โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

นิสสัน ฉลองส่งออกครบ 1 ล้านคัน ย้ำไทยฐานส่งออกโลก

Manager Online

อัพเดต 17 ม.ค. 2562 เวลา 12.43 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 12.43 น. • MGR Online

นิสสันเริ่มสายพานการผลิตเพื่อการส่งออกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ไปสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลกกว่า 115 ประเทศ ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและการส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคและทั่วโลก พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และชุมชนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นิสสัน เดินหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ จากความสำเร็จในการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกจากฐานการผลิตในประเทศไทยไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกครบ 1 ล้านคัน ซึ่งรถยนต์คันที่ 1 ล้าน คือ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ พรีเมียมเอสยูวีแบบตัวถังบนแชสซีส โดยเป็นรถยนต์ที่โรงงานนิสสัน ประเทศไทยดำเนินการผลิตเพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก

นิสสัน ประเทศไทย เริ่มทำการส่งออกรถยนต์คุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยไปสู่ลูกค้าทั่วโลก นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 โดย นิสสัน ฟรอนเทียร์ คือรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฐานการผลิตของนิสสัน ประเทศไทย ได้มีการขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นจนได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของนิสสันในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตรถยนต์คุณภาพส่งถึงมือลูกค้า ผู้ขับขี่จากทั่วทุกมุมโลก

ในปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรกของนิสสัน ประเทศไทย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ตามด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ เวียดนาม นิวซีแลนด์ ดูไบ และโอมาน

ตั้งแต่พ.ศ. 2542 นิสสันได้ขยายการส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปยังกว่า 115 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบัน รถยนต์ที่นิสสัน ประเทศไทย ผลิตเพื่อการส่งออก มีจำนวน 6 รุ่น ได้แก่ นิสสัน อัลเมลร่า มาร์ช นาวารา ซิลฟี่ เทียน่า และเทอร์ร่า นอกจากนี้ นิสสันยังได้ทำงานร่วมกับ 250 กว่าบริษัทที่อยู่ภายใต้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งก่อให้เกิดการว่าจ้างแรงงานอีกกว่า 170,000 อัตรา และในปี พ.ศ. 2561 นิสสัน ยังมีปริมาณการส่งออกรถยนต์ของไทยสูงสุดเป็นอันดับ 5 โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2560 ถึง 19%

ยูตากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสของนิสสันเอเชียและโอเชียเนีย กล่าวว่า “ความสำเร็จของนิสสัน ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์แห่งนวัตกรรมนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ที่เน้นสร้างสรรค์รูปแบบการขับขี่ที่ปลอดภัย ฉลาด และยั่งยืนให้แก่ผู้คน ผู้ใช้รถบนท้องถนนทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น นิสสัน เทอร์ร่า รถยนต์เพื่อการส่งออกคันที่ 1 ล้าน ได้เดินทางออกจากท่าเรือแหลมฉบังในวันนี้ โดย นิสสัน เทอร์ร่า ซึ่งผลิตขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อภูมิภาคนี้โดยเฉพาะนั้นได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าทั่วทั่งภูมิภาคเป็นอย่างดี” โดยนายยูตากะ ซานาดะ กล่าวเสริมว่า “เราจะยังคงเดินหน้าลงทุนในระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ตลอดไปจนถึงการส่งเสริมให้เกิดสร้างงานและกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมนำเอาประโยชน์จากอุตสาหกรรม 4.0 มาประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณค่ากับประเทศไทย”

ส่วน อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้กล่าวภายในงานนี้ถึงความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จของยานยนต์คุณภาพระดับโลกที่ผลิตขึ้น ณ โรงงานนิสสัน ประเทศไทย ว่า “ความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ของนิสสันในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของเหล่าพนักงานกว่า 5,000 คน พร้อมด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจชาวไทยของเรา” พร้อมทั้งกล่าวเสริมอีกว่า “ปัจจุบัน ฐานการผลิตของนิสสันในจังหวัดสมุทรปราการมีกำลังการผลิตรวมถึง 370,000 คันต่อปี”

ดร. บงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า “ดิฉันขอแสดงความยินดีกับนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวิติศาสตร์การส่งออกครั้งสำคัญของประเทศไทยที่สามารถส่งออกไปไกลถึงทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป ประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และตลาดสำคัญอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เข้มงวด ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกไปยังทั่วโลก พร้อมกันนี้ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในการผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของประเทศไทยในเวทีระดับโลก โดยบีโอไอจะยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อย่าง นิสสัน เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัย การพัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมระบบการผลิตอัจฉริยะ รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานอีกด้วย”

นิสสัน เริ่มต้นสายพานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และได้ย้ายฐานการผลิตไปยังจังหวัดสมุทรปราการในพ.ศ. 2518 เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์นิสสันในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้เดินหน้าลงทุน เพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้มีความทันสมัย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ต่อมาในปี พ.ศ.2557 นิสสันได้เปิดไลน์การผลิต ณ โรงงานแห่งที่ 2 บนถนนบางนา – ตราด กม. 22 เพื่อเป็นฐานการผลิต นิสสัน นาวารา สำหรับจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศระดับโลก (COE) สำหรับรถกระบะอีกด้วย และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 นิสสันได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ระดับภูมิภาค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ

“นิสสันมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยได้ส่งพนักงานไทย เข้าร่วมฝึกอบรมที่โรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 163 คน นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในพ.ศ. 2559” นายอันตวนกล่าวเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ นิสสัน ยังให้การสนับสนุนชุมชนทั่วประเทศไทยผ่านโครงการฝึกงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยกว่า 11 แห่ง และโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นการร่วมมือกับมูลนิธิรักษ์ไทย และ แคร์ ประเทศญี่ปุ่น โดยคาดการณ์จำนวนนักเรียนมากกว่า 1,000 คนจากโรงเรียน 10 แห่งใน 3 จังหวัดที่ร่วมโครงการ ซึ่งรวมถึงจังหวัดสมุทรปราการ จะเข้าร่วมในโครงการผู้นำเยาวชนในครั้งนี้

นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้

พร้อมกันนี้ นิสสัน ยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0