โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

นับถือหัวใจ “ท็อป ดารณีนุช” ไม่หลับไม่นอนเร่งหาของบริจาค เผยอยากให้ทุกคนบริหารความเบื่อ ไม่งอแง แล้วไทยจะรอดไปด้วยกัน

Manager Online

เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 15.26 น. • MGR Online

“ท็อป ดารณีนุช” ทุ่มสุดตัว เร่งหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปบริจาค ดีใจที่ได้ช่วย แม้บางวันต้องทำถึงตีสาม บาง รพ.อยู่ห่างไกลตนเพิ่งเคยได้ยินชื่อ ชื่นใจดาราช่วยกันบริจาคเงิน คนไทยน่ารักยื่นมือมาช่วยไม่ขาดสาย วอนรัฐบาลเห็นความสำคัญของชีวิตแพทย์-พยาบาลให้มากๆ และควรเร่งกระจายของให้ไปถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด พร้อมเผยอยากให้ทุกคนบริหารความเบื่อ ไม่งอแง แล้วไทยจะรอดไปด้วยกัน

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ลุกขึ้นมาช่วยวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ “ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน” ที่เจ้าตัวเป็นแกนหลักในการหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น และขาดแคลน ไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ บางวันลากยาวจนตีสาม แต่งานนี้ ท็อป ดารณีนุช บอกว่าดีใจที่ได้ทำและจะทำให้ดีที่สุด ชื่นใจบางคนบริจาคของ บางคนบริจาคเงิน แม้แต่คนที่ทำอาชีพไลน์แมนก็ติดต่อเข้ามาอาสาช่วยส่งของให้โรงพยาบาลฟรี นี่แหละคนไทยไม่ทิ้งกันเป็นแบบนี้จริงๆ พร้อมวอนรัฐบาลเร่งกระจายของให้ถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด ไม่มีแพทย์ไม่มีเรา

“ทำให้เห็นถึงน้ำใจคนไทย คำว่าคนไทยไม่ทิ้งกันมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ ภัยโควิดจ่อคอหอยเรามากเลย ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาล รวมไปถึงประชาชน เพราะฉะนั้นหน้าที่ที่พวกเราจะต้องปกป้อง ก็คือแพทย์และพยาบาล พูดได้เลยว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับแพทย์และพยาบาลมันก็จะล้มทั้งโดมิโน แล้วเราก็จะก้าวเข้าสู่ประเทศที่เขาต้องออกมารักษากันอยู่ข้างนอกโรงพยาบาล อย่าง อิตาลี เราไม่อยากให้ประเทศเราก้าวไปถึงจุดนั้น เพราะฉะนั้นเวลาเราทำจะแฮชแท็กว่า หมอ พยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ต้องปลอดภัย นี่คือหลักๆ เลย คือพวกเราจะต้องช่วยให้พวกเขาปลอดภัยที่สุด”

“ตอนนี้มันส่งผลทั่วประเทศ ตอนนี้โรคมันคุกคามทั่วโลกอยู่แล้ว แต่ว่าระบบจัดการของบ้านเราตอนนี้ ถ้าสาธารณสุขหรืออะไรต่างๆ ถึงพร้อม ของถึงมือหมอพร้อมแล้ว เราจะถอยออกแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้เราเห็นแบบนี้เราต้องช่วยค่ะ เพราะถ้าเราไม่ช่วยกันตอนนี้ไม่ทันแน่ เพราะเราไม่อยากเห็นภาพคนไทยเป็นอย่างที่บอกค่ะ”

“สิ่งที่โรงพยาบาลขอเข้ามา ที่ขาดแคลนและที่เขาต้องการมากๆ ก็คือหน้ากาก N95 และชุด PPE อุปกรณ์ต่างๆ นอกจากมีคนช่วยบริจาคเข้ามาแล้ว เราต้องหาซื้อด้วยตัวเองด้วยค่ะ (ตอนนี้มีพวกมิจฉาชีพฉวยโอกาสเอาเปรียบยามทุกคนเดือดร้อน เอาของไม่ได้คุณภาพมาหลอกขาย เรามีวิธีตรวจเช็กอย่างไร?) เราจะดูแหล่งของเขา แล้วเราเป็นคนไม่เลือกซื้อมั่ว เงินของคนที่บริจาคมามีค่า เพราะฉะนั้นเราจะบริหารเงินคนที่ให้มาอย่างดีที่สุด จะเช็กแล้วเช็กอีก เรายังไม่เคยโดนหลอก ยังไม่เคยเจอของไม่มีคุณภาพ ก่อนจะซื้ออะไรเราคัดสรรอย่างถี่ถ้วนค่ะ”

