โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"น้องโดม" พริตตี้สาวสอง ชื่อดังเมืองตรัง ร้องคลินิกความงามฉีดฟิลเลอร์ จนหน้าเบี้ยว ไม่รับผิดชอบ

Khaosod

อัพเดต 19 ส.ค. 2561 เวลา 06.22 น. • เผยแพร่ 19 ส.ค. 2561 เวลา 06.22 น.
หน้าพัง
พริตตี้เมืองตรังร้องสื่อ

“น้องโดม” พริตตี้สาวสอง ชื่อดังเมืองตรัง ร้องคลินิกความงามฉีดฟิลเลอร์ จนหน้าเบี้ยว ไม่รับผิดชอบ

พริตตี้สาวสอง / วันที่ 19 ส.ค. นายเวชพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือน้องโดม อายุ 34 ปี ชาวจ.ตรัง พริตตี้สาวประเภท 2 ชื่อดังเมืองตรัง เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง โดยนำเอกสารหลักฐานการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมาให้ดู ประกอบด้วยค่ารักษาพยาบาล และแพทย์ผู้ที่ทำการ ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงาม และเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ ที่มีชื่อเสียงในวงการเสริมสวยความงามของเมืองตรัง และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

โดย นายเวชพงษ์ เล่าว่า ตนได้ฉีดสารฟิลเลอร์ จากคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง เมื่อเดือนธ.ค.59 กระทั่งเมื่อเดือนมิ.ย.61 ที่ผ่านมา ตนเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง จนตาปิด ปากบวม และหน้าบิดเบี้ยวผิดรูป จากที่เคยฉีดสารชนิดนี้มา ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มั่นใจว่าตนเองแพ้สารตัวนี้ เมื่อสอบถามไปยังหมอเจ้าของคลินิคได้รับคำตอบว่า เป็นเรื่องปกติ กระทั่งเมื่อตนเองเข้ารักษากับหมออีกหลายคน ต่างยืนยันว่ามีอาการแพ้ และอยู่ในภาวะการติดเชื้อ เมื่หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตพบว่า สารฟิลเลอร์ของคลินิกดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และบ้านเราไม่นิยมใช้กัน

ทั้งนี้ ตนมีอาการดังกล่าวเป็นระยะเวลา 27-28 วัน ต้องรักษาด้วยการฉีดและกินยา จนมีอาการเจ็บไปหมดทั้งตัว ความดันโลหิตสูก็ขึ้น 200-220 และมีค่าเม็ดเลือดขาวประมาณ 13,000 ซึ่งคนปกติทั่วไปจะไม่ถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาเคยติดต่อไปยังหมอเจ้าของคลินิกเสริมความงาม 1 ครั้ง และเพื่อนติดต่อให้อีก 1 ครั้ง

แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ถ้าถามว่าอยากจะฟ้องหรือไม่ ตอนแรกตอบเลยว่าไม่ ถ้าหากทุกวันนี้ทางคลินิกได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือเต็มที่ แต่ที่ผ่านมากลับปฏิเสธความรับผิดชอบ และล่าสุดตนก็ต้องจ่ายค่ารักษาไป 67,000 บาทแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องออกมาร้องเรียนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม

“คุณหมอบอกว่า อาการดังกล่าวเกิดจากฟิลเลอร์ตกค้าง โดยแนวทางการรักษาก็คือ เอาหนองออก จนขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นมาก แต่ยังต้องรอการทำอัลตร้าซาวด์เพื่อสรุปผลอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้สภาพร่างกายของตนยังไม่พร้อม และหลังจากเกิดเหตุทำให้มีผลกระทบกับตนเองมาก เพราะไม่ได้ทำงานเลย ต้องนอนอยู่บ้านอย่างเดียว

อีกทั้งยังไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะเป็นคนรักสวย จึงขาดความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการที่ตนเองเป็นอยู่นั้น หมอที่ จ.ตรัง ต่างไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย โดยอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย และอาจมีผลข้างเคียง ซึ่งคาดว่าจะต้องเดินทางไปรักษาที่ กทม.เท่านั้น”

นายเวชพงษ์ อยากฝากบอกกับทุกๆ คนที่อยากสวยแล้วฉีดโน่นฉีดนี่ว่า สามารถทำได้ แต่ต้องศึกษาให้เยอะ เพราะขนาดตนเคยเป็นที่ปรึกษาเรื่องความงามยังพลาดได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถ้าใช้แล้วสวยก็ดีไป แต่ถ้าทุกอย่างพังขึ้นมา ก็จะมีผลกระทบต่อตัวเรา ทั้งงาน ทั้งเงิน เหมือนอย่างเช่นตนเองที่

ขณะนี้เครียดมาก เพราะถ้ารักษาแล้วไม่เหมือนเดิมจะทำอย่างไร และทุกวันนี้ก็พยายามที่จะทำใจยอมรับกับหนองที่ในหน้า และส่วนอื่นๆ อันเนื่องมาจากสารฟิลเลอร์ที่ตกค้าง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0