โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

น้องสาวเมียยัน “ปุ๊” โกหก ลั่นไม่อยากให้มาขอโทษ-อยากให้ประหาร!

GMM25

อัพเดต 17 ม.ค. 2562 เวลา 22.41 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 22.41 น. • GMM25

น้องสาวรอดชีวิตจากเขยฆ่ายกครัว 5 ศพ เผย พ่อและพี่สาวไม่เคยพูด “อยากได้ให้ไปฟ้อง” ลั่น ไม่อยากให้ “ปุ๊” มาขอโทษ ไม่อยากเจอ ประหารชีวิตได้ก็ดี 

ความคืบหน้ากรณีนายธีรพล หรือปุ๊ ปิ่นอมร ใช้อาวุธปืนพกแบบสั้นขนาด 9 มิลลิเมตร ยิงคนในครอบครัวของ นางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยา จนมีผู้เสียชีวิต 5 รายประกอบด้วย นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว พ่อตา, นางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ แม่ยาย, นางกัญญาภัทร กิ่งแก้ว ภรรยาของนายวีรพลเอง, นางน้ำผา อินทร์สิทธิ์ พี่สาวฝาแฝดของแม่ยาย และนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ พี่สาวของแม่ยาย เหตุเกิดที่ ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เมื่อค่ำวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา หลังก่อเหตุนายธีรพล ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว หลบหนีไป และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จ.ระนอง รวบตัวได้เมื่อช่วงสายวันที่ 15 มกราคม ที่ จ.ระนอง ขณะกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งทางครอบครัวทำการฌาปนกิจศพแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มกราคม น.ส.สุพัตรา กิ่งแก้ว น้องสาวนางกัญญาภัทร กิ่งแก้ว หรือ อ้อม กล่าวว่า วันเกิดเหตุที่นายธีรพลยิงพ่อและพี่สาวเสียชีวิตนั้น ตนกำลังปลูกต้นไม้อยู่หลังบ้านกับแฟนและลูกสาว เห็นพ่อกับพี่สาวขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา ขณะเดียวกันนายธีรพลก็ขับรถยนต์เก๋งสีขาวตามมา ได้ยินเสียงนายธีรพลง้อพี่สาว บอกให้ขึ้นรถไปด้วยกัน แต่พี่สาวไม่ยอมไป เนื่องจากรู้ดีว่านายธีรพลเสพยาบ้ามา และพี่สาวก็บอกด้วยว่า บอกกี่ครั้งแล้ว ให้โอกาสกี่ครั้งแล้ว พ่อเองก็พูดว่าให้โอกาสมากี่ครั้งแล้ว ทั้งที่พ่อแม่เคยด่าใคร นายธีรพลก็เปลี่ยนเรื่องคุยพร้อมเอาเอกสารอะไรไม่ทราบได้มาให้พี่สาวเซ็น พ่อจึงบอกไปว่า หากจะให้เซ็นต้องไปเซ็นที่โรงพัก แค่นั้นแหละนายธีรพลก็เอาปืนออกมายิงพ่อและพี่สาวทันที การที่นายธีรพลอ้างว่า พ่อบอกว่าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งพ่อและพี่สาวไม่เคยพูดประโยคนี้เลย ตนเองก็ได้ยินชัดเจนเพราะอยู่ใกล้ ๆ กันกับพ่อและพี่สาว เมื่อรู้ว่าพ่อและพี่สาวถูกยิงก็วิ่งเข้าไปดูและช่วยพ่อ ไม่เคยใช้จอบที่อยู่ในมือทำร้ายนายธีรพลอย่างที่นายธีรพลกล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า นายเอกราช กำแหง ซึ่งเป็นแฟนตนที่ปลูกต้นไม้อยู่หลังบ้าน เห็นว่านายธีรพลกำลังไล่ยิงตนเอง แฟนจึงนำปืนลูกซองสั้นยิงสวนไปเพื่อป้องกันไม่ให้นายธีรพลยิงตนเองและลูกสาว แม้จะยิงสวนนายธีรพล แต่ไม่โดนนายธีรพล แต่กลับถูกยิงเข้าที่มือด้วยซ้ำไป 

น.ส.สุพัตรา กล่าวว่า ตอนแรกที่นายธีรพลก่อนจะคบกับพี่สาวบอกว่า เป็นทหาร เล่นหุ้น มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ไปๆ กลับๆ และตอนนั้นคิดว่าที่ไปๆ กลับ ๆ เพราะคงจะไปทำงาน แต่หลังจากเดือนที่ 4 ผ่านไปแล้วก็ไม่ไปไหนเลย ไม่เคยนอนที่บ้าน แต่ไปนอนที่โรงแรม เคยถามว่า ไม่ไปทำงานหรืออย่างไร นายธีรพลก็บอกว่า มีเลขาและมีลูกน้องเยอะ เป็นคนที่คุยโวคุยโม้ คุยว่ามีเป็นเป็น 100 ล้านบาท ให้เงินคนในครอบครัวครั้งละ 5,000 บาทบ้างหรือน้อยกว่านี้ เคยให้พ่อ 1,000,000 บาท เพื่อให้สร้างบ้าน เมื่อกลางปีที่ผ่านมาพี่สาวกับนายธีรพลมีกำหนดจะแต่งงานกันวันที่ 12 มกราคมนี้ ที่แต่งงานกันไม่ใช่เพราะพี่สาวท้องและขอยืนยันว่า พี่สาวไม่ได้ท้อง ผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า ไม่ได้ท้อง 

“ช่วงแรก ๆ ที่นายธีรพลไปๆ กลับๆ นั้น ได้ซื้อรถยนต์กระบะมือ 2 ให้ แต่ให้พี่สาวและพ่อไปเอาเองและให้เป็นชื่อพ่อและพี่สาว และตอนนั้นนายธีรพลยังไม่ค่อยพูด จะอยู่เงียบๆ แม่รักมากยังทำกลับข้าวให้รับประทาน ส่วนเรื่องเงิน 20 ล้านบาทที่มีการพูดถึงกันว่า นายธีรพลมาขอคืนนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ของที่นายธีรพลเอามาให้นั้นเขาเป็นคนซื้อมาเอง ทะเลาะกันกับพี่สาวทีไรก็จะมาขอคืน รถยนต์จำนวน 8 คันที่ซื้อให้ก็เอาคืนไปหมดแล้ว ลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพักแล้ว แต่กลับไปพูดว่าครอบครัวไม่ยอมคืนให้ พ่อบอกเสมอว่าของที่ให้มาเอาคืนไปให้หมด ไม่เอา ทรัพย์สินทุกอย่างคืนหมดแล้ว เหลือเพียงรถไถนาและรถยนต์กระบะอีกคัน ก็จะคืนให้” น.ส.สุพัตรา กล่าว 

น.ส.สุพัตรา กล่าวว่า สาเหตุที่ทะเลาะกับพี่สาวก็เนื่องมาจากเสพยาบ้า ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ นอกจากจะทะเลาะกับพี่สาวอยู่บ่อยครั้งแล้ว ยังเป็นคนขี้หึงมาก นายปุ๊เคยสาบานว่าจะเลิก ตั้งใจบวช 7 วัน แต่บวชอยู่ 3 วันเพื่อเลิกยา สุดท้ายก็กลับมาเสพอีก ส่วนวันที่ยิงพ่อและพี่สาว พี่สาวอาจจะท้าให้นายธีรพลยิงเองก็เป็นได้ เพราะเคยเอาปืนขู่พี่สาวอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้คิดว่าจะยิง 

“สิ่งที่ครอบครัววิตกถ้านายธีรพลออกจากคุกมาได้ กลัวว่านายธีรพลจะมาทำร้ายครอบครัวอีก สิ่งที่เขาสารภาพว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะครอบครัวของเราเป็นต้นเหตุนั้น นายธีรพลจะพูดอย่างไรก็ได้เพื่อให้พ้นผิด แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวของนายธีรพลทั้งนั้น อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ปล่อยให้นายธีรพลรับกรรมของเขาไปเอง เป็นไปได้อยากให้ประหารชีวิตเลยก็ดี อยากจะบอกพ่อแม่และพี่สาวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ที่เหลือจะดูแลเอง บ้านที่สร้างไว้เตรียมแต่งงานใครจะทำอะไรก็ทำไป ไม่อยากได้ ส่วนทรัพย์สินที่เหลือจะคืนให้หมด ไม่เก็บไว้ที่บ้าน ไม่เอา ไม่อยากให้นายธีรพลมาขอโทษ ไม่อยากให้มา” น.ส.สุพัตรากล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0