โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

บล.เอเซีย พลัส แนะ 6 หุ้นเด่น คาดฟื้นแรงหลังโควิด-19 สิ้นสุด

Businesstoday

เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 04.42 น. • Businesstoday
บล.เอเซีย พลัส แนะ 6 หุ้นเด่น คาดฟื้นแรงหลังโควิด-19 สิ้นสุด

บล.เอเซีย พลัส แนะ 6 หุ้นเด่น คาดฟื้นแรงหลังโควิด-19 สิ้นสุด ประกอบด้วย
SEAFCO, TFG, BAM, BGRIM, GULF และ INTUCH ประเมินดัชนีหุ้นไทยปี 63 อยู่ในกรอบ 970-1,264 จุด คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 63 ลดเหลือ 7.8 แสนล้านบาท
จากปีก่อนที่มีกำไร 9.3 แสนล้านบาท

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
(มหาชน) หรือ ASPS กล่าวว่า ในปี 63 เม็ดเงินลงต่างชาติ
(Fund Flow) ไหลออกทั้งภูมิภาคแล้วกว่า
3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หากเทียบกับปี 61 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
พบว่าทั้งปี 61 มีเม็ดเงินต่างชาติไหลออกจากตลาดทุนกว่า 3.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

สำหรับ ปี 63 ยังมีแนวโน้มการไหลออกของเม็ดเงินต่างชาติ จากปัจจัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
โดยนับเฉพาะตราสารหนี้ไทยตั้งแต่ต้นปี 63 มีเม็ดเงินต่างชาติไหลออกไปแล้วกว่า 1
แสนล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงกว่า 8% ในปี 63 ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัสฯ
ยังเชื่อว่าเดือน เม.ย.นี้ เม็ดเงินต่างชาติยังไม่ไหลกลับเข้ามายังตลาดทุนไทย แต่ยังมีเงินลงทุนจากกองทุน
SSF ที่เริ่มซื้อขายวันที่ 1 เม.ย.นี้
จะเข้ามาพยุงตลาดหุ้นไทยได้ แต่คงไม่สามารถเทียบกับกองทุน LTF ได้ เนื่องจากวงเงินของ SSF น้อยกว่า LTF คิดเป็น 2 ต่อ 5 เท่า

อย่างไรก็ตาม กองทุน SSF ที่จะเริ่มประเดิมซื้อขาย 18
กองทุน มีนโยบายการลงทุนคล้ายกองทุนเดิมอย่าง LTF และ RMF
ถึง 14 กองทุน จาก 18 กองทุนที่ออกใหม่ ซึ่งผลสำรวจของบล.เอเซีย
พลัส พบว่าหุ้นที่จะได้รับความนิยมเข้าไปลงทุนมากที่สุดคือหุ้น PTT มีกองทุน SSF เข้าไปลงทุนถึง 11 กองทุน อันดับ 2 คือ
CPALL มีกองทุน SSF เข้าไปลงทุนจำนวน 9
กองทุน โดยหุ้นทั้ง 2 ตัวดังกล่าวจะได้แรงหนุนจากกองทุน SSF

ขณะเดียวกัน บล.เอเซีย พลัส ประเมินเป้า SET Index ปี 63 อยู่ในกรอบ
970-1,264 จุด โดยตลาดหุ้นไทยเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวบ้างแล้วจากการเริ่มเห็น
Down side จำกัด  ซึ่งตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
มีหุ้นที่ปรับตัวลงแรง ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส จึงได้เก็บข้อมูลและพบว่ามีจำนวนหุ้นที่คาดจะฟื้นแรงหากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
จบลง ประกอบด้วย SEAFCO, TFG, BAM, BGRIM, GULF และ
INTUCH ซึ่งเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า SET Index เสมอ

นอกจากนี้ บล.เอเซีย พลัส ได้ปรับลดกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 63 ลงเหลือ
7.8 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 62 ที่มูลค่า 9.3 แสนล้านบาท หรือลดลง 16.5% ส่งผลให้ EPS
ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน คาดว่า EPS ในปี 63
อยู่ที่ 72.62 บาทต่อหุ้น ลดลงจากปี 62 ที่ 88.33 บาทต่อหุ้น หรือ 17.8% เนื่องจากมีหุ้นใหญ่เข้าตลาดในปี 63 และมี PE สูงกว่าตลาด

ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส ประเมิน กลุ่มพลังงานและปิโตรฯกำไรปี 63 ลดลง
1 แสนล้านบาท, กลุ่มธนาคารพาณิชย์กำไรปี 63 ลดลง 5.3 หมื่นล้านบาท, กลุ่มขนส่งทางอากาศกำไรปี 63 ลดลง 4.7 หมื่นล้านบาท และกลุ่มสื่อสารกำไรปี
63 ลดลง 9.5 พันล้านบาท

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0