่วนการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาฯและคณะรัฐมนตรี เมื่อถามถึงคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เทียบเคียงกับคดีความของนายธนาธรนั้น นายธนาธรตอบว่า อยากให้ประชาชนเป็นคนตัดสินดีกว่า ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมดเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจและตรงไปตรงมา ที่แน่ๆคือไม่มีการปลอมวุฒิการศึกษา และยืนยันอีกครั้งว่าในสังคมที่ไม่มีความเป็นธรรมจะไม่สามารถก้าวต่อไปได้ สิ่งที่ผ่านมาคือฝ่ายที่กุมอำนาจอยู่ทำอะไรก็ไม่ผิด มีรองนายกรัฐมนตรีมาคอยแก้ต่างและแถให้ตลอด ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้ทำอะไรก็ผิดแล้ว เรายังจะอยู่ในสังคมที่ไม่ยุติธรรมต่อไปหรือ

“หม่อมเต่า” ห่วงข่าววิ่งเต้นแต่งตั้ง

อีกเรื่อง นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วย รมว.แรงงาน กล่าวถึงกระแสข่าวมีการผลักดันนายธวัช เบญจาธิกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมว่า หน้าที่การแต่งตั้งข้าราชการประจำไม่ใช่หน้าที่ของผู้ช่วยรัฐมนตรี เรื่องนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน มอบให้ปลัดกระทรวงแรงงานไปคัดคนเสนอมา เพราะเป็นคนที่รู้รายละเอียดข้าราชการมากที่สุด ส่วนนายธวัชยอมรับว่าเป็นญาติกันจริงแต่ไม่ได้สนิทกัน เพิ่งจะมารู้จักที่กระทรวงแรงงาน นามสกุลยังเขียนสะกดไม่เหมือนกันเลย เบ็ญจาธิกุลเป็นนามสกุลที่มีญาติเยอะ ตนมาอยู่กระทรวงแรงงานพอรู้ว่ามีญาติรับราชการที่นี่ก็ดีใจ แต่เรื่องงานจะไม่เข้าไปยุ่ง ทั้งนี้ รมว.แรงงานเป็นห่วงกับข่าวที่ออกไป ยืนยันว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ทำงานเป็นทีมร่วมกับข้าราชการ ไม่มีเรื่องการแบ่งพรรคแบ่งพวกช่วยเหลือใคร

วิจารณ์แซ่ด รปช.หัวกระไดไม่แห้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงแรงงานว่า การพิจารณาบัญชีแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงแรงงานระดับอธิบดี 3 ตำแหน่ง คืออธิบดีกรมการจัดหางาน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม รองปลัดกระทรวง 3 ตำแหน่ง และผู้ตรวจราชการกระทรวง 2 ตำแหน่ง แทนข้าราชการที่เกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย. กำลังถูกจับตามองจากข้าราชการในกระทรวงว่า ทั้งฝ่ายการเมืองและปลัดกระทรวงแรงงาน ที่ได้รับมอบหมายจาก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ให้คัดสรรบุคคลเสนอรายชื่อมาให้พิจารณา จะตอบโจทย์คุณสมบัติคนดีคนเก่งหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีข้าราชการระดับสูงดอดเข้าพบนักการเมืองในพรรค รปช. เพื่อให้สนับสนุนดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสำคัญ ซึ่ง รมว.แรงงาน ต้องเสนอรายชื่อให้ ครม.เห็นชอบภายในเดือน ก.ย.นี้

