โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นักวิชาการ ม.เกษตร แฉ 'พีต้า' เคยบิดเบือนข้อมูลทำลายธุรกิจเพาะเลี้ยงปลากัดมาแล้ว

ไทยโพสต์

อัพเดต 09 ก.ค. 2563 เวลา 13.24 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. 2563 เวลา 13.23 น. • ไทยโพสต์

9 ก.ค.63 - จากกรณีองค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ People for the Ethical Treatment of Animals (PETA) หรือ พีต้า เผยแพร่รายงานอ้างว่าพบการทรมานสัตว์ในประเทศไทย โดยมีการบังคับให้ลิงกังเก็บมะพร้าววันละนับพันลูกถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในประเทศอังกฤษและยุโรปสั่งเก็บกะทิมะพร้าวออกจากห้าง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ขณะนี้

ดร.สหภพ ดอกแก้ว นักวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรพีต้ามีพฤติกรรมบิดเบือนข้อมูลเช่นนี้ เพราะเมื่อปลายปี 2562 พีต้าเคยออกมาโจมตีการส่งออกปลากัดสวยงามของไทยจนเกิดความเสียหายมาแล้ว โดยเลือกแต่มุมลบมานำเสนอให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างเช่น การเลี้ยงปลากัดอยู่ในพื้นที่แคบๆ ทั้งที่ความจริงเป็นธรรมชาติของปลากัดมีสัญชาตญาณในการต่อสู้ ดังนั้นจึงต้องแยกเลี้ยงเพื่อไม่ให้กัดกันจนได้รับบาดเจ็บ มีอวัยวะที่ช่วยในการหายใจในน้ำที่มีออกซิเจนต่ำได้ จึงมีสภาพการเลี้ยงที่แตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่น

"พีต้านำภาพปลาตายแล้วอ้างว่ามาจากการเลี้ยงที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม กักขังให้อยู่ในน้ำไม่ถึงครึ่งลิตร ทั้งๆที่ปลาตายเพราะเป็นโรคแต่รายงานบิดเบือนข้อเท็จจริง ภาพไม่สอดคล้องกับเนื้อหา มุ่งเน้นทำลายธุรกิจเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม มีการใช้รูปปลาปักเป้าลอยตายก็บอกว่าเป็นปลากัด ซึ่งเป็นเรื่องน่าละอายมากของผู้ทำคลิป เรื่องแบบนี้เป็นการสร้างประเด็นมุ่งโจมตีประเทศไทยให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่องค์กรมากกว่าที่จะพิทักษ์สัตว์อย่างแท้จริง"

ดร.สหภพ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องลิงเก็บมะพร้าว ถือเป็นวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน มีการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างดี แต่ก็เป็นเหรียญสองด้าน หากมีภาพไม่เหมาะสม แม้เป็นเพียงส่วนน้อยแต่ก็จะถูกองค์กรต่างชาติหยิบไปโจมตีได้ตลอด ดังนั้นภาครัฐจึงควรใช้ประเด็นนี้พัฒนากฎเกณฑ์มาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ให้ดีขึ้นและยั่งยืน เพื่อไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0