โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

นิค จีนี่ ยันแกรมมี่ไม่ทอดทิ้ง หนุ่ม กะลา วอนกฎหมายเมตตารวมคดีไว้ที่เดียวกัน

Khaosod

อัพเดต 14 ธ.ค. 2561 เวลา 09.52 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2561 เวลา 09.41 น.
นิค จีนี่

นิค จีนี่ ยันแกรมมี่ไม่ทอดทิ้ง หนุ่ม กะลา วอนกฎหมายเมตตารวมคดีไว้ที่เดียวกัน

จากกรณีบริษัท เพาเวอร์ เทรเชอร์ จำกัด  หรือ ค่ายเพลงมิวสิคบักส์ นำตำรวจพร้อมหมายจับศาลอาญาจ.ชุมพร คดีอาญาที่ 583/2561 ตามจับนักร้องดังนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา ที่มาขึ้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตในงานเทศกาลดนตรี บิ๊กเมาน์เท่น ที่สนาม ทีดี โอเซี่ยนเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ด้านนิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการผลิตและโปรโมชั่นเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงคดีความดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับนักร้องในสังกัดว่า “มันเป็นเรื่องที่เราไม่เข้าใจความตั้งใจ หรือไม่เข้าใจจิตใจของคน เพราะจริงๆ แล้วถามว่าหนุ่มมีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงมั้ย ไม่มี กระบวนการจริงๆ ก็คือออกหมายจับ เราก็แค่ไปรายงานตัวแล้วเดี๋ยวก็ว่ากันไปในศาลถูกมั้ย ทีนี้ทุกครั้งที่ได้รับหมายเรียกจากตำรวจ หนุ่มก็จะพยายามไปให้ได้เร็วที่สุด แต่คุณต้องเข้าใจว่าหนุ่มเซ็นสัญญารับงานไว้เป็นปีล่วงหน้า ใน 1 เดือน สมมติเขารับงาน 20 วัน คุณคิดว่าเขาจะสามารถเดินทางได้วันไหนบ้าง คุณคิดว่า 20 งาน คุณต้องมีการเดินทางใน 20 งานนั้นด้วย มันไม่ใช่ว่า 20 งานจะนึกแล้วไปถึงงานได้เลย มันแปลว่ายังมีอีกหลายวันที่เขาต้องใช้เวลาเดินทาง แปลว่าเดือนนึงเขาอาจจะเหลือวันไม่กี่วันที่เขาว่างจริงๆ ที่จะเดินทางไปรายงานตัว ฉะนั้นทุกครั้งที่หนุ่มได้รับหมายก็จะขอผ่อนผันและนัดหมายล่วงหน้าว่าจะไปวันนั้นวันนี้นะครับ

“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการเอาหมายศาลมาไล่จับกัน ซึ่งไม่เข้าใจเจตนาเพราะหนุ่มไม่ใช่ผู้ร้าย ไม่ใช่โจร ไม่ใช่คนขายยาบ้า ไม่ใช่คนเลวทรามต่ำช้าไปปล้นฆ่าไป แค่เขาทำพลาดร้องเพลงเพลงนึงที่ไม่ได้มีเจตนา ความเข้าใจของหนุ่มในวันนั้นนึกว่าเพลงยังอยู่ในความดูแลของแกรมมี่ให้กับบริษัทนั้น ซึ่งพอเขาแจ้งความหลังจากที่รอเราทำพลาดไป 40 กว่าครั้ง ทันทีที่รู้เราก็เลิกร้องทันทีเพราะรู้ว่ามันทำไม่ได้ ใครจะบ้าร้องเพลงที่เขาไม่ให้ร้อง ถูกมั้ย จริงๆ มันเป็นการให้เกียรติเพื่อนร่วมรุ่นกัน วงนี้เป็นวงที่เขาเคยแข่งฮอตเวฟมาด้วยกัน เขาก็รักของเขา เขาสนิทกันก็เอาเพลงมาร้องเป็นการให้เกียรติกัน นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้น เพลงแกรมมี่เองก็มีเป็นหมื่นๆ เพลง ทำไมไม่คิดมุมนี้ว่ามันเป็นการให้เกียรติ ถ้า ณ วันนั้นหนุ่มรู้ว่าจะต้องเสียเงินเขาก็จ่ายแน่นอนมันไม่กี่บาท แต่มาพยายามเอาเงินเยอะๆ หลังจากเจรจากันไม่สำเร็จเพราะว่าจะเอาเงินเยอะๆ ผมว่ามันก็เป็นเรื่องลำบากมากที่จะต้องมาจ่ายเงินแพงๆ ขนาดนั้น มองโดยรูปการแล้วผมว่ามันไม่ยุติธรรมในความรู้สึกแบบปุถุชน ผมไม่ได้พูดเรื่องของกฎหมาย”

