โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นายกฯ ฉุน ส.ส. ก้าวไกล ขอให้ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน

สำนักข่าวไทย Online

เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 14.30 น.

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. - นายกฯฉุนส.ส. ก้าวไกลขอให้ยุบสภาคืนอำนาจประชาชนโต้ปมเห็นต่างเป็นศัตรูขู่กันกลางสภาไปมาให้ระวังตัวด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2564 เมื่อช่วงค่ำวันนี้(3 ก.ค.)พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจงนางสาวศิริกัญญาตันสกุลส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลที่อภิปรายว่านายกรัฐมนตรีมองคนเห็นต่างเป็นศัตรูและเห็นว่าไม่สามารถเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณนี้ได้เพราะเห็นว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศบริหารเศรษฐกิจอีกต่อไปจึงเสนอว่าไม่เพียงแต่การปรับคณะรัฐมนตรีเท่านั้นแต่ควรกลับไปสอบถามประชาชนว่าต้องการให้นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศต่อไปหรือไม่ต้องการนโยบายแบบไหนที่จะนำพาประเทศไปต่อได้ด้วยการยุบสภา

“พรรคอื่นจะพร้อมหรือไม่พร้อมเราไม่ทราบแต่พรรคก้าวไกลเราพร้อมที่จะขอมติอีกครั้งจากประชาชนสิ่งที่เราอยากให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและไม่ทันใจประชาชนคือตัวนายกรัฐมนตรีดิฉันคิดว่าท่านต้องปรับทัศนคติเลิกเห็นว่าพวกที่เห็นต่างกับท่านเป็นพวกชังชาติพวกไม่หวังดีเลิกป้ายสีว่าคนที่เห็นต่างกับท่านเป็นพวกน่าคิดร้ายต่อสถาบันหลักของชาติสิ่งที่ประชาชนรอมาตลอด 6 ปี คือ ตัวนายกรัฐมนตรีซึ่งจะรอต่อไปไม่ได้แล้วถึงเวลาแล้วที่ท่านควรจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน” นางสาวศิริกัญญากล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้โต้ทันทีโดยยืนยันว่าไม่เคยมองคนเห็นต่างเป็นศัตรูแต่มีคนบางคนมองกฎหมายเป็นศัตรูทุกกฎหมายระบุไม่อยากตอบคำถามแล้วเพราะเป็นการพูดซ้ำไปซ้ำมาทุกคนใช้คำถามเก่าและโจมตีประเด็นเดิมๆ

นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าได้ไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งว่าประชาชนที่สงสัยจะทำให้ประเทศแข็งแกร่งนั้นเป็นเรื่องจริงแต่ข้อสงสัยต้องมีข้อยุติถ้าหาข้อสรุปไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิมซึ่งเราจะต้องดูว่าเราจะร่วมมือกันอย่างไรระหว่างท่านรัฐบาลและนักการเมืองมากกว่าจะเอาอันใดอันหนึ่งมาตัดสินตนทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลและส.ส. ซึ่งดูแลประชาชนทุกพื้นที่หัวหน้ารัฐบาลต้องคิดแบบนี้จังหวัดพร้อมก็ต้องให้งบประมาณจังหวัดไหนไม่พร้อมก็สร้างคนก่อนอย่าเอาหลายเรื่องมาสับสนมันก็เหมือนกับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

“ก็ต้องถามประชาชนผมก็ถามของผมท่านก็ถามของท่านต่างคนต่างถามแล้วเขาพอใจหรือไม่พอใจหลายท่านเป็นคนรุ่นใหม่ผมยอมรับว่าพูดเก่งแต่อย่ามากล่าวหาว่าผมใช้กฎหมายไปกับผู้เห็นต่างกฎหมายก็อยู่ของกฎหมายเฉยๆผมก็นั่งอยู่ของผมเฉยๆใครผิดกฎหมายก็โดนลงโทษจะให้ผมทำยังไงให้ผมสั่งเขาได้ใช่ไหมถ้าผมสั่งได้คงไม่เป็นแบบนี้แต่ผมไม่ได้สั่งระวังตัวบ้างก็แล้วกันกฎหมายมันมีผลบังคับใช้หมดทุกคนแม้กระทั่งผมเองผมก็ยอมรับกฏหมายอย่ามาย้อนกลับไปวันก่อนนั้นอีกว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยให้กลับไปย้อนดูทุกคนก็บอกแล้วว่าความต้องการของประชาชนไม่มีสิ้นสุดผมเข้าใจแต่ท่านอย่าลืมว่าความต้องการของท่านได้รับสนองตอบอะไรแล้วบ้างในช่วงที่ผ่านมาได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นแล้วเราจะก้าวต่อไปอย่างไรถ้าจะก้าวต่อไปแบบนั้นท่านต้องหาวิธีพูดอย่างเดียวไม่ได้ซึ่งผมพร้อมที่จะให้หน่วยงานปรึกษาหารือกับท่านแต่ไม่ใช่โต้เถียงท่านชอบเรียกท้าทายกันข้างนอกอย่างนี้เรียกว่าท้าทายกันถ้าเถียงกันในหลักการเถียงกันในกฎหมายอย่างไรก็ไม่จบ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้านนางอมรัตน์โชคปมิตต์กุลส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลขอใช้สิทธิ์พาดพิงที่นายกรัฐมนตรีพูดว่าให้ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกันโดยถามว่าต้องระวังตัวเรื่องอะไรบ้างและจะมีอันตรายอย่างไรบ้างที่ต้องระวังตัวจะได้เตรียมพร้อมไว้

ทำให้นายกรัฐมนตรีตอบโต้ทันทีว่าไปสร้างความเข้าใจแบบนี้ไม่ได้ตนบอกว่ากฎหมายย้ำว่าตนก็ต้องระวังทุกคนต้องระวังอย่าทำผิดกฎหมายไม่ได้ข่มขู่ใครเพราะกฎหมายยังไม่กลัวกันเลยแต่ส่วนตัวกลัวกฎหมายก่อนที่จะปิดไมค์แล้วเดินออกจากห้องประชุม

ขณะที่นางอมรัตน์โต้ว่าจะตีความว่าเป็นการข่มขู่และขอให้นายกรัฐมนตรีระวังตัวไว้ด้วย

ด้านนายศุภชัยโพธิ์สุรองประธานสภาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมพยายามรักษาบรรยากาศโดยบอกว่าเป็นการเข้าใจผิดกันไปใหญ่แต่ต่างคนต่างบอกให้แต่ละฝ่ายระวังก็จบกันไป

ด้านนายณัฐวุฒิบัวประทุมส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลขอให้ประธานควบคุมการพูดของนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นเดียวกับนายรังสิมันต์โรมส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลที่ประท้วงประธานการประชุมหลังปล่อยให้นายกรัฐมนตรีพูดโดยไม่ขออนุญาต.- สำนักข่าวไทย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0