บิ๊กตู่ เซอร์ไพรส์ลงพื้นที่ ชุมชนบ้านบุ ไม่นัดหมายล่วงหน้า พร้อมขอเข้าใจ เกณฑ์ทหารมีความสําคัญ ย้ำ สร้างความเป็นธรรมให้กับคนทุกคน…
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “ชุมชนบ้านบุ” เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ดูงานหัตถกรรม “ขันลงหินบ้านบุ” มรดกทางปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งควรอนุรักษ์ไว้ กับ”ตลาดไร้คาน” ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ โดยไม่มีการนัดหมายล่วงหน้า ซึ่งจุดแรกคือวัดสุวรรณาราม มีนักเรียนจากโรงเรียนสุวรรณารามมารอให้การต้อนรับ ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้พูดคุยทักทายกับคณะนักเรียน ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกโดยได้เรียก นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขตบางกอกน้อยและบางพลัด มาถ่ายรูป พร้อมกล่าวว่า รัก ส.ส.ต้องรักนายกฯ ด้วย นายกฯ ก็ต้องรักษา ส.ส.นายกไม่ได้มีอะไรกับใครอยู่แล้ว
พระเทพสุวรรณเมธี เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม ได้มอบพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อพระศาสดา ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ก่อน นายกฯ จะสนทนาธรรมตอนหนึ่งว่า คนที่จะต้องเข้าเกณฑ์ทหารใหม่มักจะมาบนที่วัดแห่งนี้ เพราะมีความเชื่อว่ามาบนที่นี่แล้วจะไม่ถูกทหาร นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า การเกณฑ์ทหาร มีความสำคัญ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือสังคม และมีการสร้างความเป็นธรรมให้กับคนทุกคน คนที่เรียนหนังสือสูงๆก็มีกฎเกณฑ์ผ่อนผัน จะสมัครเป็นทหารก็ได้ หรือจะมีการผ่อนผันก็ได้ ตนก็มีความกังวลเรื่องการสร้างความเท่าเทียม ถ้าไม่ให้เป็นทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ ในโอกาสนี้เจ้าอาวาสได้มอบหนังสือในเรื่องความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้กับ นายกฯ ด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มาเยี่ยมชมชุมชนบ้านบุ เพื่อดูวิธีการทำขันลงหิน พร้อมอุดหนุนชุดขันลงหินชุดเล็ก ราคา 16,000 บาท ขณะที่ทายาทรุ่นที่ 6 เป็นผู้สืบทอดงานหัตถกรรมขันลงหิน ซึ่งนางเมตตา ได้มอบขันลงหินขนาด 6 นิ้วราคาไม่เกิน 3,000 บาทให้นายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก โดยในระหว่างที่นายกรัฐมนตรี เดินพบปะพูดคุยกับ ชาวบ้านมีหญิงสาวคนหนึ่งนำขนมมามอบให้นายกรัฐมนตรีและหอมแก้มนายกฯ โดยไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่โดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า ทราบข่าวจากการโพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัว ของนายกรัฐมนตรี เพียง 30 นาทีเท่านั้น เนื่องจากนายกฯ อยากเห็นสภาพจริงของชุมนโดยไม่มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้กระทั่งตำรวจในพื้นที่บางส่วนก็ทราบว่านายกจะมีการลงพื้นที่ ทราบหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลแล้ว
ทั้งนี้สาเหตุการลงพื้นที่ของนายกฯ ในครั้งนี้เนื่องจากมีการรายงานให้รับทราบว่าชุมชนดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มซบเซามีเพียงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางส่วนเท่านั้นที่ยังเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่จึงอยากให้นายกฯ เข้ามากระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรี นำคณะมาเยี่ยมพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดวังหลัง เพื่อพบปะพูดคุยพร้อมทักทายกับนักท่องเที่ยวที่มาเดินอยู่ภายในตลาด ซึ่งตลอดทางเดินมีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายรูปและตะโกนชมว่านายก “หล่อ” โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวคนไทย หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้นได้เดินมาทักทายผู้ประกอบการเก่าแก่ผู้ก่อตั้งเรือด่วนเจ้าพระยาสุภัทรา ซึ่งนายกฯ ยังได้ ระบุด้วยว่า “ชีวิตไม่มีความสุขไปกว่านี้อีกแล้วได้เดินเล่นได้เดินเที่ยว”
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่วัดระฆัง และขึ้นไปบนตำหนักแดงเพื่อสักการะพระเจ้าตากสินมหาราช โดยนายกรัฐมนตรีได้ไหว้และนำดาบขึ้นมาอธิฐานขอให้ฟันฟ่าอุปสรรคต่างๆไปให้ได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ลงมาทักทายนักเรียนสตรีวัดระฆังที่มาตั้งแถวรอต้อนรับโดยมีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ได้ถ่ายรูปด้วย ถึงกับร้องไห้เพราะดีใจที่ได้เจอนายกรัฐมนตรีตัวจริงเพราะชื่นชอบมาก
ก่อนเข้ามากราบในพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตตาราม ซึ่งเจ้าอาวาสก็ได้มอบพระพุทธรูปสมเด็จพุฒาจารย์โต พหรมรังสี ขนาด 5 นิ้ว ให้กับนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.อนุพงษ์ ปิดท้ายด้วยการเข้ามาสักการะรูปหล่อของเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม ก่อนเดินทางกลับ.
