โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

บัณฑิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สืบทอดปลูกกล้วยไม้ตัดดอก เป็นอาชีพสร้างเงินและความสุข

เทคโนโลยีชาวบ้าน

เผยแพร่ 21 ม.ค. 2562 เวลา 07.28 น.
กล้วยไม้ 21มค

กล้วยไม้สกุลหวาย เป็นอีกหนึ่งไม้ที่นอกจากจะปลูกเพื่อความสวยงามประดับตกแต่งในบ้านเรือนแล้ว ยังนิยมนำมาปลูกเพื่อตัดดอกขายส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ สร้างมูลค่าทางการตลาดไม่น้อยทีเดียว และตลาดในประเทศไทยเองยังมีความต้องการดอกกล้วยไม้อยู่มาก เพราะด้วยความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืองานประเพณีต่างๆ ตามเทศกาล กล้วยไม้ตัดดอกถูกนำมาใช้ประโยชน์อยู่ตลอดทั้งปี ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด จึงเกิดเป็นรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ได้เป็นอย่างดี

คุณจตุพร ศรีวารีรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรรุ่นใหม่ที่รับช่วงต่อการปลูกกล้วยไม้ตัดดอกจากครอบครัว พร้อมทั้งมีการแบ่งขายไม้ขวดและไม้นิ้วให้กับเกษตรกรรายอื่น จึงเกิดเป็นรายได้หลากหลายช่องทางสามารถทำรายได้ให้กับเธอได้เป็นอย่างดี

คุณจตุพร จบการศึกษาสาขาวิชาพืชสวน คณะเทคโนโลยีการเกษตร จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนครอบครัวของเธอทำอาชีพทางการเกษตรหลากหลาย เช่น การปลูกผักตลอดจนถึงสวนผลไม้ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับยังไม่ดีมากนัก ทำให้คุณพ่อคุณแม่ของเธอตัดสินใจมองหาพืชชนิดอื่นมาปลูกแทน จึงได้หันมาทำสวนกล้วยไม้เพื่อตัดดอกส่งขายในเวลาต่อมา

“ช่วงนั้นประมาณปี 47 คุณแม่เห็นพี่ชายคือคุณลุงทำสวนกล้วยไม้อยู่ รายได้ก็ค่อนข้างดี คุณลุงก็เลยแนะนำให้มาลองทำสวนกล้วยไม้ดู เพราะว่าตลาดยังต้องการดอกกล้วยไม้ตัดดอกอยู่ ครอบครัวก็เลยคิดที่จะเปลี่ยนจากทำสวนผักสวนผลไม้ มาปลูกสวนกล้วยไม้สกุลหวาย เพื่อสร้างเป็นอาชีพใหม่ โดยผลิตสินค้าตามที่ตลาดต้องการเป็นหลัก” คุณจตุพร เล่าถึงความเป็นมา

ซึ่งพันธุ์กล้วยไม้ที่นำเข้ามาปลูกทั้งหมดภายในสวน คุณจตุพร เล่าว่า บางส่วนได้มาจากสวนกล้วยไม้ของคุณลุง และมีบางสายพันธุ์ซื้อเข้ามาปลูกภายในสวน เพื่อให้ผลผลิตมีความหลากหลายมากขึ้น

การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้เพื่อผลิตเป็นกล้วยไม้ตัดดอกนั้น ขั้นแรกจะนำไม้ออกจากขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ที่ทางสวนของเธอจ้างห้องแล็บขยายพันธุ์ไว้ และนำไม้เหล่านั้นมาปลูกเลี้ยงให้เจริญเติบโตจนออกดอก

“ไม้ที่ส่งเข้าห้องแล็บบางตัวเกิดจากเราผสมขึ้นเอง พอเห็นว่ามีสายพันธุ์ที่นิ่งได้ดอกสวยตามที่เราต้องการ ก็จะส่งหน่อไปขยายพันธุ์ในระบบเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ทางแล็บก็จะดำเนินการให้ ใช้เวลาเกือบ 2 ปี ไม้ในขวดทั้งหมดก็จะโตเต็มที่ พร้อมให้นำกลับมายังสวน เพื่อนำออกจากขวดปลูกผลิตดอกต่อไป” คุณจตุพร บอก

การนำกล้วยไม้ออกจากขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อนั้น คุณจตุพร บอกว่า สวนของเธอใช้เหล็กขอเขี่ยกล้วยไม้ออกมา แต่ถ้าบางสวนคิดว่าเสียเวลาก็จะทุบขวดให้แตก จากนั้นนำกล้วยไม้มาล้างรากให้สะอาด

จากนั้นนำกล้วยไม้มาห่อโคนต้นด้วยกาบมะพร้าว ในลักษณะที่เป็นตุ่มวางให้อยู่ในถาดหลุมประมาณ 5 เดือน ดูแลรดน้ำในช่วงเช้า แต่ถ้าเห็นว่าระหว่างวันมีสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป จะรดน้ำให้กับกล้วยไม้ในช่วงเย็นอีก 1 ครั้ง

