โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

นับถอยหลัง “คล็อปป์” ลาหงส์

สยามรัฐ

อัพเดต 03 เม.ย. 2563 เวลา 17.10 น. • เผยแพร่ 03 เม.ย. 2563 เวลา 17.10 น. • สยามรัฐออนไลน์
นับถอยหลัง “คล็อปป์” ลาหงส์

ช่วงนี้บรรดา “เดอะค็อป” ทั่วโลกกำลังรู้สึกหนาวๆร้อนๆกันทั่วหน้า ไม่ใช่เพราะติดเชื้อไวรัส “โควิด-19” ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ แต่ที่มีอาการแบบนี้เพราะข่าวของ “เจอร์เกน คล็อปป์” ผู้จัดการทีมสมองเพชรชาวเยอรมันของทีม"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จ่าฝูงในศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ อาจต้องลาจากถิ่น"แอนฟิลด์" หลังสัญญาสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 ด้วยเหตุที่ช่วงระยะนี้มีกระแสข่าวมีหลายสโมสรในทวีปยุโรปให้ความสนใจดึงตัวไปร่วมงานด้วย

สาเหตุที่กุนซือ วัย 52 ปี กลายเป็นคนเนื้อหอมจนถูกหมายตาจากสโมสรยักษ์ใหญ่ในทวีปยุโรปหลายทีม นั้นก็เพราะผลงานการคุมทีมของเขาในฐานะโค้ชสมัยใหม่ที่มีแนวคิดหัวก้าวหน้า และชั้นเชิงในการจัดตัวผู้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยก่อนที่จะมาเป็นนายใหญ่ให้กับหงส์แดง เคยพาทีม"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมในลีกสูงสุดของประเทศเยอรมัน ได้เถลิงแชมป์ลีก บุนเดสลีกา ถึง 2 สมัย (2010–11, 2011–12) รวมทั้งคว้าแชมป์ เดเอฟเบโพคาล 1 สมัย (2011–12) แชมป์ DFL-Supercup 3 สมัย (2008, 2013, 2014) และรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2012-13 ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 7 ปี ที่เขาคุมทัพเสือเหลือง ก่อนที่จะประกาศอำลาทีมไป โดยมีหลายทีมตามจีบชนิดที่ "หัวบันไดบ้านไม่แห้ง" กันเลยทีเดียว

ในสุดก็เป็น"ลิเวอร์พูล" ที่สามารถโน้มน้าวใจให้ "คล็อปป์" จรดปากกาเซนต์สัญญา 3 ปี ในการเข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2015 แทนที่ "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือคนเก่า ของเขาก็พา ลิเวอร์พลู ขึ้นไปถึงรองแชมป์ยูโรปาลีก และลีกคัพ และยังสามารถพา ลิเวอร์พูล ขึ้นมาเป็นเจ้ายุโรป 6 สมัยได้ในฤดูกาลที่ 2018-2019โดยการเอาชนะทีมสเปอร์สไปด้วยสกอร์ 3-1 ในนัดชิงชนะเลิศศึกยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก รวมไปถึงการคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2019-20 และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2019

ทั้งนี้ ในการทำทีมของ "คล็อปป์" แฝงไปด้วยเกมรุกที่จัดจ้าน การเข้าบอลโดยเน้นเพรสซิ่งที่รวดเร็วจนกดดันไม่ให้คู่แข่งสามารถทำเกมได้ "คล็อปป์" เปรียบเปรยสไตล์ฟุตบอลของเขาว่าเป็น “เฮฟวี เมทัล ฟุตบอล” เพราะมันดูดุดันและก้าวร้าวเหมือนดนตรีเฮฟวี เมทัล แต่เหนือจากแท็กติกใด ๆ สิ่งที่เขาต้องการจากนักเตะมากที่สุดคือเรื่องของสปิริตและหัวจิตหัวใจที่แข็งแรงในการเล่นฟุตบอล และการสร้างความสัมพันธ์ในห้องแต่งตัวที่ดี ทั้งหมดนี้มาจากแพสชั่นที่เขามีให้กับทีม คล็อปป์ ใช้เวลาไม่นานก็ผสานรอยร้าวทั้งหมด จนทำให้ทีมหงส์แดงกลับมาบินสูงกลายเป็นยอดทีมได้อีกครั้ง

ปรัชญาในการทำทีมของ "คล็อปป์" ส่งผลให้ฤดูกาลล่าสุด 2019-2020 "คล็อปป์" ก็พาหงส์แดงขึ้นนำจ่าฝูงในตารางพรีเมียร์ลีก ซึ่งทีมต้องการอีกแค่ 6 แต้ม ก็จะสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษไปครอง หลังจากที่ต้องรอคอยมายาวนานถึง 30 ปี แต่ก็ต้องมาถูกเบรกด้วยเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้ามาแพร่ระบาดในเมืองผู้ดี จนต้องประกาศหยุดการแข่งขันไปจนถึง 30 เม.ย.นี้ และยังไม่รู้ว่าจะได้กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งเมื่อไหร่

