วันที่ 21 ก.พ. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 65 หรือ จีดีพี จะขยายตัวได้ 4% โดยมีช่วงคือ 3.5-4.5% มีแรงสนับสนุนคือ การส่งออกที่จะขยายตัว 4.9%, การบริโภคเอกชน 4.5%, การลงทุนเอกชน 3.8%, การลงทุนภาครัฐ 4.6% ยกเว้นอุปโภคภาครัฐติดลบ 0.2% และยังมีแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการ คาดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.5 ล้านคน สร้างรายได้ 4.7 แสนล้านบาท
ส่วนจีดีพีไทยในปี 64 ขยายตัวได้ 1.6% สูงกว่าที่ สศช. คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.2% ซึ่งดีขึ้นจากที่ติดลบ 6.2% ในปี 63 ผลมาจากเศรษฐกิจไทยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด ทำให้การท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 64 ที่ผ่านมาจีดีพีขยายตัวได้ 1.9% ส่วนการส่งออกปี 64 ขยายตัว 18.8%
“เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ระดับหนึ่งแล้วจากมาตรการผ่อนคลายสาธารณสุข และมีแรงส่งจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้อยู่ โดยจีดีพีไทยปี 64 ขยายตัว 1.6% อาจฟื้นตัวได้น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะท่องเที่ยวเติบโตไม่ดี แต่ในปีนี้ ถ้ามาตรการต่าง ๆ ช่วยได้ดี การท่องเที่ยวกลับมาได้ แต่ยังไม่เท่าก่อนโควิด จะทำให้ขยายตัวต่อเนื่อง”
นายดนุชา กล่าวว่า ปี 65 ต้องติดตามสถานการณ์การระบาดโอมิครอน แม้จะติดรวดเร็ว แต่ความรุนแรงของอาการ บวกกับฉีดวัคซีนแล้ว 70% ของจำนวนประชากร และการเสียชีวิตโควิดช่วงที่ผ่านมาลดลง เชื่อว่าคงไม่มีปรับเพิ่มความเข้มข้นการควบคุมการระบาดเพิ่มเติม และจะมีการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น จะทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 65 เดินหน้าได้มากขึ้น โดยหากไม่มีการระบาดระลอกใหม่จะยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ต้องจับตาการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อตามราคาพลังงาน และราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้หลายธนาคารกลางปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น ซึ่งอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ต้องจับตาใกล้ชิดและเตรียมมาตรการรองรับเรื่องพวกนี้ไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 65 ดูจากเดือน ม.ค. กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะขยายตัวอยู่ ยกเว้นจากปลายไตรมาสมีเหตุการณ์กระทบอาจทำให้หยุดชะงักได้ แต่เท่าที่ดูยังไม่เห็นปัจจัยกระทบกิจกรรมเศรษฐกิจได้
“เงินเฟ้อจะมีผลกระทบแรงกดดันในปีนี้พอสมควร ต้องดูราคาสินค้าจากปัจจัยราคาพลังงาน ส่วนปัจจัยเงินเฟ้อขึ้นอยู่กับนโยบายการเงินว่าจะดำเนินนโยบายลักษณะไหน แต่เท่าที่ดูช่วงที่ผ่านมา ถ้าเศรษฐกิจไทยเปราะบางอยู่ โดยภาคนโยบายการเงินจะเอาส่วนนี้เข้ามาเป็นปัจจัยด้วย ซึ่งเชื่อว่า ธปท. จะนำปัจจัยหลายตัวมาพิจารณามาดูแลเงินเฟ้อ”
