โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นาทีชีวิตกู้ภัยธรณีพิโรธไก่งวง

สยามรัฐ

อัพเดต 27 ม.ค. 2563 เวลา 23.00 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 23.00 น. • สยามรัฐออนไลน์
นาทีชีวิตกู้ภัยธรณีพิโรธไก่งวง

ถูกยกให้เป็นพิบัติภัยธรรมชาติสร้างความเสียหายให้แก่ตุรกี แดนไก่งวง แบบเปิดประเดิมปีหนูทองกันเลยทีเดียว

สำหรับ เหตุแผ่นดินไหว วัดความรุนแรงได้ 6.8 ตามมาตราริกเตอร์ ลึกลงไปใต้ชั้นดิน 10 กิโลเมตร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองซิฟไรซ์ จ.เอลาซิก ห่างจากกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ไปทางตะวันออกราว 750 กิโลเมตร เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากเป็นที่พำนักของประชากรจำนวนกว่า 4,000 คนแล้ว ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ในฐานะสถานตากอากาศ หรือรีสอร์ตแห่งหนึ่งของตุรกี เพราะอยุ่ริมฝั่งทะเลสาบฮาซาร์อันเลื่องชื่อ กอปรเป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญของประเทศที่มีอายุเก่าแก่ราว 4,000 ปี

ก่อนเกิดปรากฏการณ์อาฟเตอร์ช็อก หลังการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ อีกจำนวนกว่า 462 ระลอก ตามมาเป็นระยะๆ ซึ่งในปรากฏการณ์อาฟเตอร์ช็อกบางครั้งก็มีขนาดความรุนแรงถึง 5.4 ตามมาตราริกเตอร์ โดยแรงสั่นสะเทือนยังสามารถรับรู้การสั่นไหวในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ

ผลพวงความเสียหาย ก็เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย29 ราย ท่ามกลางความคาดหมายว่า ผู้เสียชีวิตจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก เพราะคาดว่า ยังมีผู้ที่ติดภายใต้ซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างอีกเป็นจำนวนมาก ที่รอรับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา

ใช่แต่เท่านั้น ก็ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากจากจำนวนทั้งสิ้น 1,466 ราย ที่มีอาการหนัก จำนวน 34 ราย

โดยผลความเสียหายในชีวิตทั้งในส่วนของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทางคณะนักธรณีวิทยาก็ระบุว่า ถือเป็นความเสียหายหนักที่สุดจากเหตุแผ่นดินไหวของตุรกี ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดศักราชใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป

ขณะที่ ความเสียหายในทรัพย์สิน ปรากฏว่า อาคารสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายถึงขั้นยับเยินพังถล่มลงมาเป็นบริเวณกว้าง โดยประเมินกันว่า สิ่งปลูกสร้างและอาคารกว่า 514 แห่ง ได้รับความเสียหาย ในจำนวนนี้ 72 แห่ง ได้รับความเสียหายหนักในระดับพังถล่มลงมา

ด้วยเหตุนี้ จึงคาดหมายกันว่า จะมีเหยื่อแผ่นดินไหว ติดภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารสิ่งปลูกสร้างอีกจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้ทางการอังการา ส่งทีมกู้ภัยเร่งค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหวที่คาดว่าจะติดภายใต้ซากปรักหักพังข้างต้นออกมาโดยด่วน แข่งขันทั้งกับเวลาและสภาพอากาศที่กำลังเย็นจัดอย่างสุดยะเยือกหนาวเหน็บ ซึ่งมีรายงานว่า สภาพภูมิอากาศในพื้นที่ภาคตะวันออกของตุรกี ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ อุณหภูมิติดลบ 8 องศาเซลเซียส

พร้อมกันนี้ ได้มีนานาชาติ เช่น สหภาพยุโรป หรืออียู รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ อย่าง สหประชาชาติ หรือยูเอ็น แสดงความจำนง พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือต่อตุรกี หากรัฐบาลอังการาของประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิป เออร์โดกัน ร้องขอมา

โดยในการช่วยเหลือผู้ที่ติดใต้ซากหักพัง ถือเป็นภารกิจเร่งด่วน เพราะต้องทำแข่งกับเวลา โดยมี “ชีวิต” ของเหยื่อแผ่นดินไหวที่อยู่ใต้ซากนั้นเป็นเดิมพัน ซึ่งทางคณะรัฐบาลตุรกี ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเออร์โดกัน นำคณะเดินทางมาอำนวยการถึงพื้นที่ประสบภัย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

มีรายงานด้วยว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่นำมาซึ่งความสลดเพราะมีจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากครั้งนี้ แม้แต่ตัวของประธานาธิบดีเออร์โดกันเอง ก็ยังมาช่วยแบกร่างอันไร้วิญญาณ คือ ศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวได้ 24 ชั่วโมงเป็นต้นมา ทางคณะหน่วยกู้ภัย สามารถกู้ชีพ นำร่างของผู้ติดใต้ซากสิ่งปลูกสร้างออกมาได้แล้วอย่างน้อย 43 ราย ตามการเปิดเผยของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขของตุรกี

อย่างไรก็ดี ตามการคาดการณ์ ระบุว่า ยังคงมีผู้ที่ติดใต้ซากภินท์พังของอาคารอยู่อีกไม่ต่ำกว่า 22 ราย ในฐานะผู้สูญหาย ซึ่งทางคณะหน่วยกู้ภัย ระดมกำลังค้นหาอย่างเร่งด่วน

ในส่วนของผู้ที่ถูกช่วยเหลือจากซากปรักหักพังโดยหน่วยกู้ภัยมาได้นั้น ก็มีทั้งผู้ที่อยู่ในวัยต่างๆ ตั้งแต่อายุราว 2 - 5ขวบ ไปจนถึงผู้สูงวัย อายุ 65 ปี

โดยเหยื่อที่มีอายุเพียงราว 2 - 5 ขวบ ข้างต้นนั้น ถูกหน่วยกู้ภัยดึงออกมาจากใต้ซากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง หลังติดอยู่ใต้ซากมานานเกือบ 24 ชั่วโมง ส่วนเหยื่อผู้สูงวัย เป็นหญิง อายุ 65 ปี ถูกช่วยมาได้หลังติดอยู่ใต้ซากหักพังนาน 19 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังมีสตรีตั้งครรภ์รายหนึ่ง ซึ่งมีอายุครรภ์ได้ 6 เดือน ถูกช่วยออกมาได้หลังติดอยู่ใต้ซากอาคารนาน 12 ชั่วโมง ซึ่งทันทีที่ถูกช่วยเหลือมาได้ ก็ถูกนำตัวไปโรงพยาบาลโดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุสลดในปฏิบัติการกู้ภัยเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ขึ้น เมื่อหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือเด็กชายอายุ 12 ปี รายหนึ่งออกมาได้แล้ว แต่ปรากฎได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ ถึง ณ เวลานี้ คณะหน่วยกู้ภัยก็ยังคงเดินหน้ากู้ชีพต่อเหล่าบรรดาเหยื่อที่คาดว่ายังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง ท่ามกลางการส่งกำลังใจจากนานาชาติไปช่วยชาว จ.เอลาซิก ของตุรกีให้ผ่านพ้นช่วงเวลาความยากลำบากหนนี้ไปให้ได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0