“จริงๆ อยากจะให้เข้าใจว่าการกระทำแบบนี้ ผมว่ามันดูแปลกๆ นิดนึง เพราะไม่เข้าใจเจตนาที่ไปออกหมายศาลเพื่อพยายามที่จะจับเขาคาเวที ซึ่งเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ร้ายอย่างที่บอก และเขาก็ยังปรากฏตัวให้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่ายังอยู่ในประเทศไทย มันน่าสงสารมากที่ว่าไปล่ามหนุ่มใส่กุญแจมือ ให้เขาไปนั่งอยู่ที่เดียวกับนักโทษต่างๆ นานาที่มันโหดร้ายต่อจิตใจมาก ผมไม่ทราบว่าทำอย่างนี้กันได้ยังไง ถามว่าเรื่องนี้เป็นการดิสเครดิตกันมั้ย ก็ต้องไปถามว่าเขากำลังพยายามทำอะไร แต่ถ้าถามว่าเครดิตของหนุ่มเสียมั้ย ผมยืนยันว่าแฟนเพลงเข้าใจและให้กำลังใจทุกคน มันไม่ได้ทำให้หนุ่มมีงานน้อยลงเลย ผมบอกได้เลยหนุ่มก็ยังมีคนรัก มีคนเมตตาและยังมีคนว่าจ้างไป แต่อาจจะทำให้ผู้ว่าจ้างสับสนทำให้ผู้คนเข้าใจผิด คิดว่ายังละเมิดอยู่ ซึ่งจริงๆ มันจบไปแล้วเลิกร้องไปทันทีที่รู้เรื่องนี้แล้ว ย้ำเลยว่าไม่ได้ร้องแล้วครับ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หนุ่มได้ขอผ่อนผันเวลาในการเข้าไปรายงานตัวกับตำรวจแล้ว แต่ทำไมยังมีการออกหมายศาลเพื่อมาตามจับอีก ผู้บริหารค่ายจีนี่ฯ กล่าวว่า “ตำรวจเขาก็เข้าใจนะครับ แต่มันเป็นมีกระบวนการของหมายศาลหรืออะไร ซึ่งผมก็ไม่ทราบในขั้นตอนหรอกว่าหมายศาลมาได้ยังไงต่างๆ นานา พอเป็นหมายศาลก็คือในพระปรมาภิไธย ตำรวจก็ต้องทำตามนั้นครับ โดยตำรวจเขาก็มองว่าจริงๆ มันทำความเข้าใจกันได้ ตำรวจเขารู้ว่าอะไรคือเรื่องรุนแรงอะไรคือเรื่องไม่รุนแรง แต่กฎหมายก็เป็นเรื่องของกฎหมายแค่นั้น มันถึงมีอันนี้ให้ประกันตัวอันนี้ไม่ให้ประกันตัว อันนี้เป็นเรื่องเลวร้าย เขารู้ มันถึงยังมีคำพูดที่ว่าคดีมโนสาเร่ บางเรื่องเขาก็ไม่อยากให้มันเป็นความหรอก เขาก็อยากจะไกล่เกลี่ยอยากจะเจรจา”

