โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

บทวิเคราะห์ : จับตา "บิ๊กตู่" เยือนอังกฤษ หลังกรณีวีซ่า "ยิ่งลักษณ์" หมากเกมโลกล้อมไทย ผลัดรุก-รับ ก่อนเลือกตั้ง

มติชนสุดสัปดาห์

เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2561 เวลา 01.12 น.
ปก

“เยือนสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ มีโอกาสพบเพื่อนเก่าๆ ทั้งจากสมัยยังเป็นนักเรียน นักธุรกิจ จนถึงตอนทำงานการเมือง เริ่มทริปจากที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้พบปะกับเพื่อนที่เป็นนักการเมือง แล้วไปพบเพื่อนนักธุรกิจที่รัฐนิวยอร์ก แล้วจบทริปที่รัฐเคนตักกี ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย ที่ผมและน้องสาวเคยมาเรียนปริญญาโทที่รัฐนี้ แต่คนละช่วงเวลากัน การได้มาเยือนสถานที่ที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่มาช่วงเวลาหนึ่ง การได้ระลึกถึงวันเก่าๆ ที่ผ่านมาในสถานที่เดิมๆ มันเป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูก”

นายทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายคู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว

รายงานข่าวระบุ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เดินทางจากอังกฤษ มายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏภาพถ่ายคู่กันบริเวณอนุสรณ์สถานลินคอล์น เป็นหลักฐานยืนยัน

จากนั้นทั้งคู่เดินทางมาพักผ่อน พบปะเพื่อนนักธุรกิจและนักการเมืองที่นิวยอร์ก

รายงานข่าวระบุด้วยว่า สองพี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่ในสหรัฐอเมริกานานราว 2 สัปดาห์ ก่อนเดินทางกลับกรุงลอนดอน จากนั้นมีโปรแกรมเดินทางไปร่วมชมฟุตบอลโลกที่รัสเซีย

การออนทัวร์สหรัฐของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากมีข่าวยืนยัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของประเทศหนึ่งในแถบยุโรป

พร้อมวีซ่าเข้าพำนักในอังกฤษ ระยะเวลา 10 ปี

แม้ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ในหลายประเทศ ไม่ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ได้อยู่แล้วก็ตาม

แต่การได้รับวีซ่าของอังกฤษ ซึ่งถือเป็นประเทศต้นแบบระบอบประชาธิปไตย ย่อมทำให้สถานะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในต่างประเทศ มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศมองว่า การได้วีซ่าพำนักในอังกฤษยาว 10 ปี เป็นประโยชน์ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์มากกว่าการได้สถานะผู้ลี้ภัย

เนื่องจากทำให้สามารถเดินทางไปประเทศอื่นๆ ได้อย่างอิสระ ยกเว้นไทย เช่นล่าสุดที่ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา กลับมาอังกฤษ ไปต่อรัสเซีย แล้วกลับอังกฤษอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ในต่างประเทศ ทุกครั้งได้ถูกนำมาโยงกับสถานการณ์การเมืองในไทยหลากหลายแง่มุม

ไม่ว่าในแง่ผลสะเทือนต่อรัฐบาล คสช. ต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามโรดแม็ป รวมถึงสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย

แม้ก่อนหน้านี้ระหว่างการไปปรากฏตัวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนมีนาคม รวมถึงประเทศสิงคโปร์ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม นายทักษิณ ชินวัตร จะแสดงความมั่นใจ

พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าแบบ “แลนด์สไลด์”

แต่นั่นก็เป็นการประเมินก่อนจะเกิดกระแสข่าว พรรคเพื่อไทยเริ่มประสบปัญหาการเลือกเฟ้นตัว “ผู้นำพรรค” คนใหม่ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในขณะที่การเลือกตั้งกำลังจะมาถึง

รวมถึงกรณีอดีต ส.ส. สมาชิกพรรคบางส่วน ต้านทาน “พลังดูด” ไม่ไหว

ถูกพรรคการเมืองตั้งใหม่บางพรรค นำเรื่องคดีความมาเป็นเครื่องมือต่อรอง ข่มขู่ กดดันให้ย้ายพรรค ซึ่งในบางรายดูเหมือนจะประสบผลสำเร็จ แต่บางรายก็ไม่

