รายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวผ่านรายการถึงปัญหาฝุ่นละอองว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แม้จะดีขึ้นจากความสำเร็จในการทำฝนเทียมหรืออื่นๆ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่เป็นปกติ ในส่วนของรัฐบาลก็ได้บูรณการกัน โดยเร่งสำรวจและแก้ไขที่ต้นตอด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการระยะเร่งด่วนและระยะยั่งยืน
สำหรับประชาชนก็ต้องขอความร่วมมือในการใช้รถใช้ถนน ก่อสร้าง โรงงาน แม้กระทั่งการเผาพืชผลทางการเกษตรที่ขอให้ช่วยกันด้วย ช่วยกันลดทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และPM 10 เพราะส่งผลกระทบกับประชาชนกับร่างกายด้วยทุกคน แต่ PM.2.5 อันตรายกว่าโดยได้สั่งการไปแล้วให้ทุกหน่วยไปแก้ ไม่ใช่แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ เรื่องใหญ่ๆ ก็ต้องสั่งการไปด้วย ต้องมีระเบียบ มีกฎกติกามากขึ้น เช่น การใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถไฟ ในรถเมล์อะไรต่างๆ หรือแม้กระทั่งขอร้องให้ประชาชนขอให้ร่วมกันใช้ ดีเซล B20 ที่มีส่วนผสมน้ำมันปาล์ม ไม่มีอันตรายต่อเครื่องยนต์ ปรับแก้นิดหน่อยเอง อันนี้มีการทดสอบทดลองใช้มาแล้ว และราคาก็ถูกกว่าราคาของน้ำมันดีเซลปกติ ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานก็ได้มีการผลิตน้ำมัน B20 ออกมา เพื่อจะรองรับความต้องการของผู้บริโภคแล้ว จึงขอให้ไปหาเติมได้ตามปั้มน้ำมันต่างๆโดยทั่วกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันต้องระมัดระวังกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ มีผู้ป่วย ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ก็ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการแก้ปัญหามันไม่ได้ง่ายนัก เพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วนด้วยกัน ฉะนั้นอะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกัน
นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณสื่อทุกแขนง รวมทั้งสื่อโซเชียลที่มีบทบาทสำคัญสามารถทำงานบูรณการกับภาครัฐได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสร้างการรับรู้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่สร้างความตื่นตระหนกแต่เพียงอย่างเดียว และต้องรับรู้ว่า รัฐบาลหรืองานราชการมีอะไรที่แก้ปัญหาไปให้ทุกคนจะต้องร่วมมือกันอย่างไร อีกทั้งเราควรแสวงประโยชน์จากปรากฏการณ์ฝุ่นละอองในครั้งนี้ โดยให้ความรู้กับทุกๆ คน ได้รู้จัก ได้รู้วิธีการรับมือ อย่างถูกต้องและเหมาะสม เหมือนเมื่อก่อนคนไทย รู้จัก “สึนามิ” เพียงในตำรา แต่ในวันนี้เรารู้จัก รู้ว่าจะต้องสังเกตจากอะไร แล้วควรทำตัวเช่นไร ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพและทุกครอบครัวมีความสุขในทุกๆ วัน