“ในเคสนี้คือต้องการเงินเยอะมากเลยไง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าหนุ่มจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่าย เขาก็มีการเจรจาเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย แต่ปริมาณที่ต้องการกับปริมาณที่สมควร หรือที่หนุ่มมีปัญญาให้มันห่างไกลกันมาก มันหลาย 10 ล้านจะเป็นไปได้ยังไง ถึงอยากจ่ายก็ไม่มีปัญญาจ่าย นั่นแปลว่าหนุ่มต้องเล่นได้งานละหลายๆ ล้าน ถามว่าหลังจากงานบิ๊กเมาน์เท่นสภาพจิตใจหนุ่มเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นคุณโดนกระทำแบบนี้ผมพูดได้เลยว่า คุณแข็งแกร่งได้ไม่เท่าหนุ่มหรอก แต่หนุ่มเองก็ยังมีความรับผิดชอบต่องาน ผมนับถือจิตใจของหนุ่ม เขามีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก ขึ้นไปโชว์ที่บิ๊กเมาน์เท่นได้จนจบโชว์ได้อย่างเต็มที่ มันก็เป็นความสุขของเขาที่อยากจะทำงานให้ดีที่สุด พอเสร็จเขาก็รีบไปต่อที่ จ.ชุมพร เพื่อไปรายงานตัวอันนี้แหละ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเขาก็นัดหมายกันไว้แล้ว แต่นี่ก็จะจับให้ได้

ต่อข้อถามว่าในส่วนของต้นสังกัดได้ช่วยเหลือดูแลอย่างไรบ้าง นิค-วิเชียร เผยว่า “เราดูแลในเรื่องสภาวะจิตใจไม่ให้เขารู้สึกแย่หวั่นไหว ให้กำลังใจ ในเชิงกฎหมายเราก็ไม่เป็น เดี๋ยวก็คงต้องคุยกันเร็วๆ นี้ เราไม่ทิ้งขว้างหนุ่มแค่ไม่รู้จะเข้าไปทำยังไงบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาใช้กำลังภายในอะไรกันมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถ้าเดินไปตามกระบวนการของกฎหมายปกติ ก็คงไม่มีอะไรรุนแรง เราดูแลกันมา 20 ปีจะไปทิ้งกันได้ยังไง มันเหมือนลูกไปแล้วเขาเกิดมาพร้อมกับค่าย เราเป็นห่วงซะมากกว่า แคร์จิตใจเขามากกว่า วันนั้นขึ้นไปดูเขาบนเวทีน้ำตาก็ร่วงเห็นเขาเจอเรื่องนี้ มันโหดร้ายมาก

“*ไม่รู้กฎหมายจะเมตตาได้หรือเปล่า ว่ารวบรวมคดีมาไว้ที่เดียวกันเพราะคดีมันเหมือนกันเลย แต่เขาแจ้งความไว้หลายที่มันดูแล้วก็เหมือนโหดร้ายนะ ทั้งที่คดีความมันเหมือนกัน ทำไมไม่รวมไว้ที่เดียวกันแล้วก็ฟ้องหรืออะไรกันให้หมดสิ้นไป *ผมไม่ได้เป็นนักกฎหมายไม่รู้หรอกว่ามันทำได้มั้ย แต่โดยนักรัฐศาสตร์มันทำได้ ทำไมมันถึงซับซ้อนผมก็ไม่ได้เรียนด้านกฎหมายมา คุณว่ามันตลกมั้ย ในเชิงมนุษย์ คิดแบบมนุษย์มันน่าจะเอามารวมกันได้นะ แต่ในเชิงกฎหมายก็ต้องไปถามกระบวนการว่ามันเพราะอะไร”

อินสตาแกรม @nickgenie/ @numkala

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0