จากกรณีอดีตนักร้องทีนส์ป๊อบชื่อดัง “ปุ๊กกี้- ปริศนา พรายแสง” วัย 40 ปี ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านซอยรามอินทรา 65 ถูกจับกุมพร้อมสามี “นายชลวิทย์ คีตะตระกูล” อายุ 49 ปี และ MR.HUNG CHENG YI (หง เจิ้ง อี้) สัญชาติไต้หวัน อายุ 28 ปี โดยพบสารเสพติดและอุปกรณ์เสพยาจำนวนมาก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญแล้ว โดยสำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีความผิด 2 ข้อหา ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งทั้ง “ปุ๊กกี้” และสามีตรวจพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง อีกทั้งจากการสืบประวัติพบว่าฝ่ายชายเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดตั้งแต่ปี 2549 และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน การโดนจับกุมในครั้ง ไม่ได้ส่งผลต่อตัว “ปุ๊กกี้” เพียงคนเดียว แต่ยังมีลูกทั้ง 3 คนของเธอ และงานคอนเสิร์ตที่เพื่อนๆ รับไว้ร่วมกัน
โดยทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามไปยัง “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” เพื่อนศิลปินในรุ่นเดียวกันและกลุ่มเพื่อนที่กำลังมีงานคอนเสิร์ตด้วยกัน
โดย นุ๊ก กล่าวว่า เมื่อได้ทราบข่าวตอนแรกไม่เชื่อ คิดว่า “ปุ๊กกี้” น่าจะอยู่ในที่เกิดเหตุเฉยๆ เพราะจากที่ได้สัมผัสใกล้ชิดปุ๊กกี้จากที่เดินสายแสดงคอนเสิร์ต ปุ๊กกี้ร่าเริง ร่างกายสมบูรณ์ ไม่เหมือนคนเสพยา ล่าสุดเมื่อวานยังได้คุยไลน์กลุ่ม ซึ่งมีตน , พี่ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง , พี่ต๊ะ วินรวีร์ ใหญ่เสมอ และปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง มีทีมแดนเซอร์ ทีมนักดนตรี ผู้จัดการทีมคือพี่โจ้ (เฉลิมศักดิ์) ทำคอนเสิร์ตด้วยกัน ปุ๊กกี้ยังตอบไลน์ในช่วงบ่าย แต่ในช่วงมีข่าวปุ๊กกี้ไม่ตอบไลน์กลุ่ม ตนยังส่งข่าวเข้าไปในกลุ่มแล้วแซวว่าฟ้องไหมๆ ข่าวผิด ตนโทรหา “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” ก็ไม่มีใครทราบเรื่อง
ตอนนี้ตนขอเช็คข่าวของปุ๊กกี้และรอรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ที่ชัดเจนก่อน ในเรื่องปัสสาวะสีม่วง “ปุ๊กกี้” อาจจะเป็นผู้เสพก็ได้ ในความเป็นเพื่อน ตนยังพร้อมให้กำลังใจ แต่ถ้าปุ๊กกี้โดนจัดว่าเป็นผู้ขาย ตนคงจะรับไม่ได้ ตนว่าเป็นเหตุการณ์ที่แรงมาก เพราะตนมีลูก และสอนลูกว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และลูกก็รู้จักกับ “ปุ๊กกี้”
ตนยอมรับว่าช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พอตั้งสติได้ ตนเริ่มสงสารลูกของปุ๊กกี้ ลึกๆ ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปได้ เวลาที่ผ่านมาปุ๊กกี้มักพูดถึงลูกให้ฟัง ตลอดเวลา 20 ที่ผ่านมาที่ปุ๊กกี้ไม่ได้เจอลูก (ลูกอยู่กับอดีตสามี) ปุ๊กกี้พูดถึงลูกเสมอ จนเมื่อตนได้กลับมาร่วมงานกับปุ๊กกี้ ปุ๊กกี้ก็เล่าว่าดีใจที่ได้กลับไปติดต่อลูก แต่พอมีเหตุการณ์นี้ปุ๊กกี้กับลูกก็คงต้องไกลกันออกไปอีก
ถ้าถามถึงความเครียดหรือโรคซึมเศร้าของปุ๊กกี้ “นุ๊ก สุทธิดา” บอกว่า หลังๆ ที่ได้เจอกันตนไม่เคยเห็นปุ๊กกี้เครียด เขายังบอกกับตนว่าหายซึมเศร้าแล้ว ปุ๊กกี้ไม่ค่อยเล่าเรื่องสามีคนนี้ให้ฟัง พูดแค่สามีมีนิสัยเจ้าชู้และทำธุรกิจส่งออกเสื้อผ้า
กับงานคอนเสิร์ตหลายที่ที่ต้องยกเลิก ตนก็ไม่รู้ว่าจะยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง ตนอาจเห็นแก่ตัว เพราะตนก็มีลูกต้องดูแล แต่ตนก็เป็นห่วงปุ๊กกี้ ลองคิดดูว่าวันนี้จะเป็นวันที่หนักแค่ไหนสำหรับเขา
ในฐานะที่ตนเองเป็นศิลปินยุคเดียวกันและได้เห็นชีวิตของปุ๊กกี้มาตั้งแต่เข้าวงการ ตนคิดว่าชีวิตของปุ๊กกี้น่าสงสาร แต่สิ่งที่ตนเสียใจและผิดหวังคือ คนเราพออายุมากขึ้น ก็ควรผิดพลาดน้อยลง อายุมากมีสิทธิ์ผิดพลาด แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควร อย่างปุ๊กกี้แต่งงานกับสามีหลายคน ก็สามารกลับตัวเริ่มชีวิตได้ แต่เรื่องยาเสพติดไม่ควรยุ่งไม่ควรผิด เพราะกลับตัวลำบาก
นุ๊ก กล่าวทิ้งท้าย วอนอย่าพาดพิงลูกๆ ของปุ๊กกี้ ให้ว่าผู้ใหญ่ ถูกเป็นถูก ผิดต้องเป็นผิด ตนก็ไม่รู้จะพูดถึงเรื่องนี้ยังไง ตอนนี้ยังช็อก ถ้าตนยังสอนลูกเรื่องยาเสพติด แต่ตนยังทำงานกับคนที่ยุ่งเกี่ยว ตนก็ไม่รู้จะสอนลูกยังไง จะบอกว่าตัดเพื่อนก็ยาก ขอบอกว่าตอบไม่ได้ดีกว่า