“นอกจากส่งของไปช่วยแล้ว ที่สำคัญเลยเราต้องให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้ที่บริจาคด้วยค่ะ คือตอนนี้คนไทยมีน้ำใจมาก ช่วยกันทำอุปกรณ์ไปบริจาคให้หมอ หรืออาหาร น้ำต่างๆ แต่ตัวเขาเองไม่รู้ว่าตัวเองติดโควิดหรืออยู่ใกล้ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เลยเป็นปัญหาว่าเชื้อก็ไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ด้วย”

ชื่นใจดาราช่วยกันบริจาคโดยที่ไม่เคยร้องขอ เผยมีโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลติดต่อเข้ามาเยอะมาก บางที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อ

“เราไม่ได้ไปขออะไรเลยค่ะ น้องๆ บริจาคเข้ามากันเองหมดเลย เราก็ชื่นใจ เราเชื่อว่าทุกคนช่วยอยู่ทุกที่ค่ะ แต่ทุกคนอาจจะเห็นว่าเราทำอย่างไร ช่วยอย่างไร อย่างที่บอก หลักสำคัญคือเราจะทำยังไงให้แพทย์พยาบาลปลอดภัย และที่เราทำสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลไกลๆ ตามต่างจังหวัดได้ดี และเขาสามารถเข้ามาพูดกับเราได้เลย บางทีโรงพยาบาลเล็กๆ ไม่เคยมีใครได้ยินเสียงเขา แต่เราทำให้เขา บางที่อยู่ไกลมากจริงๆ ค่ะ บางที่เราไม่เคยได้ยินชื่อโรงพยาบาลนี้เลย ไม่เคยได้ยินชื่ออำเภอนี้เลย แม้กระทั่งพระท่านยังมาขอกับเราค่ะ”

“บางที่เราจะเช็กว่าเขามีผู้ป่วยกี่เตียง อย่างบางที่บอกมีผู้ป่วยโควิด 3 คน เราก็จะรีบจัดส่งให้เลย ของเรามีไม่เยอะ เพราะฉะนั้นเราจะเน้นเรื่องบริหารจัดการเป็นหัวใจสำคัญมากกว่าปริมาณ การบริหารจัดการของเราคือ หนึ่งของต้องมีคุณภาพ สองส่งของไปให้เขาให้ทั่วถึง แล้วก็ตรงวัตถุประสงค์ ไม่ใช่ให้ไปแล้วเอาไปทิ้งขว้าง อันนี้ไม่ได้”

“มีกลุ่มไลน์แมนจิตอาสามาช่วยส่งของให้โรงพยาบาลทั่วกรุงเทพ และปริมณฑล แบบฟรีๆ ด้วยค่ะ น่ารักนะ คนกลุ่มนี้เขาไม่ได้มีรายได้เยอะเลยนะ แต่เขาสามารถช่วยเราเยอะมาก อย่างกล่องที่ใช้ส่งของ คนเอามาให้หมดเลย เราไม่ได้ซื้อเลย แม้เราจะไม่มีของเยอะ แต่โชคดีที่มีเครือข่าวเยอะ คนเขามาส่องหน้าไอจีเรา เห็นที่ไหนต้องการอะไรเขาก็ส่งมาไปแล้ว เวลาโรงพยาบาลเล็กๆ ส่งข้อมูลมา เราจะเอาลงไอจีให้ทุกโรงพยาบาล”

เผยดีใจที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางแห่งถึงกับบอกว่า ดีใจจนมือสั่น เพราะไม่คิดว่าความช่วยเหลือจะไปถึงพวกเขา

“ตอบตรงๆ นะคะ ไม่ได้ตอแหล เราก็รู้สึกดีแหละ แต่เราจะไม่หลงว่าเราทำตรงนี้แล้วเขามาชื่นชม เราว่าเป็นหน้าที่เรามากกว่า เราอยู่ตรงนี้เรามีโอกาสที่จะทำได้ เราก็เลยอยากทำให้เขาเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ คนธรรมดาถามว่าทำได้มั้ย ทำได้ค่ะ แต่อาจจะทำได้รวดเร็วมั้ย เขาอาจจะทำได้ช้ากว่าเพราะคนเขาไม่ได้ไว้ใจอย่างพวกเรา เวลามีคนส่งมาขอบคุณ เราก็รู้สึกแค่ว่า เราได้ทำหน้าที่ตรงนี้สำเร็จแล้วนะ ก็ดีใจค่ะ”

