เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2563 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า การที่ประเทศไทยไม่มีคนเป็นโควิดมา 48 วันแล้วนั้น เป็นเรื่องน่ายินดี แต่พวกเราควรนึกถึงเรื่อง 2 เรื่องครับ
1.ที่ปักกิ่ง ไม่มีคนเป็นโควิดติดต่อกันมาถึง 57 วัน แต่ก็เจอรอบ 2 เข้าไปจนได้ ดังนั้นตอนนี้ประเทศเราก็ยังไม่ปลอดภัยดีนัก ยังต้องระวังต่อไปอีกหน่อย เพราะถ้าวกไปเกิดรอบ 2 ประเทศเราจะหนักหนากว่าตอนนี้ 3 - 4 เท่าครับ
2.ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ล้วนแต่มีอาการหนักกว่าประเทศไทยแทบทั้งนั้น แต่ผลที่เกิดกับประเทศอื่น ก็ส่งผลมา กระทบต่อประเทศไทยรุนแรงเช่นกัน เพราะ (1) ประเทศไทย จะขาดนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่มาของรายได้หลักของประเทศ และส่งผลในทางลบต่อธุรกิจโรงแรม พนักงานและลูกจ้าง รวมทั้งกิจการเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ร่วมล้านคน (2) การส่งออก นอกจากกิจการทำหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดแล้ว ธุรกิจอื่นๆ จะถดถอยลงไปหมด และ (3) คนตกงานจากอาชีพต่างๆอีกนับนับล้านคน และยังมีอีกแยะครับ
เรื่องเหล่านี้ คือเรื่องที่รัฐบาลพยายามแก้ไขอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็มีเรื่องไม่เป็นเรื่องเกิดขึ้นจากคน 3 กลุ่ม คือ (1) จากพรรคร่วมรัฐบาลเอง (2) พรรคการเมืองฝ่ายค้าน (3) กลุ่มการเมืองนอกสภา แต่ก็ ไม่ขอตำหนิใคร เพราะทุกคนก็จำเป็นต้องทำเพื่อตัวเอง เป็นปกติของมนุษย์
เพียงแต่ : รู้จักกาละเทศะหรือไม่ รู้จักรักษาชาติที่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย สร้างไว้ให้หรือไม่ สงสารคนที่ตกงาน และครอบครัวของเขาบ้างหรือไม่
อยู่เฉยๆ สักเดือนหนึ่งทนกันได้ไหม ให้โควิดมันจบไปแน่นอนก่อน แล้วจะทำอะไรก็ทำเถอะครับ