ไม่แปลกใจเลยที่ "ทีมชาติเยอรมนี" เป็นอีกหนึ่งทีมที่ต้องการตัวเขาเหมือนกัน โดยทัพอินทรีเหล็ก ภายใต้การนำทัพของ "โยอาคิม เลิฟ" กุนซือคนปัจจุบัน กำลังประสบปัญหาฟอร์มตก โดยเฉพาะเกมรุกที่ไม่สามารถเจาะประตูคู่แข่งได้เหมือนที่ผ่านมา ทำให้สมาคมฟุตบอลเยอรมัน หรือ เดเอฟเบ เตรียมแก้ปัญหา โดยหนึ่งวิธีก็คือ หากุนซือคนใหม่มาทำงานแทนที่ โยอาคิม เลิฟ ที่กำลังจะหมดสัญญาในปี 2022ซึ่ง "คล็อปป์" ก็มีรายชื่อติดเป็นตัวเต็งมาโดยตลอด

อีกทั้ง "เดอะ มิร์เรอร์" สื่อดังของอังกฤษ ก็ออกมาระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ ลิเวอร์พูล อาจจะเสีย "คล็อปป์" ไปในอนาคต ถ้าหากทางทีมชาติเยอรมนี ติดต่อให้เจ้าตัวไปรับตำแหน่ง เพราะช่วงที่ผ่านมา "คล็อปป์" ยืนยันเสมอว่า "เขาจะไม่ทำอาชีพนี้ไปจนถึงบั้นปลายชีวิตและจะวางมือเมื่อถึงเวลาอันควร แต่อย่างไรก็ตามเขาเองก็เคยเปรยว่าเขาอาจจะรับงานคุมทีมชาติเยอรมนีในอนาคต เ พราะการได้คุมทีมชาติเยอรมัน คือความฝันสูงสุดในอาชีพของเขา"

“ผมหวังว่าจะได้ทำงานต่อไปเรื่อยๆ แต่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเหมือนกัน บางทีผมอาจจะรีไทร์ ผมไม่ได้พูดว่ามันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามถ้าหากสุดท้ายมันเกิดขึ้นจริง แฟนๆ ลิเวอร์พูล ก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกเซอร์ไพรส์มากนัก” "คล็อปป์" กล่าว

ขณะที่ "โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์" ผู้จัดการทีมทั่วไปของทีมชาติเยอรมนี ออกมากล่าวชื่อชม "คล็อปป์" อยู่ตลอดเวลา เกี่ยวกับคุณสมบัติที่เหมาะสมมากในการเข้ามารับงานในตำแหน่งกุนซือทีมชาติเยอรมนีในอนาคต และทันทีที่สัญญากับลิเวอร์พูลหมดลง ทีมชาติเยอรมนีก็พร้อมที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าตัวมาคุมทัพอินทรีเหล็กให้ได้

มิหน่ำซ้ำ "บอริส เบ็คเกอร์" ตำนานนักเทนนิสชาวเยอรมัน ก็ออกมาเชียร์ให้ "คล็อปป์" กลับมาคุมทีมอินทรีเหล็กในอนาคต เพื่อกอบกู้สถานการณ์ของทีมที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้

"ผมอยากให้ เจอร์เกน กลับบ้านและคุมทีมชาติเยอรมนีในวันหนึ่ง และผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนั้น ผมคิดว่าเขาจะเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมของประเทศเราเพราะเขาเป็นโค้ชที่นำความคิดของตนเองส่งต่อไปยังนักเตะอย่างจริงจัง และทำให้พวกเขาเข้าใจถึงสิ่งที่เขาพยายามทำออกมา แฟนบอลเยอรมนีทุกๆ คนต่างประทับใจกับงานที่ คล็อปป์ กำลังทำที่ ลิเวอร์พูล การได้เห็นโค้ชชาวเยอรมนีคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับหนึ่งในทีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอังกฤษ และตอนนี้ใกล้ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ถือเป็นเรื่องที่แสนวิเศษ" คล็อปป์ ทำให้หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลกกลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง และผมหวังว่านั่นจะทำให้เกิดพรหมลิขิตที่เขาจะมาคุมทีมชาติเยอรมนี" บอริส กล่าว

ด้วยกระแสข่าวและเสียงยุยงเหล่านี้ ส่งผลให้บรรดาแฟนๆของทีม “หงส์แดง” ต้องรู้สึกใจหายหากต้องสูญเสียผู้จัดการทีมคนเก่งไป อีกทั้งไม่สามารถการันตีด้วยว่าจะมีสโมสรยักษ์ใหญ่ทีมไหนมาทุ่มเงินล่อใจให้ "เจอร์เกน คล็อปป์" ไปร่วมงานด้วย

ที่สุดแล้วเชื่อว่าคงยังไม่มีอะไรที่แน่นอน ถ้าหลังจากฤดูกาลนี้ “หงส์แดง”ทำผลงานได้ไม่ดี "คล็อปป์" อาจจะโบกมือลาก่อนกำหนด 4 ปีก็ได้ หรือถ้าหลังจากนี้ “ลิเวอร์พูล” ติดลมบน สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างต่อเนื่อง กุนซือคนเก่งก็อาจจะขออยู่ยาวเพื่อเป็นตำนานในถิ่น "แอนฟิลด์" ก็เป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์…เริ่มนับถอยหลังได้เลย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0