ยังไม่นับรวมปัญหา “ท่อน้ำเลี้ยง” ตีบตันมาพักใหญ่ๆ ลูกพรรคเสียขวัญกำลังใจไปไม่น้อย

ขณะที่พรรคการเมืองในเครือข่ายผู้มีอำนาจ ถึงจะเพิ่งจดแจ้งตั้งใหม่ แต่ก็ยึดกุมความได้เปรียบไว้ทุกด้าน เพราะมีการวางแผนปูทางมาอย่างดี กติกาต่างๆ ยกร่างเองทั้งหมด

จากการนำทัพ ครม.สัญจรลงพื้นที่หลายจังหวัด ล่าสุดพิจิตร-นครสวรรค์ มีอดีต ส.ส.ทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับขับสู้เต็มที่

การที่กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ได้รับการเปิดไฟเขียวจากศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐบาล คสช. เริ่มคุมเกมทุกอย่างไว้ในมือได้ค่อนข้างเบ็ดเสร็จ

จะเหลือก็แต่ความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่เหมือนก้อนกรวดในรองเท้า

หลายคนมองว่ารัฐบาลและ คสช. ยังมีสภาพตกเป็นรองในเกม “โลกล้อมไทย” การประสานติดตามตัวสองพี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรีกลับมารับโทษ ห่างไกลความเป็นไปได้มากขึ้นทุกที

การที่อังกฤษออกวีซ่ายาว 10 ปีให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมถึงการที่สหรัฐอเมริกายอมประทับตราพาสปอร์ตเปิดทางให้เข้าไปพำนักในประเทศ

ทำให้บรรดากองเชียร์แฟนคลับสองพี่น้อง “ชินวัตร” นำไปขยายผล โยนคำถามเข้าใส่รัฐบาล คสช. ทันทีว่า อังกฤษ-สหรัฐกำลังส่งสัญญาณ

ไม่ยอมรับรัฐบาลนอกวิถีทางประชาธิปไตยหรือไม่

กรณีอังกฤษ ประเทศต้นแบบประชาธิปไตย ออกวีซ่าให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ทำให้รัฐบาลและ คสช. ต้องหาทางกอบกู้หน้าอย่างเร่งด่วน ไม่ให้ต้องเสียรังวัดไปมากกว่านี้

แล้วโอกาสก็มาถึง เมื่อมีข่าวยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกำหนดเดินทางไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายน

เป็นการสานต่อความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ “ดีลเมกเกอร์” ของรัฐบาล นำคณะนักธุรกิจไทยร่วมคณะเดินทางไปด้วย

เป็นการเยือนสหภาพยุโรป (อียู) ครั้งแรกของผู้นำรัฐบาล คสช. นับตั้งแต่การทำรัฐประหารยึดอำนาจบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

และหลังจากอียูออกแถลงการณ์ปรับความสัมพันธ์ด้านการเมืองกับรัฐบาลไทยเมื่อปลายปี 2560 ด้วยเหตุว่าโรดแม็ปเลือกตั้งของไทยเริ่มมีความชัดเจนขึ้น

นอกจากมีคิวเข้าพบนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

สิ่งที่ทำให้การเยือนยุโรปครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการจับตาอีกประเด็นก็คือ เป็นการเยือนในช่วงเวลาเดียวกับ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พำนักอยู่ในอังกฤษ

ไม่เท่านั้น นายทักษิณเตรียมจัดงานฉลองวันเกิด 51 ปีในวันที่ 21 มิถุนายน ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้เป็นน้องสาวที่กรุงลอนดอนอีกด้วย

แน่นอนทั้ง 2 เหตุการณ์ย่อม “บังเอิญ” มากกว่า “จงใจ”

หากจะมีประเด็นให้พูดถึง น่าจะเป็นเรื่องท่าทีของอังกฤษที่มีต่อ “ยิ่งลักษณ์” และ “ทักษิณ” ซึ่งก็อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะกล้าเสี่ยงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาสอบถามกับทางอังกฤษหรือไม่

จะกู้หน้าคืนมาได้ หรือพลาดท่าซ้ำสอง

น่าลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0