เจ้าตัวหักโหมมาก บางวันต้องทำถึงตีสามเนื่องจากมีคนขอความช่วยเหลือเข้ามาไม่ขาดสาย

“ใช่ค่ะ เพราะมีคนเข้ามาขอให้ช่วยเยอะมากค่ะ แล้วข้อความทั้งหมดอยู่ในไดเร็กแมสเสจของไอจีเรา ซึ่งเราจะกระจายงานให้คนอื่นก็ต่อเมื่อเราดึงข้อมูลนั้นออกมาแล้วถึงจะกระจายงานได้ แล้วเราไม่มีแอดมิน ฉะนั้นจะทำเอง อาร์ตเวิร์กก็ทำแบบบ้านๆ ด้วยความที่ทำเองก็เลยดึกบ้างค่ะ (ร่างกายเหนื่อยสะสม กลัวตัวเองป่วยมั้ย?) ไม่กลัวหรอกค่ะ อะไรจะเกิดเราก็ต้องยอมรับสภาพแต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด ลูกบอกว่าอยู่บ้านเราก็เหมือนกับเข้าห้องแลปเพราะเราก็ดูแลใส่ใจตัวเองเป็นอย่างดี”

ฝากถึงรัฐบาล อยากให้เห็นความสำคัญของชีวิตแพทย์และพยาบาลมากๆ ควรเร่งกระจายของให้ถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด

“อยากให้กระจายของให้ไปถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด อย่างที่บอกสิ่งที่เรากังวลมากที่สุดก็คือความปลอดภัยของแพทย์และพยาบาล เพราะถ้าแพทย์และพยาบาลไม่สามารถรักษาเสถียรภาพและความปลอดภัยไว้ได้ ความปลอดภัยก็ไม่สามารถมาถึงพวกเราได้ เราไม่สามารถอยู่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเราต้องเร่งกันช่วย ก็อยากให้ท่านเห็นความสำคัญของชีวิตแพทย์และพยาบาลมากๆ ค่ะ”

พร้อมให้สติคนไทยใช้ชีวิตอย่างไรในวิกฤติโรคระบาด ชี้ต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรับมือโควิด

“ส่วนตัวก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตอยู่แล้วค่ะ อยากบอกว่าคนเราต้องอยู่กับความจริง ถ้าเรายอมรับความจริงไม่ได้เราจะทุกข์ทรมานกับความอยากให้พ้นจากสิ่งที่มันเป็น ฉะนั้นให้เห็นความจริงว่ามันเป็นแบบนี้ แล้วเอาหลักพุทธศาสนามาใช้ แล้วอยู่กับมันยังไง ปรับตัวยังไง เพื่อให้เราสามารถที่จะพา ไม่ใช่แค่พาชีวิตตัวเอง พาชีวิตคนทั้งประเทศให้รอดด้วยกัน อยู่กับบ้านเป็นสิ่งที่ดี”

ลั่นแค่จัดตารางชีวิตตัวเองใหม่ อย่างอแง หลังล่าสุดวันนี้(1 เม.ย. 63) ผู้ว่าฯ กทม. ออกมาตรการสั่งปิดร้านค้าตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ถึงตีห้า เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านรถเข็น ร้านตึกแถว เพื่อยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด พร้อมให้กำลังใจคนไทย ให้บริหารความเบื่อที่เกิดขึ้น แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน

“ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ เขาปิดเวลานี้เราก็แค่ไปซื้อในเวลาที่เขากำหนด เราก็จัดตารางชีวิตตัวเอง คนเราง่ายจะตาย ปรับตัวเองให้เข้ากับความเป็นจริง อยู่ได้หมดค่ะ ทำไมหมอและพยาบาลอยู่ได้ทั้งที่ไม่ได้พักผ่อน เขาก็มีคนที่เขารัก บางคนมีลูก พี่พ่อแม่ ที่เขารักเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้พักผ่อนแล้วยังทำงานหนัก ทำไมเขาอยู่ได้ เพราะเขาทำหน้าที่ด้วยหัวใจ เพราะฉะนั้นเราแค่ทำตรงนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องงอแงค่ะ พึ่งตัวเองให้มากๆ ไม่ต้องรอว่าเฮ้ย…คนนั้นต้องมาทำอันนั้นให้ฉัน ต้องทำอันนี้ให้ฉัน อยู่กับความจริงค่ะ แล้วก็มองความจำเป็นของส่วนรวมเป็นหลัก”

“ทุกคนเลยนะคะ ดิฉันคิดว่าเราแค่ต้องบริหารความเบื่อ ความรู้สึกอึดอัดที่เราเคยเคลื่อนไหวตัวเองตลอดเวลา แค่เราบริหารความเบื่อ แล้วอยู่นิ่งๆ ให้ได้ มันเป็นโอกาสที่เราจะกลับมารีเซ็ตชีวิตตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลบ้านช่องคุณ หรือจัดการดูแลชีวิตคุณในเรื่องต่างๆ นานา คุณสามารถทำได้หมดค่ะ หากิจกรรมทำ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณค่ามันอยู่กับคนใกล้ตัวเรา อยู่กับครอบครัวเรา แล้วคุณจะรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณค่ามันไม่ได้เป็นความสุขจากข้างนอกหรอกค่ะ แต่มันเกิดจากข้างใน แค่คุณหาให้เจอ ชีวิตคนไทยก็จะดีขึ้นค่ะ”

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0