AMNESTY INTERNATIONAL - องค์การนิรโทษกรรมสากลเผยแพร่คำแถลงบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในวันศุกร์(22มี.ค.) แนะรัฐบาลชุดใหม่ของไทยต้องยกเลิกการจำกัดอย่างเกินควรต่อสิทธิเสรีภาพการแสดงออก และหยุดการใช้อำนาจพิเศษโดยพลการ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้(24มี.ค.)
ในข่าวแจกที่เผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการระบุว่าตลอดช่วง 10 ปีแห่งความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่ผ่านมา พวกเจ้าหน้าที่ของไทยมักอ้างความมั่นคงแห่งชาติปิดปากฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์และเหล่าผู้แสดงความเห็นต่างทางการเมืองอย่างสันติ
คำแถลงระบุว่าตอนนี้องค์การนิรโทษกรรมกำลังผลักดันวาวะสิทธิมนุษยชน ซึ่งวางกรอบประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนสำคัญสุด 9 ข้อ นำเสนอต่อเหล่าผู้สมัครชิงเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฏรและผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นรัฐบาลชุดใหม่ ถึงสิ่งที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ
ในข้อเสนอดังกล่าวรวมไปถึงสิทธิเสรีภาพพ้นจากการถูกทรมานและบังคับให้สูญหาย(ถูกอุ้ม), สิทธิเสรีภาพการแสดงออก, สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมหรือรวมกลุ่ม และสิทธิด้านความเป็นส่วนหนึ่ง ในความเกี่ยวข้องกับมาตรการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ต่างๆ
องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่าหลังจากกองทัพไทยก่อรัฐประหารยึดอำนาจในเดือนพฤษภาคม 2014 และประกาศกฎอัยการศึก พวกเจ้าหน้าที่ทหารจำกัดอย่างเข้มข้นต่อการแสดงออกด้านสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน
แม้ว่ากองทัพให้สัญญาว่าข้อจำกัดด้านสิทธิต่างๆที่พวกเขาบังคับใช้นั้นจะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อพิทักษ์ความสงบเรียกร้อยของบ้านเรือนและการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยยังอยู่บนเส้นทาง แต่ทางองค์การนิโทษกรรมระบุว่าท้ายที่สุดแล้วการยกเลิกข้อจำกัดด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆและการเลือกตั้งต่างก็ถูกเลื่อนหลายต่อหลายครั้ง
แคทเธอรีน เกอร์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขององค์การนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องว่า "รัฐบาลใหม่ควรยุติดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างอย่างสันติ และยุติใช้อำนาจโดยพลการในกาจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงออก นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ไทยยังใช้อำนาจฉุกเฉินตามอำเภอใจเพื่อไล่ล่าเหล่านักปกป้องสิทธิมนุษยชน"
เกอร์สัน ระบุว่า "รัฐบาลชุดใหม่ต้องเคารพสิทธิมนุษยชนแม้แต่ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ มันจำเปนต้องเพิ่มความเข้มแข็งของกฎหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ที่เห็นกันเกลื่อนภายใต้การปกครองของทหารและไม่มีใครต้องรับผิดชอบ"
