โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'นักวิชาการ' ห่วงธุรกิจใหญ่กินรวบ ทำเอสเอ็มอีไทยไม่โต

MATICHON ONLINE

อัพเดต 19 ม.ค. 2563 เวลา 10.10 น. • เผยแพร่ 18 ม.ค. 2563 เวลา 18.25 น.
852-1-1024x682

นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงปัญหาหนี้ครัวเรือน ว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่มากนัก เพราะธนาคารมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มให้กับกลุ่มผู้กู้ที่มีความเสี่ยงในการชำระเงิน และตัวผู้กู้เองก็ไม่สามารถจะสร้างนี้เพิ่มได้มากกว่าเดิม เพราะไม่มีกำลังในการผ่อนเพียงพอ แต่ที่น่ากังวล คือ การชำระหนี้ล่าช้า และปัญหาหนี้เสียที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้ รวมถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่ลดลงโดยเฉพาะกำลังซื้อในต่างจังหวัด

นายเกียรติอนันต์ กล่าวว่า ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น อาจจะพอช่วยประคองเศรษฐกิจไปได้ แต่มาตรการระยะสั้นเหล่านี้มีข้อจำกัด เพราะเป็นมาตรการที่ไม่ได้ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ทำให้ภาษีที่ได้กลับมามีน้อย นอกจากนี้ มาตรการระยะสั้นดังกล่าว จะทำให้เรามีเงินสำหรับลงทุนในสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวลดลง จนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้

ส่วนกรณีบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) มีความสนใจที่จะซื้อกิจการของเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย นั้น นายเกียรติอนันต์ กล่าวว่า ถ้าพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน การซื้อโลตัส บิ๊กซี หรือห้างอื่น ยังไม่น่าจะนำมาสู่การผูกขาดอย่างชัดเจน จนสามารถใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 มาบังคับใช้ได้ เพราะตามมาตรา 5 ระบุว่า ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอํานาจเหนือตลาด หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือหลายรายในตลาดใดตลาดหนึ่ง ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายเกินกว่าเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกําหนดโดยให้นําปัจจัยสภาพการแข่งขันของตลาดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง แล้วแต่กรณี มาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนเกณฑ์ส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในระยะเวลาสามปีนับแต่วันออกประกาศ

“ไม่ทราบว่า เกณฑ์ปัจจุบันที่คณะกรรมการใช้เพื่อประเมินอำนาจเหนือตลาดมีความเข้มข้นมากแค่ไหน มีการบังคับใช้จริงจังเพียงใด แต่เชื่อว่าผู้ที่จะมาซื้อกิจการทราบถึงข้อกำหนดเหล่านี้ดี และเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว โดยในระยะสั้น ผลกระทบที่มีต่อผู้บริโภคอาจจะไม่รุนแรงนัก เพราะธุรกิจเหล่านี้ขายสินค้าในราคาตลาดหรือถูกกว่า ผลกระทบที่น่ากังวล คือ ผลกระทบที่มีต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของไทย เพราะจะทำให้มีช่องทางในการจัดจำหน่ายน้อยลง หรือต้องเจอกับเงื่อนไขที่เสียเปรียบ หากจะนำสินค้าไปวางขายในห้างเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศโตได้ลำบากกว่าเดิม” นายเกียรติอนันต์ กล่าว

นายเกียรติอนันต์ กล่าวว่า หากมองแนวโน้มในระยะยาว จะเห็นได้ว่า การกินรวบของธุรกิจขนาดใหญ่ไม่ใช่แค่ในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และห้างสรรพสินค้า แต่อาจมีอีกหลายธุรกิจที่จะพบกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน เพราะในยุคนี้แข่งกันด้วยเทคโนโลยี ธุรกิจใหญ่จึงได้เปรียบ เพราะมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน กำลังคน และโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ ประเด็นที่ต้องกังวล คือ หากเป็นทุนต่างชาติเข้ามาซื้อ ก็จะทำให้มีเงินไหลออกจากประเทศ หากเป็นทุนไทย ก็จะมีการกระจุกตัวของทรัพย์สินมากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ไม่ดีต่อระบบเศรษฐกิจทั้งนั้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0