เปิดโผแคนดิเดตชิงเก้าอี้อธิบดี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงานมีผู้เกษียณอายุราชการพร้อมกันในเดือน ก.ย. จำนวน 8 คน ทำให้ทั้งกระทรวงเหลือระดับ 10 เพียง 3 คนในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเท่านั้น ซึ่งพอดีกับตำแหน่งอธิบดี 3 กรมที่เกษียณในปีนี้ คาดว่านายทศพล กฤตวงศ์วิมาน จะไปนั่งเก้าอี้เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากเป็นคนใจถึงพึ่งได้ อาจสนองนโยบายการเมืองได้ดี ขณะที่นายอภิญญา สุจริตตานันท์ จะไปเป็นอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่วนนายธวัช เบญจาธิกุล อาจได้นั่งเก้าอี้อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือสำนักงานประกันสังคม แล้วโยกนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ไปเป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน แทนนางเพชรรัตน์ สินอวย ที่เกษียณอายุ เท่ากับว่าเป็นการโยกนายสุชาติ ที่ถูกมองว่าทำงานไม่เข้าตา ม.ร.ว.จัตุมงคลกลับถิ่นเก่า เนื่องจากเติบโตมาจากกรมการจัดหางาน แต่ก็มีข่าวว่านายสุชาติยังอยากอยู่ที่เดิม เนื่องจากเพิ่งเป็นอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานยังไม่ถึง 3 เดือน

“ระวี” คืนงบ กมธ.ค้างท่อเข้าคลัง

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวกรรมาธิการ 35 คณะของสภาผู้แทนราษฎร จะเร่งใช้งบที่เหลือจากงบประมาณปี 2562 จำนวน 87.5 ล้านบาท โดยมีการนำมาเฉลี่ยให้ กมธ.ละ 2.5 ล้านบาท โดยแต่ละ กมธ.จะจ่ายเงินให้ ส.ส.ที่เป็น กมธ.คนละ 1 แสนบาท นำไปใช้จ่ายให้ทันก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อไม่ต้องส่งเงินคืนคลัง ว่า กมธ.เพิ่งได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 13 ก.ย. แต่ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถทำโครงการที่คุ้มค่ากับภาษีประชาชนได้ทัน จึงเลือกจะคืนเงิน 100,000 บาท ส่งคืนคลังต่อไป ส่วนโครงการอื่นใดของ กมธ. ที่ทำได้คุ้มค่าภาษีประชาชน ยินดีจะสนับสนุนและเข้าร่วม การแก้ไขปัญหาประเทศขณะนี้ต้องเริ่มจากการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ มีการวางแผนที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นปี งบประมาณ ส่วนกรรมาธิการคนอื่นถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลว่าจะใช้หรือไม่ใช้ แต่สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ขอเลือกไม่ใช้ภาษีประชาชนแบบไม่คุ้มค่า

โพลชี้คนค่อนข้างผิดหวังกับ ส.ส.

วันเดียวกันสวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,233 คน “เสียงสะท้อนของประชาชนต่อบทบาทของ ส.ส.” พบว่าร้อยละ 51.48 ประทับใจบทบาท ส.ส.ที่มีความตั้งใจทำงาน ทำหน้าที่ได้ดี รองลงมาเห็นว่ามีแนวคิดใหม่ๆ มีนโยบายที่น่าสนใจ เป็นคนรุ่นใหม่ เป็น ส.ส.หน้าใหม่ไฟแรง แต่สิ่งที่ไม่ประทับใจบทบาท ส.ส. คือไม่รักษาสัญญา ไม่ทำตามนโยบาย ทะเลาะวิวาท สร้างความขัดแย้งแตกแยก แย่งชิงตำแหน่งการเมือง คุณสมบัติไม่เหมาะสมประวัติไม่ดี นอกจากนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 48.39 ค่อนข้างผิดหวัง เพราะเล่นเกมการเมืองแบบเดิมๆ มัวแต่ทะเลาะกล่าวหาใส่ร้ายโจมตีกันไปมา คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ตนเอง ไม่ทำเพื่อประชาชน ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ส่วนสิ่งที่อยากฝากถึง ส.ส. คือควรตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ลงพื้นที่ดูแลความเป็นอยู่ประชาชน เป็นผู้แทนที่ดี ซื่อสัตย์ ยึดมั่นในอุดมการณ์

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

• ธรรมนัส เตือน ส.ส.ตั้งกระทู้ถามปมถวายสัตย์ฯ ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง
• "เสรีพิศุทธ์" บอก ขอตรวจสอบก่อน "ธรรมนัส" ใช้วุฒิปลอม ซัด "โกหก" ตอบกระทู้
• "บิ๊กตู่" พร้อมแจงสภาฯปมถวายสัตย์ ยัน ไม่หนี แต่ขอเวลาไปทำภารกิจ

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath