หลังจากจบภารกิจพิชิตสนามไชย ดูเหมือนจะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ซะแล้ว สุดสัปดาห์นี้ก็เช่นกันอุตส่าห์ไปไกลถึง ตลาดพลู แหล่งขุมทรัพย์ของกิน สายกินอย่างเฟยและแคนดี้จะพลาดได้ยังไง ต้องเก็บให้ครบทุกร้านดังในตลาดพลูเลยละ อิ่มแค่ไหนก็จะกิน แต่เฟยและแคนดี้ไม่สามารถทำแบบนั้นได้น่ะสิ ส่วนจะเป็นเพราะอะไร ตามมาดูกันเลยยย…
(VDO)
ภารกิจของเฟยและแคนดี้ในสัปดาห์นี้คือ ต้องไปตามหา 5 ร้านเด็ดที่ตลาดพลู โดยมีเงื่อนไขในการใช้งบเพียง 399 บาท และต้องเดินทางด้วยรถไฟเท่านั้น!! แหม…ขอเงินเพิ่มอีก 1 บาทจะครบ 400 บาทแล้วก็ไม่ได้ ใจร้ายจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เงิน 399 บาท ยังไงเฟยและแคนดี้ต้องรอด งานนี้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยเสน่ห์ สู้ค่ะ!!
การเดินทางมาตลาดพลูก็แสนจะง่ายมาก แค่นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีตลาดพลูก็ถึงแล้วค่ะ (รถไฟฟ้าก็ถือว่าเป็นรถไฟเนอะ…อิอิ)
พอถึงตลาดพลู ร้านแรกก็เจอแล้ว หาง่ายมาก สุณี ข้าวหมูแดง เจ้าแรก เจ้าเดียว ริมทางรถไฟเลย ส่งต่อความอร่อยของข้าวหมูแดงมากว่า 50 ปี หมูที่จะทำหมูแดงทางร้านจะเลือกใช้หมูสันนอกเท่านั้น โดยนำมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านเพื่อเพิ่มความหอม ส่วนตัวหมูกรอบทางร้านจะเลือกหมูสามชั้นที่มีส่วนของเนื้อมากกว่าส่วนของชั้นมัน แล้วนำมาทำให้สุกตามแบบฉบับของร้าน ก็จะได้หมูกรอบที่อร่อย หนังกรอบ แต่ตัวเนื้อนุ่มและหอม และสุดท้ายคือน้ำราด ทางร้านใช้กระดูกหมูมาเคี่ยวจนเป็นน้ำซุปแล้วปรุงรสต่างๆ ตามสูตรแล้วเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้ที่ จะได้น้ำราดที่มีความเข้มข้นและรสชาติอร่อยกลมกล่อม เดินทางมาด้วยความหิวโหย สั่งไปเลยจ้ะคนละจาน เงิน 399 บาท เยอะแยะ กินไปเลยจร้า!! พริบตาเดียวหมดจาน และเพราะความสวยของแคนดี้แท้ๆ แม่ค้าใจดีจึงให้เฟยและแคนดี้กินฟรีไปเลย ต้องขอขอบคุณทางร้านสุณี ข้าวหมูแดงมากๆ นะคะ
ร้านที่สอง สรินทร์ทิพย์ขนมเบื้องไทย พร้อมพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปชิมรสชาติความอร่อยแบบดั้งเดิมของไทย เพราะเปิดมายาวนานกว่าถึง 4 รุ่น ซึ่งการเปิดมายาวนานถึง 4 รุ่นนั้นก็สามารถรับประกันได้ถึงคุณภาพความอร่อย เพราะถ้าไม่อร่อยจริงคงไม่อยู่มาถึง 4 รุ่นได้ ทางร้านมีแบบธรรมดาไส้เค็มและไส้หวาน ขนกองทัพฝอยทอง กองทัพกุ้งเค็ม มาแบบจัดเต็ม แป้งนี่กรอบกร๊วบมาก หรือจะลองแบบใส่ไข่ก็อร่อยไปอีกแบบ มันจะนิ่มกว่าหน่อย แต่ฉ่ำและหอมไข่มาก อร่อยที่สุดในสามโลก สั่งไปเลยใส่ไข่ 4 ชิ้น 60 บาท แบ่งกันคนละ 2 ชิ้นละกันเนอะ (399-60 เหลือเงิน 339 บาท)
ร้านที่สาม กุยช่าย แป้นศรี กุยช่ายที่ใช้ข้าวโม่มาทำเป็นแป้ง ทำให้แป้งมีความเหนียวและนุ่มมาก ทำสดใหม่ทุกวัน ที่ร้านมีไส้ทั้งหมด 4 ไส้คือ กุยช่าย เผือก มันแกว และหน่อไม้ ไส้ก็แน่นทุกไส้ สั่งมา 5 ชิ้น ทั้งหมด 35 บาท ไส้กุยช่ายคือที่สุดจ้า รสชาติจัดจ้านเข้มข้นมาก นอกจากกุยช่ายที่ร้านยังขายขนมจีบ สูตรภัตตาคาร ปั้นกันสดๆ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ผสมแป้งอีกด้วย น่ากินมาก แต่กลัวเงินไม่พอ รอให้เสร็จสิ้นภารกิจแล้วเงินเหลือก่อน จะกลับมาเหมาให้หมด สุดท้ายฟ้าก็ไม่ใจร้ายกับคนสวยอย่างเฟยและแคนดี้ค่ะ เพราะคุณป้าแป้นศรีใจดี ไม่คิดเงินเราอีกแล้วค่า ขอบคุณคุณป้ามากๆ นะคะ ทุกคนไปอุดหนุนกุยช่าย แป้นศรีกันเยอะๆ นะ คุณป้าน่ารัก เป็นกันเอง และใจดีมาก แถมกุยช่ายก็อร่อยอีกด้วย
