โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

"หนุ่มเมืองจันท์" เขียน บทเรียนจาก "หัวเว่ย"

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 12 พ.ย. 2562 เวลา 05.47 น. • เผยแพร่ 11 พ.ย. 2562 เวลา 13.25 น.
FILE PHOTO: The logo of the Huawei Technologies Co. Ltd. is seen outside its headquarters in Shenzhen, Guangdong province
FILE PHOTO: The logo of the Huawei Technologies Co. Ltd. is seen outside its headquarters in Shenzhen, Guangdong province, April 17, 2012. REUTERS/Tyrone Siu/File Photo
**คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์  “หนุมเมืองจันท์”

 

มีนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งที่คุ้นเคยกับเมืองจีนบอกผมว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” เดินเกมเรื่องเมืองจีนผิดพลาด “ทรัมป์ไม่รู้จักคนจีน”

เขาบอกว่าคนจีนถ้าสู้กับญี่ปุ่นตัวต่อตัว เสมอกัน แต่ถ้ารวมตัวกันหลาย ๆ คน “จีน” แพ้ เพราะคนจีนจะชอบทะเลาะกันเอง ไม่เหมือนญี่ปุ่น เวลารวมพลังกันแล้วจะกลายเป็น “ทีม” ที่แข็งแกร่งมาก

แต่ในอีกสถานการณ์หนึ่ง ถ้าอยู่กันหลายคนแล้วมีศัตรูรุกรานเมืองจีน คนจีนจะผนึกกำลังเป็น “หนึ่ง” พลังรักชาติของคนจีนแรงมาก และการรวมตัวกันแบบนี้ นอกจากไม่ทะเลาะกันแล้ว ยังเป็น “ทีม” ที่แข็งแกร่ง ไม่แพ้ “ญี่ปุ่น”

นักธุรกิจคนนี้บอกว่า “ทรัมป์” ผิดพลาดมาก ที่เล่นงานจีนด้วยสงครามการค้า เขาเปรียบเทียบว่า เหมือนกับการหยอดปูนซีเมนต์ให้ชาวจีนรวมกันเป็นหนึ่ง ยิ่งเร่งให้จีนพัฒนาประเทศเร็วขึ้น และการทำสงครามการค้ากับจีนในวันนี้ ไม่เหมือนกับในอดีต

เพราะจีนเข้มแข็งขึ้นมาก เทคโนโลยีทันสมัย ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง

เขาบอกว่า จริง ๆ วันนี้ “จีน” ยังห่างไกลจากสหรัฐอเมริกามาก ต้องใช้เวลาอีก 20-30 ปี จึงจะตามทัน แต่พอถูกเล่นงานด้วยสงครามการค้า จีนจะรวมตัวกันและเร่งการพัฒนาให้เร็วขึ้น บางทีไม่ถึง 20 ปี ก็อาจตามทันสหรัฐอเมริกา

ผมนึกถึงเรื่องที่น้องคนหนึ่งไปเยี่ยมชมกิจการ “หัวเว่ย” เล่าให้ฟัง เธอส่งรูป “หนังสือ” เกี่ยวกับ “หัวเว่ย” ที่ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษมาให้ดู ประมาณ 6 เล่ม

ทุกเล่มโต้กลับสหรัฐอเมริกาแบบตรงไปตรงมาในสไตล์ “จีน” ที่ลุ่มลึก แต่เชือดเฉือน

น้องบอกว่า ตอนนี้ “หัวเว่ย” ไม่ทำอะไร นอกจากเปิดตัวโต้กลับสหรัฐอเมริกา กับเปิดบริษัทให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้าชมกิจการ

เมื่อเดือนสิงหาคม “เหริน เจิ้งเฟย” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ “หัวเว่ย” เพิ่งบอกว่า ยอดคนขอเข้าชมกิจการ “หัวเว่ย” เพิ่มขึ้น 49%

ถามว่าทำไม เขาตอบได้แสบมาก

“ถ้าไม่มีประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้คนทั่วโลกคงไม่ทราบว่า หัวเว่ยมีผลิตภัณฑ์ที่ล้ำยุคและทันสมัยเพียงใด”

“ทรัมป์ คือ คนที่เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับเรา”

นึกดูดี ๆ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ

ความพยายามหาเรื่องบอยคอตเทคโนโลยี 5G ของ “หัวเว่ย” ในช่วงที่ผ่านมาของสหรัฐอเมริกา เพราะกลัวว่า “หัวเว่ย” จะล้วงข้อมูลของสหรัฐอเมริกา

ในมุมหนึ่ง คือ การยอมรับว่าเทคโนโลยีของ “หัวเว่ย” ล้ำแค่ไหน โดยเฉพาะ 5G ล้ำจนเหนือกว่าสหรัฐอเมริกา

คนที่ไม่รู้จัก “หัวเว่ย” ก็อยากรู้จัก

คนที่รู้จัก “หัวเว่ย” ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่งจากเมืองจีน ก็เริ่มรู้สึกว่ามือถือที่เราใช้ล้ำสมัยมาก

จากมองเผิน ๆ ก็เริ่มโฟกัส

“หัวเว่ย” สามารถยกระดับแบรนด์ขึ้นมาทันที โดยไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทเดียว

เพราะคนที่รับประกันก็น่าเชื่อถือมาก มีตำแหน่งเป็น “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” เหตุการณ์นี้ตอนแรก ๆ ดูเหมือน “หัวเว่ย” จะเสียหายหนัก

แต่ในอีกมุมหนึ่ง กลับ “ได้” เยอะมาก น้องคนนี้เล่าว่า อาณาจักรหัวเว่ยที่ไปเยี่ยมชมยิ่งใหญ่มาก

จุดเยี่ยมชมสุดท้ายในอาณาจักรแห่งนี้เป็นอาคารที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบตะวันตก

มองเผิน ๆ เหมือนมาเที่ยว “ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ” ถามว่าทำไมต้องสร้างแบบนี้ขึ้นมา

คำตอบก็คือ “เหริน เจิ้งเฟย” ต้องการเนรมิตที่นี่ให้เหมือนทวีปยุโรป เพื่อให้พนักงานคุ้นเคยกับบรรยากาศ

และนี่คือสถานที่ R&D ของ “หัวเว่ย” ครับ สถาปัตยกรรมจะกำหนดรสนิยม จะได้คิดเหมือน “ลูกค้า” ที่ยุโรป

“วิธีคิด” ล้ำกว่า “เทคโนโลยี” อีก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0