โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

นายแบงก์คาด กนง. 19 ธ.ค. ขยับดอกเบี้ย 1.75%

NATIONTV

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2561 เวลา 09.56 น. • Nation TV
นายแบงก์คาด กนง. 19 ธ.ค. ขยับดอกเบี้ย 1.75%
นายแบงก์คาด กนง. 19 ธ.ค. ขยับดอกเบี้ย 1.75%

นายแบงก์ส่วนใหญ่คาดที่ประชุม กนง. นัดสุดท้ายของปี 19 ธันวาคมนี้ จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.75% พร้อมขยับดอกเบี้ยตามให้สอดคล้องกับทิศทางตลาด ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ คาดผู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่จะได้รับผลกระทบ

ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. วันที่ 19 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นนัดส่งท้ายปี 2561 มีความเป็นไปได้สูงที่ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สมประวิณ มันประเสริฐ ระบุ กนง.น่าจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากระดับ 1.50% เป็น 1.75% ด้วยคะแนน 4 ต่อ 3 เสียง เนื่องจากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเอื้อให้ดอกเบี้ยสามารถปรับเข้าสู่ระดับสมดุลได้

ที่ผ่านมา กนง. ยังส่งสัญญาณทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง โดยเชิงปริมาณทำผ่านคะแนนเสียงของ กนง. ที่ขยับขึ้นจาก 1 เสียง มาเป็น 3 เสียงในครั้งล่าสุด และเชิงคุณภาพ ดำเนินการผ่านการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.

เชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ จะไม่มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่จะช่วยดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาว

ด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย หรือทีเอ็มบี นริศ สถาผลเดชา ระบุ กนง. น่าจะมีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.75% เนื่องจากต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน และลดพฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทน 

รอบนี้ดอกเบี้ยคงปรับเพิ่มขึ้น แต่คงขึ้นได้แค่ครั้งเดียว หรืออย่างมากเต็มที่ปีหน้าขึ้นได้อีกเพียง 1 ครั้ง ต้องยอมรับว่าโอกาสการขยับขึ้นดอกเบี้ยเริ่มมีน้อยลง ตามเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว เพราะปีหน้าเศรษฐกิจคงไม่เอื้อให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากนัก

ขณะที่กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย พัชร สมะลาภา เชื่อว่า กนง.น่าจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แต่หากกนง.อนุมัติขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารคงต้องปรับดอกเบี้ยตามทันที โดยอาจนำร่องที่เงินฝากออมทรัพย์ เพราะดอกเบี้ยออมทรัพย์ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมานาน 

ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้คงต้องปรับในทิศทางเดียวกันด้วย โดยเฉพาะ MRR หรือดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี และ MOR หรือดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เก็บกับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางตลาด

ด้านประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เดชา ตุลานันท์ ระบุ หาก กนง.อนุมัติขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารอาจไม่ได้เป็นผู้นำในการขึ้นดอกเบี้ยก่อนธนาคารอื่นๆ เพราะการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งเงินฝากและเงินกู้ จำเป็นต้องดูความจำเป็น สถานการณ์ต่างๆ และความเหมาะสม ควบคู่ไปกับทิศทางตลาด หรืออาจต้องหารือร่วมกันในสมาคมธนาคารไทยว่าการขึ้นดอกเบี้ยเหมาะสมหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าไม่ปกติ การขึ้นดอกเบี้ยต่างๆเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณามากขึ้น

แต่หากธนาคารทั้งระบบขยับขึ้นดอกเบี้ย ก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และธนาคารคงต้องขึ้นดอกเบี้ยตามเช่นเดียวกัน

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ปิยะ ประยงค์ ระบุ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกอย่างแน่นอน ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดกับบริษัทอาจไม่มากนัก เพราะต้นทุนการเงิน ตลอดจนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ แต่ในส่วนของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยคาดว่าจะได้รับผลกระทบ แม้อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นเพียง 0.25% ก็ตาม

สำหรับลูกค้าที่จะได้รับผลกระทบคาดว่าจะเป็นกลุ่มตลาดล่าง ระดับราคา 1-3 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่เกิน 60% โดยคนกลุ่มนี้ไม่มีเงินสดมากนัก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทต้องขยับพอร์ตโฟลิโอให้ความสำคัญกับตลาดระดับกลางถึงบน 3-5 ล้านบาทมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนเป็น 70%

ด้านกรรมการผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการ บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นคาดว่าจะไม่กระทบธุรกิจไอ.ซี.ซี.มากนัก เพราะบริษัทไม่เน้นการกู้ยืมเงินเพื่อดำเนินธุรกิจ ส่วนในมุมผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบในแง่ของต้นทุนทางการเงินจากภาระหนี้ครัวเรือน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0