มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(22ส.ค.) จากความกังวลทางอุปสงค์ ขณะที่วอลล์สตรีทผันผวนและทองคำลงแรง หลังพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเกิดภาวะ inverted yield curve (อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว) อีกครั้ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 55.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 38 เซ็นต์ ปิดที่ 59.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"เรื่องราวของน้ำมัน ทั้งหมดทั้งหมดเกี่ยวกับอุปสงค์" สกอต์ เดคาส หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของวอลส์ช เทรดดิ้ง ให้ความเห็น "ด้วยมีแต่คำพูดแง่ลบที่ว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับภาวะถดถอย ทุกๆข่าวพาดหัวต่างบอกว่าท้องฟ้ากำลังร่วงหล่น ซึ่งล้วนแต่ก่อแรงกดดดันต่อราคาน้ำมัน"
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(22ส.ค0) ปิดผสมผสาน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เซื่องซึมก่อนที่ประธานธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) มีกำหนดแถลงครั้งสำคัญ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 49.51 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,252.24 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.48 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,922.95 จุด แนสแดค ลดลง 28.82 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,991.39 จุด
วอลล์สตรีทปิดตลาดในแดนบวก แต่จากนั้นไม่นานก็ดิ่งลงหนัก หลังตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯเกิดภาวะ inverted yield curve อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว 10 ปี ลดต่ำกว่าพันธบัตรระยะสั้น 2 ปี สถานการณ์อันน่ากังวลซึ่งถูกมองในฐานะเป็นสัญญาณแห่งความเป็นไปได้ของเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯกระเตื้องขึ้นในช่วงท้าย หลังข้อมูลจากสถาบันไอเอชเอส มาร์กิต พบว่าดัชนีกิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 50.9 จุด ลดลงจากระดับ 52.6 จุด อย่างไรก็ตามตัวเลขต้องต่ำกว่าระดับ 50 ถึงบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯอยู่ในภาวะหดตัว
นอกจากนี้แล้วนักลงทุนยังจับตาคำแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ณ ที่ปะชุมธนาคารกลางประจำปีที่แจ็คสัน โฮล ในวันศุกร์(23ส.ค.) ซึ่งพวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(22ส.ค.) ปิดลบแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น โดยสัญญาโคเม็กซ์ ลดลง 7.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,508.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