ร้านที่สี่ เต็กเฮ็ง หมี่กรอบ จีนหลี ร้านหมี่กรอบโบราณย่านตลาดพลู ที่เปิดขายมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมเสิร์ฟรสชาติที่คงเดิมมากว่า 110 ปี เมนูเด่นที่สุดของทางร้านคือ หมี่กรอบ ร.5 ที่บอกเลยว่า ถ้ามา แล้วพลาดไม่ได้! เพราะหมี่กรอบของที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน สูตรหมี่กรอบของที่ร้านเป็นสูตรของจีน และจุดที่ทำให้ร้านเต็กเฮ็ง หมี่กรอบ จีนหลี โด่งดังขึ้นมา ก็คือเรื่องราวการเสด็จฯ เยือนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นั่นเองค่ะ เจ้าของร้านเล่าว่า “วันนั้นอาเหล่ากงผัดหมี่กรอบอยู่ แล้วในหลวง ร.5 เสด็จฯ ล่องเรือผ่านมาพอดี ท่านได้กลิ่นหอมของหมี่กรอบร้านเราก็รู้สึกสนพระทัย เมื่อเสวยแล้วก็ยิ่งถูกพระทัย ท่านจึงพระราชทานนามให้หมี่กรอบของร้านเราว่า หมี่กรอบเสวยสวรรค์” …ซึ่งหมี่กรอบจานดังกล่าวก็คือ หมี่กรอบสูตรเดิมที่ทางร้านยังคงขายต่อเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ได้ยินแบบนี้แล้วต้องสั่งเลยละ เสียใจสั่งได้อย่างเดียวเดี๋ยวเงินไม่พอ จะร้องไห้!! จุดเด่นของหมี่กรอบจานนี้คือรสชาติที่แสนจะเข้มข้นค่ะ คล้ายๆ ผัดไทย รสหวานนำตัดเปรี้ยว มีเผ็ดนิดๆ เหลือเงินกี่บาทล่ะเนี่ย (399-200 เหลือเงิน 199 บาท) เงินจะพอถึงร้านสุดท้ายมั้ยเนี่ย ท้องยังว่างอีกเยอะ แต่เงินนี่สิ เหลือน้อยนิดเหลือเกิน 199 บาท ไม่น้อยนะ กินบะหมี่ได้ 2 ชามแน่ๆ จะจริงหรอ รีบไปร้านสุดท้ายกันเลย
ร้านสุดท้ายแล้ว ร้านเตี้ย เย็นตาโฟ ริมทางรถไฟ ร้านนี้อยู่มากว่า 50 ปีและครองใจชาวตลาดพลูจนถึงปัจจุบัน ด้วยซอสพริกรสเด็ดทำเองสูตรเดิมจากรุ่นพ่อ ใครลิ้มลองเป็นต้องกลับมาทานซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าขาประจำ ไม่รอช้าที่จะพิสูจน์ความอร่อย สั่งเลย เย็นตาโฟเส้นใหญ่น้ำ (40 บาท) ทางร้านใช้กรรไกรตัดผักบุ้งไทยก้านใหญ่รอไว้ในชามแล้ว เติมเส้นเติมเครื่องเติมซอสเติมน้ำซุปลงไป จนได้เย็นตาโฟสีออกส้มๆ ไม่ใช่สีชมพูหวานแหววอย่างร้านอื่นๆ นั่นเป็นเพราะซอสพริกโฮมเมดที่อาเฮียเป็นคนทำเองทุกวัน รสชาติถือว่าเด็ด เผ็ดเล็กน้อย หวานตาม อือหือ!! ไม่เคยกินเย็นตาโฟเจ้าไหนดีงามเท่านี้มาก่อน และเพื่อตอกย้ำความเข้มข้นของซอสพริก มันแซ่บซี้ดจนไม่ต้องปรุงกันเลย (199-40 เหลือเงิน 159 บาท)
สำเร็จแล้วกับภารกิจนั่งรถไฟไปตลาดพลูอิ่มฟูด้วยเงิน 399 บาท กินหมดครบทุก 5 ร้านดัง แถมยังเหลือเงิน 159 บาทอีกด้วย มาตลาดพลูแล้วมากินปกติมันอาจจะดูง่ายไป ลองตั้งภารกิจแบบเฟยและแคนดี้ก็ได้นะคะ สนุกและตื่นเต้นดี ทำให้การมาตลาดพลูไม่จำเจและน่าเบื่อ ส่วนสุดสัปดาห์หน้าเฟยและแคนดี้จะพาไปกินที่ไหน รอติดตามกันนะ เดี๋ยวเฟยและแคนดี้ขอตัวไปหาอะไรกินต่อก่อนละ ภารกิจก็สำเร็จแบบใสๆ เงินก็เหลืออีก มีความสุขที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดด…..
