โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธรรมะ

บทสวดคาถาชินบัญชร

LINE TODAY

เผยแพร่ 18 ก.ค. 2561 เวลา 10.14 น.

ชินบัญชรเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุยาวนานนับร้อยปี หลายคนคิดว่าคาถาชินบัญชรสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรํสี แห่งวัดระฆังโฆษิตารามเป็นผู้แต่งขึ้น แต่แท้จริงแล้วสมเด็จโต ท่านเป็นเพียงผู้นำคาถามาเผยแพร่ต่ออย่างแพร่หลายเป็นที่รู้จักกันจนทุกวันนี้

จริง ๆ แล้วคาถาชินบัญชรมีต้นกำเนิดมาจากลังกา ซึ่งเป็นต้นฉบับมีความยาว 22 บท แต่ได้ถูกตัดตอนให้สั้นลงโดยพระมหาเถระผู้เชี่ยวชาญบาลีปกรณ์รูปหนึ่งจากเชียงใหม่ โดยจากปูมหลังของสมเด็จโตที่ระบุไว้ว่าท่านได้บรรพชาและออกธุดงค์ในวัย 7 ขวบ จนได้ไปเจอคัมภีร์เก่าชำรุดฉบับหนึ่ง ที่เจดีย์ร้าง เมืองกำแพงเพชร โดยคาดกันว่าน่าจะเป็นคาถาชินบัญชรนั่นเอง

คาถาชินบัญชรเป็นคาถาที่มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก หากผู้ใดสวดหรือภาวนาเป็นประจำ ในทุกอิริยาบถ จะช่วยเสริมให้เกิดความเป็นสิริมงคล ศัตรูไม่มากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม มีโชคลาภ และนับว่าเป็นอีกหนึ่งพระคาถาที่มีคุณานุภาพตามแต่จะปรารถนา 

คำว่า “ชิน” หมายถึง พระพุทธเจ้า 

คำว่า “บัญชร” หมายถึง กรง หรือ เกราะ 

ดังนั้น “ชินบัญชร” จึงแปลว่า กรงหรือเกราะป้องกันภัยของพระพุทธเจ้า

เนื้อหาในคาถาชินบัญชรจะเป็นการอัญเชิญพระพุทธเจ้าลงมาสถิตในทุกส่วนของร่างกาย รวมกันเป็นกำแพงแก้วคุ้มกัน ตั้งแต่กระหม่อมลงมาห้อมล้อมรอบตัวของผู้สวดภาวนา เพื่อให้ห่างไกลจากอันตรายทั้งปวง และเป็นการเสริมให้ผู้ที่สวดคาถามีพลังพุทธคุณอันยิ่งใหญ่ 

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มสวดคาถาชินบัญชร ควรเริ่มในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นวันครูและให้เตรียมดอกไม้ 3 สี หรือดอกบัว 9 ดอก หรือดอกมะลิ 1 กำ จุดธูป 3, 5 ถึง 9 ดอก เทียน 2 เล่ม จากนั้นให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยโดยการตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จากนั้นตั้งจิตภาวนาสวดคาถาชินบัญชรทั้ง 15 บท โดยเริ่มจาก..

ตั้งนโม 3 จบ 

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ตั้งอธิษฐานแล้วสวด

ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง 

อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา 

อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ 

มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

ต่อด้วยคาถาชินบัญชร 15 บท

1. ชะยาสะนากะตา พุทธา

เชตวา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง

เย ปิวิงสุ นะราสะภา

2. ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง

มัตถะเกเต มุนิสสะรา

3. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง

พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร

4. หะทะเย เม อะนุรุทโธ

สารีปุตโต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก

5. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง

อาสุง อานันทะ ราหุโล กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก

6. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง

สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน

โสภิโต มุนิปุงคะโว

7. กุมาระกัสสโป เถโร

มะเหสี จิตตะ วาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง

ปะติฏฐาสิคุณากะโร

8. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ

อุปาลี นันทะ สีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา

นะลาเต ติละกา มะมะ

9. เสสาสีติ มะหาเถรา

วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา

ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเตเชนะ

อังคะมังเคสุ สัณฐิตา

10. ระตะนัง ปุระโต อาสิ

ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ

วาเม อังคุลิมาละกัง

11. ขันธะโมระปะริตตัญจะ

อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ

เสสา ปาการะสัณฐิตา

12. ชินา นานาวะระสังยุตตา

สัตตัปปาการะ ลังกะตา วาตะปิตตาทะสัญชาตา

พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา

13. อะเสสา วินะยัง ยันตุ

อะนันตะชินะ เตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ

สะทา สัมพุทธะปัญชะเร

14. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ

วิหะรันตัง มะฮี ตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ

เต มะหาปุริสาสะภา

15. อิจเจวะมันโต

สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ

ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ

ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ

ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ

คาถาชินบัญชร ฉบับย่อ

ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (ภาวนา 10 จบ)

คำแปลคาถาชินบัญชร

1. พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์

2. มี 28 พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น

3. ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก

4. พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง

5. พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย

6. มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง

7. พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ

8. พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง 5 นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก

9. ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่

10. พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง

11. พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ

12. อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น

13. ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ

14. ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล

15. ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใด ๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0