โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

นิวส์รูมวิเคราะห์ : 'ไทเกอร์ วู้ดส์' ขึ้นสูง ลงต่ำ กับการออกสตาร์ตรอบใหม่

MATICHON ONLINE

อัพเดต 20 เม.ย. 2562 เวลา 11.49 น. • เผยแพร่ 20 เม.ย. 2562 เวลา 11.49 น.
2019-04-14T193833Z_632576112_HP1EF4E1IK8Z5_RTRMADP_3_GOLF-MASTERS
(REUTERS/Jonathan Ernst)

ศึกกอล์ฟเมเจอร์ เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสต้า เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ปิดฉากลงพร้อมกับความชื่นมื่นของแฟนกอล์ฟทั่วโลก เมื่อ ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตโปรหมายเลข 1 ของโลกคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

แชมป์นี้ของไทเกอร์ได้รับฟีดแบ๊กมหาศาลจากแฟนๆ และสื่อกีฬารอบโลก ขนาดไม่ใช่คนดูกอล์ฟก็ยังติดตามข่าว และ “อิน” ตามไปด้วยไม่มากก็น้อย

แฟนๆ รอบสนามออกัสต้าในวันนั้น ต่อให้ไม่ใช่แฟนของไทเกอร์ก็ยังร่วมส่งเสียงเชียร์กึกก้อง ขณะที่เพื่อนนักกอล์ฟต่างรุมล้อมสวมกอดเขาด้วยความยินดี ส่วนบุคคลสำคัญของโลกระดับประธานาธิบดีสหรัฐทั้งอดีตและปัจจุบันอย่าง บารัค โอบามา และโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างก็ร่วมส่งความปรารถนาดีผ่านโซเชียลมีเดียแบบทันควัน

ชัยชนะของไทเกอร์ วู้ดส์ วันนั้นกลายเป็นวาระสำคัญของวงการกีฬาโลก เพราะกล่าวได้ว่านี่เป็นการ “คัมแบ๊ก” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์

กรณีของไทเกอร์ต่างกับนักกีฬาหลายๆ คน เพราะไม่ได้ตกต่ำแค่เรื่องข่าวฉาว ปัญหาส่วนตัว ฟอร์มตก หรืออาการบาดเจ็บอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นทุกอย่างรวมกัน มาแบบประดังประเดไม่หยุดต่อเนื่องหลายปี

เริ่มจากปลายปี 2009 ที่โดนขุดคุ้ยว่ามีปัญหานอกใจภรรยา นำไปสู่เรื่องฉาวๆ อย่างอาการติดเซ็กซ์ โดนผู้หญิงมากหน้าหลายตา (ทั้งจริงและไม่จริง) ออกมาเคลมว่าเคยมีสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนด้วย นำไปสู่การหย่าร้าง แบ่งทรัพย์สิน จนเจ้าตัวต้องออกแถลงขอโทษทั้งน้ำตา และเข้ารับการบำบัด

พอเจอวิกฤตส่วนตัวรุมเร้าก็ส่งผลให้เสียสมาธิ มีผลกับฟอร์มการเล่น ช่วงแรกๆ ยังพอประคองตัวไปได้ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งลำบาก ซ้ำร้ายยังมีปัญหาเจ็บเข่าเข้ามา ต่อเนื่องด้วยอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่ทำให้ต้องผ่าตัดหลายครั้ง

ความใจร้อนอยากรีบกลับลงสนามทำให้อาการไม่หายขาดสักที พอยังเจ็บก็ส่งผลต่อฟอร์มการเล่น กลายเป็นวัฏจักรทวนซ้ำไม่สิ้นสุด

บางช่วงไทเกอร์ต้องพักยาวเป็นปี และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อเขาโดนจับในข้อหาขับรถขณะมึนเมา (จากการใช้ยาแก้ปวด ยานอนหลับ และกัญชา) หลังเมาหลับในรถที่จอดกลางถนนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017

สภาพของไทเกอร์ที่ดวงตาเลื่อนลอย หน้าตาทรุดโทรม ขณะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายรูปในฐานะผู้ต้องหา กลายเป็นจุดต่ำสุดในชีวิตของอดีตนักกอล์ฟผู้ยิ่งใหญ่ แบบแฟนๆ หลายคนทำใจไม่ได้

ย้อนไปในช่วงที่ยังรุ่งเรือง ไทเกอร์ที่กำลังท็อปฟอร์มเรียกได้ว่าอยู่ในโหมด “ไร้เทียมทาน” ลงรายการไหนก็แทบจะการันตีชัยชนะ ให้อารมณ์เดียวกับที่แฟนบอลเรียก บาร์เซโลน่า ช่วงพีกๆ ว่าทีม “ยานแม่”

ภาพจำของไทเกอร์ วู้ดส์ ตอนนั้นคือซุปเปอร์นักกีฬาเหนือมนุษย์ที่ไม่มีใครเข้าถึง เป็นเหมือนเทพเจ้าของกีฬากอล์ฟที่แฟนๆ หรือเพื่อนร่วมวงการได้แต่มองจากเบื้องล่างด้วยความชื่นชม ยิ่งเป็นกีฬาประเภทบุคคล ยิ่งขับสถานะความเป็น “ไอคอน” และ “ไอดอล” ของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ตอนนั้นเองที่สปอนเซอร์เกิดปิ๊งไอเดียเก๋ๆ อย่างการจับ “เทพเจ้า” ของกีฬาอีกชนิดมาแนะนำให้รู้จักกับไทเกอร์ นั่นคือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ณ เวลานั้น ที่กำลังอยู่ในโหมดไร้เทียมทานเช่นกัน

ทั้งคู่มีสปอนเซอร์ซ้ำซ้อนกันหลายตัว อาทิ ไนกี้ (ภายหลังเฟเดอเรอร์หันไปเซ็นกับ ยูนิโคล่ แทน) และ ยิลเล็ตต์ โดยเฉพาะรายหลังซึ่งจับทั้ง 2 คน รวมทั้ง เธียร์รี่ อองรี อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส มาถ่ายสปอตโฆษณาด้วยกัน

สองสุดยอดนักกีฬาแห่งยุคเริ่มทำความรู้จักกันในปี 2006 หลังจากนั้นแฟนๆ จึงได้ฮือฮากับภาพของไทเกอร์ไปนั่งเชียร์เฟเดอเรอร์ในศึกแกรนด์สแลมยูเอส โอเพ่น และเข้าไปแสดงความยินดีในห้องแต่งตัว ขณะที่เฟดเอ็กซ์ก็ควงภรรยาไปเดินตามเชียร์ก๊วนกอล์ฟของไทเกอร์เช่นกัน

ไทเกอร์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่ได้รู้จักกับเฟเดอเรอร์ เพราะอยู่ในสถานะที่คล้ายคลึงกัน ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของกีฬาที่ตัวเองเล่นเหมือนๆ กัน จึงมีแต่เขาสองคนเท่านั้นจะคุยกันในบางเรื่องเข้าใจ

ถึงจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ทั้งคู่บอกว่าจะส่งเมสเซจหากันตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่ต่างฝ่ายต่างยังไล่ตามสถิติแชมป์เมเจอร์หรือแกรนด์สแลมสูงสุดตลอดกาลของตำนานกอล์ฟ แจ๊ค นิคคลอส 18 สมัย และตำนานสักหลาด พีต แซมพราส 14 สมัย (สถิติก่อนโดนทำลาย) ดังนั้น เวลาไทเกอร์หรือเฟด ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคว้าแชมป์ใหญ่ได้ ก็จะส่งตัวเลขไปบอกอีกฝ่ายว่าเป็นสมัยที่เท่าไรแล้ว เหมือนการแข่งกันกลายๆ

กระทั่งไทเกอร์เจอวิกฤติชีวิตปลายปี 2009 เป็นต้นมา ถึงจะยังส่งเมสเซจคุยกันอยู่ แต่เฟเดอเรอร์ก็มายอมรับเมื่อกลางปีที่แล้วว่า ขาดการติดต่อกับอดีตนักกอล์ฟเบอร์ 1 ของโลกไปแล้ว

จากวันนั้นถึงวันนี้ ตัวเฟเดอเรอร์เองก็ต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากกับปัญหาอาการบาดเจ็บและอายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนหยัดกลับมาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้หลังว่างเว้นไปเกือบ 5 ปี และบางช่วงก็ไต่กลับขึ้นไปมือ 1 ของโลกได้อีกด้วย

ด้านชีวิตส่วนตัวก็ไม่เคยด่างพร้อยอะไร ทุกวันนี้เป็นแฟมิลี่แมนคุณพ่อลูกสี่ที่ชีวิตเพียบพร้อมจนหลายคนอิจฉา

ส่วนเรื่องสถิติแชมป์ชายเดี่ยวแกรนด์สแลม ไม่ใช่แค่ทำสถิติเทียบเท่าแซมพราสอย่างเดียว ตอนนี้เฟเดอเรอร์แซงไปเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดตลอดกาลแต่เพียงผู้เดียวที่ 20 สมัย และยังมีลุ้นเก็บเพิ่มอยู่เป็นระยะๆ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายเป็นสำคัญ

ขณะที่ไทเกอร์ หลังจากตั้งหลักกลับมาได้อีกครั้ง ก็เพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์หนแรกในรอบ 11 ปี จากศึกมาสเตอร์ส ซึ่งเป็นเมเจอร์ที่ 15 ในชีวิต ขยับเข้าใกล้สถิติ 18 สมัยของนิคคลอสเข้าไปอีกนิด

ตอนนี้สถานะของ (อดีต) เพื่อนซี้(?) จึงกลับตาลปัตร เพราะขณะที่คนหนึ่งยังคงเป็นฝ่ายไล่ตามสถิติสูงสุด อีกคนได้กลายเป็นเป้าหมายให้คนอื่นๆ ไล่ตามแทน

อย่างไรก็ตาม ด้วยวัย 37 ปีกับกีฬาเทนนิส ต่อให้รักษาสภาพร่างกายดีขนาดไหน เฟเดอเรอร์ก็คงเหลือเวลาโลดแล่นในวงการระดับลุ้นแชมป์ใหญ่ได้อีกราว 2-3 ปี ขณะที่อายุ 43 ปีของไทเกอร์ ถ้ารักษาความฟิตและฝีมือไว้ดีๆ ก็สามารถเล่นต่อได้อีกร่วม 10 ปีเลยทีเดียว

ไทเกอร์จึงยังมีเวลาอีกมากในการไล่ตามสถิติที่ “เจ้าหมีทอง” ทำเอาไว้

และเมื่อถึงวันที่เริ่มกลับมาคว้าแชมป์ได้สม่ำเสมอเมื่อไร เมสเซจตัวเลขถ้วยแชมป์ที่เคยห่างหายไประหว่างสองตำนานต่างวงการก็อาจกลับมาคึกคักอีกครั้งก็เป็นได้!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0