นักศึกษาไทยในลอนดอนติดโควิดน้ำตาไหล ขอโทษนำเชื้อกลับประเทศ

วันนี้ (30มี.ค.63) กำลังเป็นกระแสวิจารณ์อย่างมาก หลังนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ เดินทางกลับประเทศไทย บางคนบอกเป็นการนำเชื้อกลับมาแพร่ในประเทศ แต่อีกมุมมองหนึ่งแสดงความเห็นว่า หากไม่กลับมานักศึกษาดังกล่าวอาจะเสียชีวิตได้

ล่าสุดนักศึกษาสาวคนดังกล่าว ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์จากการติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ขณะที่อยู่ในประเทศอังกฤษ เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เช้าวันรุ่งขึ้นเริ่มมีอาการเหนื่อยจึงได้กินยาพารา และลาหยุดเรียนในช่วงวันที่ 10 - 14 มี.ค. ขณะนั้นเป็นช่วงของการระบาดโควิด-19

วันที่ 15 - 16 มีนาคม เริ่มมีอาการเจ็บคอ แต่ทางรัฐบาลอังกฤษมีมาตรการว่า หากป่วยห้ามไปโรงพยาบาล โดยให้โทรศัพท์ไปที่สายด่วน และได้รับคำแนะนำว่าพักรักษาตัวในบ้าน 7 วัน ต่อมาวันที่ 17 มีนาคม เริ่มมีอาการหนาวสั่น จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในโรงพยาบาลและแนะนำว่าให้โทรศัพท์ไปที่สายด่วน

เธอเล่าอาการว่าเจ็บเหมือนโดนแทงที่หน้าอก แต่ได้คำตอบกลับมาว่าให้อยู่บ้าน ทำได้แต่ร้องไห้ วันที่ 19 มีนาคม ไข้สูงถึง 39 องศา จึงโทรหาสายด่วนอีกครั้ง และได้คำตอบเช่นเดิมว่าให้อยู่บ้าน จึงตัดสินใจปรึกษากับครอบครัวกลับประเทศไทย

ระหว่างทางเป็นไข้มาตลอด เมื่อลงเครื่องมาที่ตรวจคนเข้าพยายามบอกว่าเป็นไข้ แต่เครื่องตรวจได้อุณหภูมิ 36 เลยไปกักตัวเองที่โรงแรม บอกแท็กซี่ว่าตัวเองอาจจะติดเชื้อ มาจากลอนดอน แท็กซี่บอกไม่เป็นไร เพราะอาชีพเสี่ยงอยู่แล้ว ก่อนจะไปตรวจพบเชื้อลงปอดแล้ว ผลออกมาน้ำตาไหล ขอโทษที่ทำให้เชื้อต้องมาถึงไทย แต่หากยังไม่กลับมาอาจจะตายได้

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand