“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลไทย ชุดใหญ่ เดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน หลังจากจบภารกิจฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี นัดที่ 4-5 ซึ่งบุกไปแพ้มาเลเซีย 1-2 และบุกไปเสมอเวียดนาม 0-0
จากผลงานใน 2 นัดดังกล่าว ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ไทยตกเป็นทีมอันดับ 3 ของกลุ่มจี มี 8 คะแนน จาก 5 นัด ตามหลังจ่าฝูงเวียดนามที่ลงเตะเท่ากันอยู่ 3 คะแนน และตามหลังมาเลเซียอยู่ 1 คะแนน ทำให้ใน 3 นัดที่เหลือจำเป็นจะต้องชนะทั้งหมดเพื่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย
อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนช้างศึกชาวญี่ปุ่น กล่าวว่า ต้องขอบคุณกองเชียร์ที่ให้กำลังใจและขอโทษที่ทำผลงานไม่ได้ตามที่คาดหวังกันเอาไว้ ขอบคุณทีมงาน นักเตะ ที่ทำหน้าที่กันอย่างเต็มความสามารถแล้ว จริงๆ รูปเกมทั้งสองนัดไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ เพียงแต่มีบางจังหวะที่ทำได้ไม่สุดเอง เช่นนำก่อนแล้วรักษาสกอร์ไม่ได้ หรือมีโอกาสจะขึ้นนำแต่ทำไม่ได้ ดังนั้นนี่คือสิ่งที่จะต้องกลับไปทำเป็นการบ้านเพื่อยกระดับทีมชาติไทย แต่ว่านักเตะทีมชาติไทยทุกคนทำหน้าที่กันได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากกระแสะที่มีแฟนบอลบอกว่าเปลี่ยนตัวช้าใน 2 เกมที่ผ่านมา ซึ่งนิชิโนะ ตอบว่า ยังไม่ได้ไปไล่ย้อนดูเกมอย่างละเอียด แต่ความรู้สึกของตัวเองในสนามตอนนั้น ไม่ได้คิดว่าเปลี่ยนตัวช้าไป เพราะว่านักเตะที่กำลังอยู่ในสนามนั้น กำลังทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าผลที่ออกมามันไม่แปลกที่แฟนบอลจะบอกว่าเปลี่ยนตัวช้าไป
“สำหรับตอนนี้ยังมีเวลาอีกเกือบ 4 เดือนสำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งเป็นเวลานานที่จะต้องเตรียมตัวหลายอย่าง และต้องรอดูว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และจะปรับปรุงทีมไปในทิศทางใด”
ขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังเกม เมื่อ ปาร์ค ฮัง ซอ โค้ชชาวเกาหลีใต้ของเวียดนาม มีการปะทะคารมกับสต๊าฟโค้ชไทยนั้น กุนซือชาวญี่ปุ่น กล่าวว่า โดยส่วนตัวนั้น มีความสนิทกับโค้ชปาร์คอยู่แล้วตั้งแต่สมัยที่เกาหลีใต้แข่งกับญี่ปุ่น ซึ่งเวลาเจอกันก็ทักทาย กอดกันตลอด หลังเกมที่ผ่านมาก็เดินไปจับมือกอดคอกันปกติ แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้โค้ชปาร์คไม่พอใจขนาดนั้น ซึ่งคงต้องไปสอบสวนกันดูว่าเราทำอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า จากผลงานที่ไม่ดีในทีมชุดใหญ่ 2 นัดที่ผ่านมา จะส่งผลให้กดดันมากยิ่งขึ้นในการป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ที่จะเริ่มประเดิมสนาม ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้หรือไม่ นิชิโนะ กล่าวว่า ในโลกของการแข่งขันย่อมมีผลแพ้ ชนะ เสมอ สิ่งสำคัญคือจะเปลี่ยนความรู้สึกในการโฟกัสเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่งอย่างไร แน่นอนว่าในส่วนของทีมชุดใหญ่มันก็มีเรื่องที่ต้องไปทบทวน รวมถึงภาพรวมของฟุตบอลไทยทั้งหมด แต่ตอนนี้จะรีบเปลี่ยนโหมดของตัวเองให้เข้าไปโฟกัสกับทีมชุดซีเกมส์ให้เร็วที่สุด
นิชิโนะ กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของทีมงานนั้น มีสิ่งที่คิดเอาไว้ในใจอยู่ เพียงแต่ขอปรึกษาสมาคม และมีการพูดคุยกันก่อน