“ไม้ที่ปลูกในถาดหลุม ใช้เวลาดูแลประมาณ 5 เดือน ไม้ก็จะโตขึ้นมาพอสมควร จากนั้นย้ายไปปลูกลงในกระบะปลูก ที่ทำจากกาบมะพร้าว และส่วนที่เหลือจากใช้เองภายในสวนก็จะขายให้กับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจ ขายเป็นไม้นิ้วราคาอยู่ที่ต้นละ 10 บาทโดยประมาณ” คุณจตุพร บอก

ซึ่งในขั้นตอนการนำกล้วยไม้ลงปลูกในกระบะกาบมะพร้าว จะใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเสียบยึดไว้ให้ต้นติดกับกาบมะพร้าวให้แน่น ดูแลด้วยการใส่ปุ๋ยและฉีดพ่นยาเพื่อป้องกันโรคและแมลง ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 20-20-20 ในอัตราส่วนปุ๋ย 500 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ดูแลเช่นนี้จนกล้วยไม้มีอายุ 8 เดือน ถึง 1 ปี ไม้ก็จะเริ่มให้ช่อดอกออกมาให้เห็น จากนั้นเปลี่ยนปุ๋ยเป็นสูตรตัวท้ายสูง เช่น ปุ๋ยสูตร 5-30-30 ในอัตราส่วนเท่าเดิมฉีดพ่นแทน

“พอไม้เริ่มให้ดอกตัดขายได้ ช่วงนี้ต้องระวังโรคและแมลงให้มากๆ โดยเฉพาะจำพวกเพลี้ยไฟ และก็ตัวบั่ว จะเข้ามาเจาะดอกเพื่อวางไข่ใส่ในดอกกล้วยไม้ ส่งผลให้ดอกเน่า ส่วนฤดูฝนต้องระวังเรื่องเชื้อรา ซึ่งการฉีดพ่นยาเราก็จะดูแลตามอาการที่เกิด ป้องกันให้ทันท่วงที” คุณจตุพร บอกวิธีการดูแลรักษากล้วยไม้

การทำตลาดส่งกล้วยไม้ตัดดอกนั้น คุณจตุพร บอกว่า ตั้งแต่สมัยครอบครัวทำสวนใหม่ๆ ได้ทำการติดต่อซื้อขายกับบริษัทที่รับซื้อไว้หลายที่ ซึ่งบริษัทเหล่านั้นจะเป็นผู้นำกล้วยไม้ทั้งหมดส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยสีของกล้วยไม้ตัดดอกที่ตลาดต้องการส่วนใหญ่ คือ สีขาว สีแดง และสีชมพู โดยที่สวนของเธอจะเน้นปลูกกล้วยไม้จำพวกสกุลหวายและสกุลม็อคคาร่าเป็นหลัก

“กล้วยไม้ที่สวนจะตัดทุกวัน เว้นวันอังคารวันเดียว ทางบริษัทที่ส่งออก เขาก็จะออเดอร์มา ซึ่งออเดอร์ก็อยู่ที่เมืองนอก ว่าช่วงนี้งานเทศกาลอะไร ต้องการดอกกล้วยไม้สีไหน บางช่วงต้องการเยอะก็ตัดขายได้หมด บางช่วงมีไม่พอขาย การปลูกไม้ที่ดี ควรเลือกปลูกแบบที่ได้ราคาดี เป็นไม้ที่มีไม่มากตามท้องตลาด ดอกสีสวยแปลกตา ก็จะช่วยส่งผลให้กำหนดในเรื่องของราคาเองได้ ส่วนไม้ที่เป็นไม้ทั่วไป ราคาก็จะอยู่ที่กลไกตลาด” คุณจตุพร บอก

ราคาดอกกล้วยไม้ที่ส่งขายมีตั้งแต่ช่อละ 40 สตางค์ ไปจนถึงช่อละ 10 บาท ซึ่งราคาสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกตลาด ส่วนดอกกล้วยไม้ตกเกรดจะส่งขายเป็นไม้ตลาด เพื่อให้แม่ค้านำไปทำเป็นกำสำหรับบูชาพระ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำให้ดอกกล้วยไม้ภายในสวนขายได้ทั้งหมด

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ตัดดอกขาย คุณจตุพร แนะนำว่า สิ่งแรกที่ต้องหาไว้ก่อนที่จะเริ่มทำสวนคือตลาด รองลงมาคือการเลือกสายพันธุ์ของกล้วยไม้ที่จะนำมาปลูก ว่ามีความแปลกใหม่มากน้อยแค่ไหน เพราะจะส่งผลในเรื่องของราคาขายตามมา ทำให้มีผลกำไรมากขึ้น ก็จะช่วยให้การทำสวนกล้วยไม้ตัดดอกประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณจตุพร ศรีวารีรัตน์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ (089) 522-2978      

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0