โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นักวิจัยชี้ผู้ที่อยู่ในเขตที่มีฝุ่น PM 2.5 มานาน 10 ปี มีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่าคนในพื้นที่อื่น

The Momentum

อัพเดต 08 เม.ย. 2563 เวลา 13.33 น. • เผยแพร่ 08 เม.ย. 2563 เวลา 13.33 น. • THE MOMENTUM TEAM

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในพื้นที่ซึ่งมีมลพิษทางอากาศสูง เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสมากกว่าผู้ที่อยู่ในเขตที่ที่อากาศสะอาดกว่า   

ข้อสรุปนี้มาจากการศึกษาของนักวิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่วิเคราะห์ข้อมูลค่าฝุ่นละอองอากาศในช่วง17 ปีที่ผ่านมา ใน3,080 เขตของสหรัฐอเมริกากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จนถึง4 เมษายน เพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างมลพิษในอากาศ และผู้เสียชีวิตหรือมีอาการหนักจากโรคโควิด-19 ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติระดับประเทศที่แสดงการเชื่อมโยงระหว่างอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และโรคอื่นๆ กับการสัมผัสกับฝุ่นPM 2.5 ในระยะยาว

ฟรานเซส โดมิชี ศาสตราจารย์ด้านชีวสถิติ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า ผลการศึกษานี้เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เขตที่มีมลพิษทางอากาศมากกว่า ประชาชนเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า รวมทั้งมีจำนวนผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตมากกว่า ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพิจารณาในการจัดสรรทรัพยากร

นักวิจัยพบว่า ผู้ที่อยู่ในเขตที่มีฝุ่นPM 2.5 มานาน10 ปี มีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่าคนที่อาศัยในพื้นที่อื่น ซึ่งสัมผัสฝุ่นน้อยกว่าแค่1 หน่วย15% ตัวอย่างเช่น หากแมนฮัตตันมีค่าเฉลี่ยของฝุ่นPM2.5 ในระดับที่น้อยลงกว่านี้เพียง1 ไมโครกรัมต่อ1 ลูกบาศก์เมตรในช่วง20 ปีที่ผ่านมา แมนฮัตตันก็จะมีผู้เสียชีวิตน้อยลงกว่าตอนนี้248 คน

ข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเมินการจัดสรรเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจในพื้นที่ต่างๆ ได้ ในระยะสั้น โดมิชิและผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขกล่าวว่า ข้อค้นพบนี้บ่งบอกว่า พื้นที่อย่างเซนทรัลวาลลีย์ของแคลิฟอร์เนีย หรือเขตคูยาโฮกา รัฐโอไฮโออาจต้องเตรียมรับมือกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ระดับรุนแรงมากกว่า

ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่พบว่า ผู้ที่สัมผัสกับมลพิษอากาศมาก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคซาร์สในปี2003  นักวิจัยระบุว่า ผลการศึกษาเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์ทั้งระหว่างและหลังจากวิกฤตโควิด-19 

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลไม่ได้ดูข้อมูลในระดับบุคคล และไม่ได้ตอบคำถามว่าทำไมบางพื้นที่จึงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากกว่าเขตอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าฝุ่นPM 2.5 มีบทบาทอย่างไรต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่อื่นๆ นอกสหรัฐอเมริกา เพื่อดูว่าการหายใจเอาอากาศที่สกปรกเข้าไปในช่วงชีวิตหนึ่งจะทำให้คนติดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ได้มากขึ้นแค่ไหน

ที่มา:

https://www.nytimes.com/2020/04/07/climate/air-pollution-coronavirus-covid.html

https://projects.iq.harvard.edu/covid-pm

https://www.theguardian.com/environment/2020/apr/07/air-pollution-linked-to-far-higher-covid-19-death-rates-study-finds

ภาพ:  GREG BAKER / AFP

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0