เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - วอลล์สตรีทดิ่งหนักในวันศุกร์(14ธ.ค.)โดยดาวโจนส์ร่วงเกือบ 500 จุด ตามแรงเทขายอันมีต้นตอจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก หลังพบข้อมูลเศรษฐกิจที่เซื่องซึมในสหรัฐฯและจีน ปัจจัยนี้ฉุดราคทองปิดลบแรง ขณะที่ทองคำขยับลงจากดอลลาร์แข็งค่า
ดาวโจนส์ ลดลง 496.87 จุด (2.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,100.51 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 50.59 จุด (1.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,599.95 จุด แนสแดค ลดลง 159.67 จุด (2.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,910.66 จุด
เจ้าหน้าที่จีนในวันศุกร์(14ธ.ค.) เผยแพร่รายงานตัวเลขค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมต่ำกว่าคาดหมาย รื้อฟื้นความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว
ขณะเดียวกันดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.6 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน หลังจากแตะระดับ 54.7 ในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016
นอกจากนี้แล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯยังถูกฉุดจากหุ้นของ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ผู้ผลิตยาสัญชาติอเมริกา หลังมีรายงานข่าวอ้างว่าทางบริษัทรับรู้เกี่ยวกับการขายแป้งทัลก์ปนเปื้อนแร่ใยหิน ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็ง
จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ต้องรุดออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของรอยเตอร์ แต่หุ้นของพวกเขาก็ร่วงไม่หยุดและปิดลบถึง 10% เป็นตัวถ่วงหนักหน่วงที่สุดของดาวโจนส์
แม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดหมายของจีนและสหรัฐฯจะเขย่าขวัญของนักลงทุน แต่ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ในวันศุกร์(14ธ.ค.) กลับปิดลบ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,241.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาน้ำมันในวันศุกร์(14ธ.ค.) ปิดลบแรง ด้วยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและการร่วงของตลาดทุน กระพือแรงเทขายในตลาดพลังงาน ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจที่อ่อนแอจะกระทบต่ออุปสงค์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
