กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก ในหมู่บ้านซอยรามอินทรา ถนนรามอินทรา เขตบางเขน กทม. หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบส่งยาเค 5.2 กิโลกรัม โดยพบหลักฐานเป็นยาเสพติดหลายรายการ ทั้งยาเค ยาไอซ์ ยาบ้า ยาอี กัญชาแห้ง ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้คือ อดีตนักร้องสาวลูกครึ่งชื่อดัง “ปุ๊กกี้ ชาลาล่า” หรือ น.ส.ปริศนา พรายแสง ซึ่งอยู่ภายในบ้านพร้อมกับนายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี สามี และชาวไต้หวันอีก 1 คน
วันที่ 18 มิ.ย.62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ถนนรามอินทรา เขตบางเขน กทม. พบว่าบ้านปิดเงียบ นายชัยภัทร หมั่นกิจ หรือ ภัทร ประธานหมู่บ้าน เปิดเผยว่า วานนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาค้นบ้านของ น.ส.ปริศนา เมื่อตรวจพบว่ามียาเสพติดจึงได้เชิญตนซึ่งเป็นพยานคนกลาง
โดยก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านเคยร้องเรียนว่าตอนกลางคืนจะมีเสียงการขุดเจาะภายในบ้านของ น.ส.ปริศนา แต่เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบการต่อเติม ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าบ้านของน.ส.ปริศนามีดาราหรือบุคคลอื่นมาที่บ้านหรือไม่ เนื่องจาก น.ส.ปริศนา มักจะเก็บตัวเงียบ เรียบร้อย ไม่ค่อยพูดจา หลังจากนี้ เจ้าของบ้านหลังอื่นก็จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบ้านว่ามีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ภายในบ้านหรือไม่ เพราะเกรงว่าหากมีผู้เช่ารายใหม่เข้าแล้วพบยาอีก ก็จะไม่ใช่เรื่องที่ดี
นอกจากนี้ ทีมข่าวพบว่าที่สำนักงาน มีกล่องพัสดุส่งถึง น.ส.ปริศนา มาส่งด้วย
นายทรงพล คล้ายพงษ์พันธ์ หรือ ดิ๊พ บอยสเก๊าท์ เผยว่า เมื่อเห็นข่าวตอนแรก ตนเลื่อนฟีดเฟซบุ๊กดู คิดว่าเป็นข่าวหลอก แต่เมื่อเลื่อนไปเรื่อย ๆ ก็เห็นสำนักข่าวลงข่าว คิดว่าคงเป็นเรื่องจริง ยอมรับว่าตกใจ รู้สึกสงสาร เห็นใจ และเป็นห่วงปุ๊กกี้
นอกจากนี้ กลุ่มคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นตามเพจต่าง ๆ ตนมองว่าบางคนเป็นนักเลงคีย์บอร์ดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวไปต่าง ๆ นานา คล้ายกับโจมตีเชิงหยาบคายรุนแรง ตนคิดว่าควรอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เพราะยังไม่ได้รับฟังข้อมูลข่าวสารครบทั้งหมด
ทั้งนี้ ตนคิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นปุ๊กกี้คงไม่ได้ตั้งใจ แต่อาจจะมีปัจจัยที่ทำให้หลงทางไป อยากให้ทุกคนให้กำลังใจปุ๊กกี้ รวมทั้งให้โอกาส ให้ปุ๊กกี้มีกำลังใจลุกขึ้นต่อสู้ กลับตัวเป็นคนดี ส่วนตัวอยากให้ปุ๊กกี้เรียกสติกลับมา เพราะคงกลับไปแก้ไขอะไรกับสิ่งที่ผิดพลาดไม่ได้ และตนก็คิดว่าหากปุ๊กกี้ได้รับโทษตามกระบวนการเสร็จสิ้น แล้วพ้นโทษออกมามีโอกาสที่ดี ตนก็คงอยากดึงปุ๊กกี้มาทำโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับยุค 90 เพราะถือเป็นการให้โอกาสเขาด้วย
นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา กล่าวว่า ปุ๊กกี้เป็นคนแจ่มใสร่าเริง ร่างกายสมบูรณ์ ไม่เหมือนคนเสพยา ล่าสุดเมื่อวานยังได้คุยไลน์กลุ่ม กัน ปุ๊กกี้ตอบไลน์ในช่วงบ่าย แต่ในช่วงมีข่าวปุ๊กกี้ไม่ตอบไลน์กลุ่ม ตนยังส่งข่าวเข้าไปในกลุ่มแล้วแซวว่า “ฟ้องไหม ๆ ข่าวผิด” ตอนนี้ตนขอเช็กข่าวของปุ๊กกี้ และรอรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจนก่อน ถ้าเป็นผู้เสพจริง ในความเป็นเพื่อน ตนพร้อมให้กำลังใจ แต่ถ้าปุ๊กกี้เป็นผู้ขาย ตนคงจะรับไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แรงมาก เพราะตนมีลูก และสอนลูกว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ยอมรับว่าช็อก แต่พอตั้งสติได้ ตนเริ่มสงสารลูกของปุ๊กกี้ ลึก ๆ ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปได้ ตลอดเวลา 20 ที่ผ่านมา ปุ๊กกี้ไม่ได้เจอลูก เพราะลูกอยู่กับอดีตสามี ปุ๊กกี้จะพูดถึงลูกเสมอ ปุ๊กกี้เคยเล่าว่าดีใจที่ได้กลับไปติดต่อลูก ส่วนความเครียดหรือโรคซึมเศร้านั้น ตนไม่เคยเห็น ปุ๊กกี้บอกกับตนว่าหายซึมเศร้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าคนเราพออายุมากขึ้น ก็ควรผิดพลาดน้อยลง ซึ่งปุ๊กกี้แต่งงานกับสามีหลายคน ก็สามารกลับตัวเริ่มชีวิตได้ แต่เรื่องยาเสพติดไม่ควรยุ่ง เพราะกลับตัวลำบาก ซึ่งถ้าตนยังสอนลูกเรื่องยาเสพติด แต่ตนเองยังทำงานกับคนที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนก็ไม่รู้จะสอนลูกอย่างไร อีกทั้งห่วงลูกของปุ๊กกี้ด้วยที่ต้องตอบคำถามสังคม ส่วนจะบอกว่าตัดเพื่อนก็ยาก ขอบอกว่าตอบไม่ได้ดีกว่า
https://youtu.be/Vw_CUXJ4wEY