นึกว่าศพ ที่แท้เมาลงไปนอนหลับในน้ำ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบ ศพชายไม่ทราบชื่อ จมน้ำตายอยู่ใต้สะพานหนึ่ง ริมถนนสาย 340 ม.3 ต.ชัยนาท อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท จึงไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน อาสาสมัครร่วมกตัญญู และแพทย์โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร 
          
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างชายไม่ทราบชื่อ นอนจมอยู่ในคลองชลประทานใต้สะพานหนึ่ง โดยลำตัวจมอยู่ในน้ำ แต่ใบหน้าลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ ที่หน้าอกมีรอยสักคำว่า Bloom ส่วนในเพิงพักข้างสะพาน พบกระเป๋าเดินทางสีดำวางอยู่ริมถนน  และพบรองเท้าแตะสีดำหนึ่งข้าง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง วางอยู่ในเพิงพัก และยังพบเสื้อผ้าและกระเป๋าสะพายวางอยู่ที่พงหญ้า ในคลองชลประทาน  
              
สอบถามชาวบ้าน เล่าว่า วันนี้ช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า เห็นชายคนดังกล่าว ลงรถโดยสารมาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระ มาตรงจุดเกิดเหตุ โดยเข้าไปนั่งและนอนอยู่ในเพิงพักข้างสะพาน  จากนั้นช่วงเที่ยงก็ไม่เห็นตัวชายดังกล่าว เห็นแต่สัมภาระวางอยู่ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงกับตกใจ เพราะชายดังกล่าวกลายเป็นศพอยู่ในคลองชลประทานแล้ว จึงได้แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
          
โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ในการตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครมาจากไหน  ซึ่งจากการตรวจสอบกระเป๋า ทำให้ทราบชื่อ คือ นายอำนาจ ฟั่นนาง อายุ 28 ปี เป็นชาว อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ตำรวจ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาญาติ  เพื่อแจ้งข่าวว่านายอำนาจ เสียชีวิตแล้ว แต่ปรากฎว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญู  กำลังลงไปนำศพนายอำนาจ ขึ้นมาจากน้ำ เพื่อจะให้แพทย์ชันสูตรศพ นายอำนาจ กลับมีสติขึ้นมา ลุกขึ้นมานั่งขัดเนื้อขัดตัว ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  กู้ภัย และชาวบ้านที่ไปดูเหตุการณ์เป็นอย่างมาก เพราะว่า กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ นายอำนาจไม่ได้เสียชีวิต แค่ลงไปนอนหลับในน้ำ ตำรวจจึงให้นำตัวขึ้นมาบนฝั่ง
            
จากการสอบถาม นายอำนาจ ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมา  ให้การว่า เมื่อคืนตนไปดื่มเหล้ากับเพื่อนที่จังหวัดสุพรรณบุรี จนถึงเช้า และนั่งรถกลับมาที่ชัยนาท เพื่อจะกลับบ้านใน อ.มโนรมย์ แต่ได้มาลงตรงจุดเกิดเหตุ แล้วรู้สึกง่วงมาก อยากนอน จึงได้ถอดเสื้อผ้า เดินลงไปนอนในน้ำใต้สะพาน  เพราะไม่มีผู้คนมารบกวน ซึ่งระหว่างที่หลับไปในน้ำกว่า 2 ชั่วโมง ไม่รู้ว่ามีคนมาดูตนและคิดว่าตนเสียชีวิตไปแล้ว กระทั่งกู้ภัยไปจับตัว จึงได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา 
            
นายอำนาจ ยังบอกอีกว่า ที่ต้องลงไปนอนในน้ำ เพราะรู้สึกร้อน ที่สำคัญคือผู้คนไม่พลุกพล่าน ไม่มีใครรบกวนการนอน  และไม่กลัวว่าจะจมน้ำตาย เพราะเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ได้ดำเนินคดีใดๆ แต่ตักเตือนนายอำนาจ ไม่ให้กระทำเช่นนี้อีก เพราะจะเป็นอันตรายถึงชีวิต จากนั้นทุกคนที่มาดูเหตุการณ์  จึงได้แยกย้ายกันไป ส่วนนายอำนาจได้มีพลเมืองดีที่มาดูเหตุการณ์ อาสาขับรถไปส่งให้ถึงบ้านใน อ.มโนรมย์  ซึ่งนายอำนาจก็ได้ขอโทษและขอบคุณทุกคนที่มาดูตน