พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า
คนไทยตกงานกันมากจริงหรือไม่
▪️ปัจจุบันมีคนเอาข่าวเก่าเรื่องปลดคนงาน ซึ่งส่วนใหญ่มีการแก้ไขปัญหาไปแล้ว
มาเผยแพร่ เพราะสถาณการณ์ตอนนี้มันน่าจะเป็นอย่างนั้น
แต่ในประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นนั้น ส่วนใหญ่ที่ถูกเลิกจ้างคือคนงานเป็นต่างชาติ
ซึ่งก็ด้วยเหตุผลที่ต่างกันแล้วแต่กรณี▪️
ปัจจุบัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)ในรูปแบบต่างๆได้เข้ามา
มีบทบาทกระทบต่องานประจำของประชาชนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น
“เวลส์ ฟาร์โก” ธนาคารหลักของ สหรัฐฯ ระบุไว้ชัดเจนว่า
จะมีพนักงานธนาคารในสหรัฐฯตกงานมากกว่า 200,000 คน
จากการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เพราะประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสามารถช่วยลดต้นทุนของธนาคารได้
นอกจากนี้ นายไมก์ คอร์แบต ผู้บริหารของซิตี้กรุ๊ป ที่ระบุว่า ระหว่างปี พ.ศ. 2558-2568
คนทำงานธนาคารทั้งในสหรัฐฯและยุโรป เสี่ยงที่จะตกงานสูงเกือบ 2 ล้านคน
ส่วนอุตสาหกรรมอื่น ก็จะมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น
ตัวอย่าง : ร้านพิซซ่า “Picnic” ในซีแอตเทิลที่ใช้ “พิซซ่าโรบอต”
ผลิตพิซซ่าขนาด 12 นิ้วได้ 300 ชิ้นต่อชั่วโมง ในขณะที่คน 6 คน ผลิตพิซซ่าได้อย่างมาก
เพียง 20 ชิ้นต่อชั่วโมง
เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจ จึงเป็นเรื่องท่ีหนีไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้นมีเพียง 2 แนวทาง ที่แรงงานคนสามารถทำได้เพื่อเลี่ยงการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี นั่นคือ
1️⃣ การพัฒนาและเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญที่ต้องสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อผ่านไปสู่งานอีกแบบหนึ่งให้ได้ นั้นหมายความว่า"ต้องเรื่มต้นอย่างไม่เลือกงาน" เสียก่อน (งานมีมากมาย)
2️⃣ กระบวนการแก้ไขปัญหานี้ของกระทรวงแรงงาน ได้วางแนวคิดให้แรงงานเกิดจิตสำนึก 4.0 นั่นคือ ต้องเข้าใจว่าการทำงานแบบ 4.0 คืออะไรเสียก่อน
4.0 ในความหมายของการทำงานคือ 1) ต้องเกิดผลผลิต (Products) ขึ้น และ 2) ผลผลิตนั้นต้องเกิดสิ่งใหม่ในตัวของมันเอง (Innovation) แม้เกิดขึ้นเล็กน้อยก็ใช้ได้แล้ว
ตัวอย่าง: เมื่อเรียนทำอาหาร แน่นอนว่าตัวผลผลิตต้องออกมาแน่นอน เช่น ได้แกงเขียวหวานไก่ แต่ทำอย่างไรเราจึงจะได้ “สิ่งใหม่” หรือนวัตกรรม (Innovation) ติดออกมาจากแกงเขียวหวานไก่ ไม่ต้องเป็นอะไรมากนักก็ได้ เช่น ทำอย่างไรจะทำให้แกงนั้นสามารถเก็บรักษาได้นาน 2-3 เดือน เราก็จะขายได้ดี เรื่องเหล่านี้เป็นตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจเพราะมีการแกงเขียวหวานไก่กระป๋องผลิตมาตั้งนานแล้ว
ดังนั้นการสอนแนวทางการทำงานต่อไปนี้ ต้องสอนให้ผู้เรียนเข้าใจว่า (1) ต้องได้ผลผลิตขึ้นมา และ (2) ต้องพยายาม สร้างนวัตกรรมขึ้นมาจากผลผลิตนั้นด้วยไม่มากก็น้อย
กระทรวงแรงงาน นอกจากจะสอนงานต่างๆมากมายแล้ว ยังสอนให้คิดถึงเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย
พวกเราถึงจะอยู่รอดได้ในโลกท่ีกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ มาทำงานกันเถอะครับ
คิดไม่ออกมาหางานได้ตามแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด
นอกจากนี้ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า…
คนไทยตกงานจริงหรือเปล่า ตอนสอง
ปัจจุบันมีผู้นำสถิติจำนวนโรงงานที่ปิดมาโพสต์ ซึ่งดูน่ากลัวแต่เมื่อดูจริงๆแล้วสถิติดังกล่าว คล้ายคลึงไม่แตกต่างกันมากกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา มียอดคนงานถูกเลิกจ้างประมาณ 5 พันคน ซี่งส่วนใหญ่ก็ได้เข้าทำงานใหม่กันเกือบหมดแล้ว (ปัจจุบันงานในประเทศที่กระทรวงแรงงานก็ยังเหลืองานว่างถึง 5 หมื่นกว่าอัตรา)
ส่วนพวกที่ถูกนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างก็จะเข้ามาดูแลแทนและหางานให้ทำต่อไปแล้ว เช่น บริษัท บอดี้แฟชั่น (เป็นเงินค่าชดเชย 59,425,592 บาท ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เป็นเงิน 4,391,283 บาท ค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปี เป็นเงิน 167,181.61 บาท รวมเป็นเงิน 63,984,056.61 บาท)
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ ซึ่งผู้โพสต์อาจจะเข้าใจผิด พลอยทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดไปด้วย
แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงจริงคือ กลุ่มคนขายของหน้าร้าน ที่ไม่มีระบบส่งของหรือระบบซื้อขายทางออนไลน์ให้ลูกค้า จะมีคนซื้อน้อยลง เดี๋ยวนี้กาแฟยังต้องส่งทางจักรยานยนต์รับจ้างแบบแยกน้ำแข็งกันแล้วครับ ทุกคนจึงต้องสู้งานและหาความรู้ทาง AI เพิ่มเติมอย่าอยู่เฉย
ส่วนพวกที่อยากไปทำงานเมืองนอกก็มาลงทะเบียนไว้ที่กรมการจัดหางานได้ครับ
คนหนุ่มสาวในปัจจุบันชอบทำงานอิสระกันมากขึ้น พวกนี้ก็ไม่ได้ตกงานจริงครับ แต่เป็นความชอบส่วนตัวที่สามารถทำงานอยู่กับบ้านได้และมีรายได้ดีกว่าข้าราชการเสียอีก จึงไม่น่าวิตกอะไรนัก
ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลาข้างหน้าจะมีอีกมากที่เราจะไม่เคยเจอมาก่อนครับ อนาคตของคนไทยต้องกำหนดและฝึกฝนตนเองให้พร้อมอยู่เสมอ
“ทุกปัญหาของการทำงานมาฝากไว้ที่กระทรวงแรงงาน” อย่าไปฝากอนาคตไว้กับพวกที่คิดถึงแต่อนาคตใหม่ของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงอนาคตจริงๆของคนอื่น
