ราคาขายปลีกน้ำมัน จ่อขยับ 2 บาทต่อลิตร วัดใจกบง.ถกมาตรการรับมือ ลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ผลของการโจมตีโรงกลั่นของซาอุดิอาระเบีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นราว 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกปรับตัวสูงขึ้นตาม ราว 2 บาทต่อลิตร แต่เชื่อว่าทางกระทรวงพลังงานจะแถลงมาตรการดูแล และใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาพยุง ไม่ให้ขยับขึ้นไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร เพื่อลดภาระกับผู้บริโภค และคงจะขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันทยอยขึ้นราคาครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีเงินเหลืออยู่ 39,402 ล้านบาท
นายมนูญ ศิริวรรณ
ส่วนการนำเข้าน้ำมันดิบเพื่อมากลั่นในประเทศนั้น เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ได้ขาดแคลน ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบของไทยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าน้ำมันจากหลากประเทศในตะวันออกกลาง ประกอบกับแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียที่ถูกโจมตีนั้น เป็นคนละชนิดที่ไทยนำเข้ามา ดังนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันดิบของไทย
"เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะขยับขึ้นไปอีก แต่จะไม่เกิน 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะคาดว่าทางซาอุดิอาระเบีย จะกลับมาเปิดกำลังผลิตน้ำมันได้เร็ว อีกทั้ง สหรัฐอเมริกาก็จะนำปริมาณสำรองออกมาใช้ด้วย”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวว่า โรงกลั่นบางจากไม่ได้นำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลาง โดยซื้อจากมาเลเซีย ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันอื่นๆ ที่นำเข้าจากซาอุดิอาระเบีย 1.7 แสนบาร์เรลต่อวันนั้น สามารถจัดหาจากประเทศอื่นแทนได้ แต่จะได้รับผลกระทบจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นไปสูงเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับโรงกลั่นซาอุดิอาระเบียจะกลับมาส่งออกได้เร็วเพียงใด อย่างไรก็ตาม น้ำมันตลาดโลกมีมากกว่ากำลังผลิตและหลายประเทศ และ สหรัฐอเมริกาก็พร้อมนำน้ำมันสำรองขึ้นมาใช้ ดังนั้น ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงไม่มากนัก แต่ก็คงไม่ต่ำกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอีก
