โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นิยายยังไม่รันทดเท่านี้! นร.สาวเล่าทั้งน้ำตา แม่ติดคุก-พ่อไม่รู้อยู่ไหน ทำทุกอย่างหาเลี้ยงคนที่บ้าน หลังดังข้ามคืน

Khaosod

อัพเดต 15 พ.ย. 2561 เวลา 16.18 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2561 เวลา 15.07 น.
สาวสู้ชีวิต

หลังจากมีการแชร์คลิปวีดีโอเด็กอาชีวะและนักเรียนลูกเสือวิ่งไปช่วยเข็นรถที่จอดเสียบริเวณแยกไฟแดง ในเขต อ.เมือง จ.อ่างทอง จนมีคนชื่นชมเป็นอย่างมากในโซเชียล ที่สำคัญเด็กอาชีวะที่เห็นเป็นผู้หญิงด้วย หลังจากมีการเผยแพร่ออกไปหลายหน่วยงานก็ออกตามหาเด็กทั้ง 3 คน โดยเฉพาะเด็กสาวอาชีวะ

ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย. ก็สามารถตามหาเด็กทั้ง 3 คนพบ ทราบชื่อคือ นายธรรมธัช ศิริจันทร์ อายุ 15 ปี ด.ช.ภานุวัฒน์ กระจ่างจิต อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนวัดเซิงหวายประชาอุทิศ และ น.ส.ซุรอญา ม่วงสีตอง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นปวช.3 แผนกช่างเชื่อมวิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางยังร้านเต็มอิ่มหมูกะทะ บริเวณทางขึ้นสะพานเลี่ยงเมืองอ่างทอง หลังทราบว่า น.ส.ซุรอญา หรือน้องญา มาทำงานหารายได้เสริม พอไปถึงก็พบ น.ส.ซุรอญา กำลังทำงานต้อนรับแขกที่มาทานหมูกะทะ และจัดเตรียมข้าวของอย่างขยันขันแข็ง

น้องญา เล่าว่า ตนเรียนอยู่ที่โรงเรียนราชสถิตย์ชั้น ม.6 ในวันจันทร์กับวันอังคาร ส่วนวันพุธถึงวันศุกร์จะเรียนที่แผนกช่างเชื่อมที่วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง เนื่องจากตนเรียนในระบบทวิศึกษา และตอนนี้ก็ฝึกงานอยู่ ส่วนเหตุการณ์ที่ตนไปช่วยรถเสียนั้น ก็เริ่มจากตนเลิกจากฝึกงานขับรถผ่านมา โดยมุ่งหน้าจะไปเติมน้ำมันแล้วจู่ๆ ก็หันไปเห็นมีรถจอดเสียอยู่กลางแยก ซึ่งทำให้รถติดเป็นแถวยาว จึงตัดสินใจลงจากรถเพื่อจะวิ่งไปช่วยเข็นรถที่เสียคันดังกล่าว

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เห็นว่ามีน้องนักเรียนลูกเสืออยู่ใกล้ๆ อีก 2 คน จึงตะโกนบอกให้ไปช่วยกันเข็นรถคันดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขา จากนั้นตนก็ไปรีบวิ่งไปเข็นและพอเข็นเสร็จก็รีบวิ่งกลับมา เพราะกลัวว่ารถจยย.ที่ตนขี่ไปจะหาย ตนไม่ได้คิดอะไรมากเลย มารู้อีกทีก็มีคนถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วไปลงเชียล จนเพื่อนๆ เห็นก็มาเล่าให้ฟัง ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ทำไปนั้นจะมีคนมาชมมากมายแบบนี้ เหตุที่ไปช่วยเพราะจิตสำนึกมากกว่า คิดถึงว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเรา แล้วไม่มีคนช่วยจะทำอย่างไร

น้องญา เล่าชีวิตตัวเองให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ชีวิตตนลำบากมากหลังจากเลิกฝึกงานก็จะมาทำงานพิเศษที่ร้านหมูกระทะแห่งนี้ เพราะตนต้องการหาเงินส่งตัวเองเรียน ส่งน้องเรียน ช่วยเหลือทางบ้าน ตนอยู่บ้านกับตา ยาย และน้อง พ่อก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ส่วนแม่ก็ติดคุก ทุกวันนี้ท้อแต่ต้องอดทน เห็นคนอื่นเขามีเงินใช้มีเงินเที่ยวแต่ตนไม่มีก็ต้องทำงาน ตนอยากเรียนหนังสือจะทำงานหาเงินเรียนให้จบมันต้องทำ เพราะยาย ตา ก็ไม่มี ตนทำงานมาตั้งแต่ ม.4 แล้ว ทั้งก่อสร้าง รับจ้างลงของทำทุกอย่างที่ได้เงินขนาด ตนเป็นอิสลามแต่มาทำร้านหมูกระทะ ก็ไม่คิดอะไร ถ้าไม่ทำก็อด ก็ไม่ได้เรียน ไหนจะน้องและตายายอีก บางวันเหนื่อยจากการทำงานหนักจนไปเรียนไม่ได้ ตอนนี้เป็นห่วงน้อง และตาที่เป็นอัมพฤกษ์ ชีวิตลำบากไม่มีใครรู้หรอก แต่จะสู้ไปทั้งน้ำตานี่แหละ

ด้าน นางสายทิพย์ ศรีบุบผา อายุ 34 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะ กล่าวว่า น้องญา เป็นเด็กที่น่ารักมีความกตัญญูและขยันมาก ก่อนหน้านี้มาทำกับตนแล้วหยุดไปพักหนึ่งแล้วมาทำใหม่ เป็นเด็กที่ชอบช่วยเหลือคนมีจิตใจดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของเด็กนักเรียนที่แต่งชุดลูกเสือทั้ง 2 คนนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (15 พ.ย.) นายเรวัต ประสงค์ ผวจ.อ่างทอง พร้อมนายอำเภอเมืองอ่างทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง ได้เข้าไปพบที่โรงเรียนวัดเซิงหวายประชาอุทิศ ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง เพื่อมอบประกาศเกียรติคุณ แก่เด็กทั้งสองคน หลังจากที่ได้มีจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่นิ่งดูดาย ส่วนน้องญานั้น คาดว่าน่าจะไปมอบภายหลัง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0